วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2553

10 เมืองสุดโรแมนติกในอเมริกา


หากพูดถึงดินแดนอันสุดแสนจะโรแมนติกสำหรับคู่รักหลาย ๆ คน เราอาจจะนึกไปถึงแดนกิมจิอย่างเกาหลี อิตาลี หรือเนเธอร์แลนด์ที่มีบรรยากาศสุดหวาน เพราะประเทศเหล่านี้ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นสถานที่ฮันนีมูนที่ดีอันดับต้น ๆ เลยล่ะ แต่หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังวางแผนบินลัดฟ้าไปต่างประเทศ เพื่อพักผ่อนหลังแต่งงาน หรือฮันนีมูน แต่อยากจะไปในสถานที่ที่แตกต่างกับคนอื่นบ้างแล้วล่ะก็ ...
วันนี้ขอแนะนำประเทศสหรัฐอเมริกา จุดหมายอันดับหนึ่งของคนทั่วโลกนี่แหละค่ะ ใครบอกว่าที่นี่มีแต่ความวุ่นวาย จะบอกให้ว่าหลาย ๆ เมืองในอเมริกามีบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติกอย่าบอกใคร เหมาะสำหรับคู่รักหวานแหววซะเหลือเกิน ซึ่งชาวอเมริกันเค้าได้มีการจัดอันดับ 10 เมืองโรแมนติกที่สุดในอเมริกามาให้ดูกันแล้ว ว่าแล้วก็ไปดูว่ามีเมืองไหนกันบ้าง ...

โฮโนลูลู

1 โฮโนลูลู แม้ว่าโฮโนลูลูจะเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในฮาวาย แต่ก็เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยของบ้านเมือง และบรรยากาศสงบ ๆ ที่ซ่อนอยู่ในเมืองหนาแน่นแห่งนี้ ที่สำคัญเป็นเมืองเกาะ รายล้อมไปด้วยท้องทะเล จึงไม่แปลกที่เมื่อพระอาทิตย์ตกดินเมื่อไหร่ เมืองนี้จะมีกลิ่นอายแห่งความโรแมนติกเข้ามาแทนที่ความวุ่นวายทันที

ชาร์ลสตัน

2 ชาร์ลสตัน รัฐเวอร์จิเนีย เป็นจุดหมายที่เป็นที่นิยมของชาวอเมริกันเหลือเกิน ด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม และมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งโบสถ์ สถานที่ทางประวัติศาสตร์ และสถานที่ที่เต็มไปด้วยแสงไฟยามค่ำคืน จึงทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายอันดับต้น ๆ ของคู่รักชาวอเมริกันเลยทีเดียว

ซาน ฟรานซิสโก

3 ซาน ฟรานซิสโก เมืองนี้ขอบอกว่าใครไม่ไปเห็นกับตาตัวเอง คงไม่รู้สึกถึงเสน่ห์ที่ดึงดูดให้ผู้มาเยือนหลงใหล จนรู้สึกว่าเป็นมากกว่าความประทับใจ ด้วยทัศนียภาพทางธรรมชาติที่หลากหลาย ที่ผสมผสานกับความเป็นเมืองได้อย่างลงตัว


นิว ออร์ลีนส์

4 นิว ออร์ลีนส์ หากคุณมองหาสถานที่สงบ ๆ นิวออร์ลีนน่าจะเป็นเมืองที่สุดพิเศษสำหรับคุณในการเดินทางครั้งนี้ เพราะที่นี่มีหลากหลายสถานที่ที่รายล้อมไปด้วยสีเขียว หายใจได้อย่างเต็มปอดกันเลยทีเดียว

ซานตาเฟ่่

5 ซานตาเฟ่่ เมืองนี้เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่บอกได้คำเดียวว่า เก๋ และน่ารักเอามาก ๆ สถานที่ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นบ้านคนหรือโบสถ์ต่าง ๆ สร้างขึ้นด้วยสีเอิร์ธโทนทั้งนั้น และที่สำคัญยังมีเอกลักษณ์ตรงที่คนที่นี่มักก่อสร้างที่อยู่อาศัยด้วยดิน เหมาะสำหรับคนที่ชอบบรรยากาศโรแมนติกแบบย้อนยุคหน่อย ๆ ค่ะ

ซานดิเอโก

6 ซานดิเอโก แคลิฟอร์เนีย แม้จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองคนรวย แต่ก็เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ธรรมชาติ และความเป็นเมืองอยู่ด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมทั้งยังมีบรรยากาศดี ๆ อากาศดี ๆ ให้คุณหายใจได้เต็มปอด และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทะเล ชายหาด โบสถ์ หรือสถานที่สุดทันสมัย เรียกว่ามาเมืองเดียวได้ครบทุกรสชาติเลยล่ะ


ซานแอนโตนิโอ

7 ซานแอนโตนิโอ ในเท็กซัส เมืองที่เสน่ห์อยู่ในความวุ่นวายของผู้คน ใครที่รักเสียงเพลงและความครึกครื้นยามค่ำคืน ที่นี่ดูจะเหมาะเหม็งที่สุดเลยทีเดียว

ลาสเวกัส

8 ลาสเวกัส ขึ้นชื่อเรื่องเมืองแห่งแสงสี ไนท์ไลฟ์ แต่ไม่ได้เด่นเรื่องคาสิโนอย่างเดียวนะ เพราะหากมองให้ลึก ๆ แล้ว สีสันยามค่ำคืนนี่แหละที่เป็นเสน่ห์ของเมืองนี้ ที่ทำให้ผู้คนที่เคยไปเยือนครั้งแรก อยากกลับไปเยือนอีกครั้งและอีกครั้งมาแล้ว


ไมอามี่

9 ไมอามี่ เมืองที่น่าตื่นเต้นที่สุดในฟลอริดา แต่ทว่าสวยงามด้วยต้นปาล์มที่ถูกปลูกไว้ทั่วเมือง รวมถึงสีสันยามค่ำคืนของที่นี่ก็ไม่ได้เป็นรองใครด้วย

นิวยอร์ค

10 นิวยอร์ค เมืองแห่งความทันสมัย และนี่คงจะเป็นเสน่ห์ที่ไม่เพียงแต่จะดึงดูดให้เหล่านักธุรกิจเข้ามาเยือนเท่านั้น แต่นักท่องเที่ยวก็ไม่แพ้กัน และนอกจากจะทันสมัยแล้ว ยังซ่อนกลิ่นอายของประวัติศาสตร์อันแสนยาวนานของเมืองนี้ไว้ลึก ๆ อีกด้วย



5 วิธีง่าย ๆ ป้องกันเชื้อราที่มากับหน้าฝน



5 วิธีง่าย ๆ ป้องกันเชื้อราที่มากับหน้าฝน (Woman's Story)

เมื่อมีฝน สิ่งที่ตามมาก็คือความเปียกชื้นแล้วก็เชื้อรานะคะ เพราะฉะนั้น หากไม่อยากให้เชื้อรารุกล้ำเข้ามาทำร้ายก็ต้องดูแลตัวเองดี ๆ หลังจากไปโดนฝนมาค่ะ ซึ่งวันนี้ก็มีเกร็ดความรู้ในเรื่องนี้มาแนะนำให้เอาไปใช้กันค่ะ


1 ยกเท้าสูงเข้าไว้

เวลาเดินลุยน้ำขัง ไม่ควรเดินให้เท้าอยู่ใต้น้ำ เพราะอาจไปเดินไปเตะโดนของมีคม หรืออะไรก็ตามที่ทำให้เกิดแผลได้ ซึ่งเมื่อเกิดแผลก็ทำให้เกิดการติดเชื้อได้



2 ทำความสะอาดทันที

เมื่อกลับถึงบ้านควรรีบถอดรองเท้า ถุงเท้าออก และทำความสะอาดโดยใช้สบู่ฟอกให้ทั่วตรงบริเวณที่โดนน้ำ โดยเฉพาะซอกนิ้ว ซอกเล็บ ล้างให้สะอาด เช็ดเท้าให้แห้ง และทาแป้งบนหลังเท้าจะช่วยทำให้เท้ารู้สึกสบายไม่อับชื้น



3 อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

เพื่อไม่ให้เป็นการหมักหมมของเชื้อโรคต่าง ๆ ที่มากับน้ำ ให้รีบอาบน้ำชำระล้างร่างกายทันทีเมื่อกลับถึงบ้าน แต่ถ้าไม่สามารถอาบน้ำได้ ก็ให้เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่แทนได้ จะได้ไม่เป็นหวัด



4 สระผมให้สะอาด

เพื่อเป็นการกำจัดเชื้อโรคที่มากับฝนก็ควรสระผมให้สะอาด และควรรอให้แห้งก่อนเข้านอน ไม่อย่างนั้นอาจเป็นรังแคหรือเชื้อราได้


5 เตรียมพร้อมรับมือเสมอ

เมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าฝนควรพกร่มติดตัวไว้เสมอ พร้อมทั้งดูแลตัวเองให้อับชื้นน้อยที่สุด จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อราได้มากขึ้น





วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ฮีโร่ตัวจริง! การ์ตูนซูเปอร์แมนช่วยไม่ให้โดนยึดบ้าน


ครอบครัวชาวอเมริกัน ที่ถูกยึดบ้าน กำลังเก็บของเตรียมย้ายที่อยู่ แต่กลับพบการ์ตูนซูเปอร์แมนในห้องเก็บของ จึงนำออกขาย รอดจากการโดนยึดบ้านหวุดหวิด

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ครอบครัวชาวอเมริกันครอบครัวหนึ่งที่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อ ถูกยึดบ้านและกำลังเตรียมเก็บข้าวของเพื่อย้ายออกจากบ้าน กลับพบการ์ตูนซูเปอร์แมนที่ตีพิมพ์เป็นฉบับแรก ที่เคยเป็นของสำนักพิมพ์ Action Comics ซึ่งเป็นการ์ตูนเก่าแก่เป็นที่ต้องการของนักสะสมเป็นอย่างมาก พวกเขาจึงได้ติดต่อไปยังสำนักพิมพ์ Comic Connect เพื่อเสนอการ์ตูนเล่มบุกเบิกสภาพดีของพวกเขา และเตรียมประมูลในวันที่ 27 ส.ค.-17 ก.ย.นี้

โดยการประมูลการ์ตูนเล่มดังกล่าว คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 250,000 ดอลล่าร์ (7,500,000 บาท) ซึ่งทำให้ครอบครัว 2 สามี-ภรรยา คู่นี้ รอดพ้นจากการโดนยึดบ้านได้ในที่สุด

ทั้งนี้ สองสามี-ภรรยา กล่าวว่า พวกเขาตื่นเต้นมากเมื่อรู้ว่าการ์ตูนซูเปอร์แมนของพวกเขามีราคาเท่าไหร่ และคิดว่าพวกเขาโชคดีมากที่การ์ตูนเล่มนั้นสามารถช่วยพวกเขาให้รอดพ้นจากการโดนยึดบ้านได้






วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2553

สัญญาณอันตรายของผู้ที่เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย


พฤติกรรมการฆ่าตัวตายและสัญญาณอันตรายของผู้ที่เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย (โครงการช่วยเหลือผู้มีภาวะซึมเศร้า)
พฤติกรรมการฆ่าตัวตาย แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ
1 คิดฆ่าตัวตาย
2 ทำร้ายตนเอง แต่ไม่เสียชีวิต
3 ฆ่าตัวตาย
คนทั่วไป อาจมีความคิดชั่ววูบที่อยากตาย ความคิดเช่นนี้มักเกิดขึ้นในช่วงชีวิตประสบปัญหายุ่งยาก เกิดความเครียด ทำให้รู้สึกว่าชีวิตไม่มีความหมาย หรือเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ รู้สึกไม่เป็นที่รัก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความคิดดังกล่าวก็จะค่อย ๆ ลบเลือนหายไปได้เอง ต่างจากผู้ป่วยโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรงที่มีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย
สัญญาณอันตรายของผู้ที่เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย
1 แยกตัว ไม่พูดกับใคร
2 มีคนในครอบครัวฆ่าตัวตายมาก่อน
3 เคยพยายามฆ่าตัวตายมาแล้ว
4 มีการวางแผนแผนฆ่าตัวตายที่แน่นอน
5 เวลาพูด มีน้ำเสียงวิตกกังวล สีหน้าเศร้าหมอง
6 ติดเหล้าหรือยาเสพติด
7 ทรมานจากโรคจนต้องพึ่งยารักษาประและนอนไม่หลับติดกันเป็นเวลานานๆ
8 ชอบพูดเปรยๆว่าอยากตาย ไม่อยากมีชีวิตอยู่
9 ประสบปัญหาชีวิต เช่น ล้มละลาย สูญเสียคนรักกะทันหัน เป็นโรคเรื้อรัง พิการจากอุบัติเหตุ
10 มีอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ที่น่าระวังคือ เมื่ออารมณ์เปลี่ยนแปลงเป็นตรงกันข้าม จากซึมเศร้าหรือหงุดหงิดมานานกลับดูสบายใจอย่างผิดหูผิดตา ช่วงนี้แสดงว่า เขารวบรวมความกล้าและตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะฆ่าตัวตาย
การป้องกันและเยียวยาผู้ที่มีความเสี่ยงในการฆ่าตัวตาย
สำหรับการป้องกันนั้น การอบรมเลี้ยงดูบุตรให้มีวุฒิอารมณ์สมวัย สามารถต้านทานการฆ่าตัวตายได้ ต้องเริ่มต้นตั้งแต่เด็ก คนทุกข์ใจมักไม่มีโอกาสได้พูดระบาย มีแต่คนคอยสอนเตือน ห้ามหรือซ้ำเติม แต่ไม่มีคนคอยฟัง เราจึงช่วยได้ด้วยการให้ความใส่ใจ รับฟังปัญหา และให้คำแนะนำที่เปนประโยชน์
ท่าทีในการคุยเป็นสิ่งสำคัญ ควรฟังด้วยท่าที พร้อมที่จะรับในสิ่งที่เขาเล่า ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นอย่างไร อย่าด่วนตัดสินใจว่า เขาไม่น่าทำอย่างนี้หรือหรือทำอย่างนั้น ขอให้ฟังด้วยความเยือกเย็นและไม่วิตกกังวล เขาจะสบายใจขึ้นจากการรับรู้ว่า เราแคร์เขา
ถ้าผู้ใดมีสัญญาณดังกล่าวมานี้ ญาติพี่น้องหรือเพื่อนสนิท ควรจะดูแลคนผู้นั้นอย่างดี คอยอยู่เป็นเพื่อนพูดคุยอย่างใกล้ชิด พูดให้กำลังใจ เพื่อให้คลายความเศร้ากังวล พาไปออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน
ทุกปัญหามีทางแก้ไข หากแก้ไขคนเดียวไม่ได้ก็ควรไปพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา เพื่อให้คำปรึกษาที่ดีกว่าคิดคนเดียว หรือ โทรสายด่วนกรมสุขภาพจิต 1323

อย่าเปิดเครื่องปรับอากาศ (แอร์) ทันทีที่คุณขึ้นรถ!


อย่าเปิดเครื่องปรับอากาศ (แอร์) ทันทีที่คุณขึ้นรถ!

อย่าเปิดเครื่องปรับอากาศ (แอร์) ทันทีที่คุณขึ้นรถ! โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณจอดรถตากแดดไว้ ให้เปิดหน้าต่างหลังจากขึ้นรถ และอย่าเปิดแอร์ทันทีตามผลการวิจัย แผงหน้าปัทม์ (คอนโซล) เบาะที่นั่ง และน้ำหอมปรับอากาศ จะสร้างสารเบนซีนที่เป็นสารก่อมะเร็งขึ้น ( อย่างที่คุณได้กลิ่่นเหมือนพลาสติคจาง ๆ ในรถ) นอกจากเป็นสาเหตุให้เป็นมะเร็งแล้ว สารดังกล่าวยังเป็นพิษต่อกระดูก ทำให้เกิดโรคโลหิตจาง และลดจำนวนเม็ดเลือดขาว ซึ่งในระยะยาวอาจทำให้เป็นโรคลูคีเมีย และอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์มารดาได้
ระดับของสารเบนซีนที่ยอมรับได้ในอาคาร / ในรถ คือ 50 มิลลิกรัม ต่อตารางฟุต แต่ระดับของสารเบนซีนในรถที่จอดอยู่ในร่มมีค่าอยู่ที่ 400 - 800 มิลลิกรัม หากรถจอดอยู่กลางแจ้งที่มีอุณหภูมิสูงเกินกว่า 60 องศาฟาร์เรนไฮท์ ( 15.5 องศาเซลเซียส ) ระดับของสารเบนซีนจะสูงขึ้นถึง 2000 -4000 มิลลิกรัมคือสูงกว่าระดับที่ยอมรับได้ถึง40เท่าคนที่อยู่ในรถจะหายใจเอาสารพิษที่สูงเกินมาตรฐานดังกล่าวเข้าไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้นจึงขอ แนะนำว่าให้คุณเปิดประตู หน้าต่างรถไว้สักระยะเพื่อให้อากาศที่อยู่ในตัวรถออกมาก่อนจะ เข้าไปนั่ง สารพิษที่ร่างกายคุณไม่สามารถขับออกได้โดยง่าย จะได้ลดปริมาณลง

สุดทึ่ง! ศิลปะบนหัวดินสอ





ศิลปินหลายคนอาจจะใช้ดินสอเป็นเครื่องมือในการสร้างสรรค์งาน ศิลปะต่าง ๆ แต่สำหรับ ดอลตัน เกตตี้ ศิลปินชาวบราซิลเลียนวัย 49 ปีคนนี้ คงจะไม่ใช่ เพราะสำหรับเขาแล้ว ดินสอ ไม่ใช่อุปกรณ์วาดรูปของเขาเลย หากแต่เป็น "วัตถุดิบ" ที่จะใช้เป็นตัวงานศิลปะของเขาต่างหาก




และนี่ก็ถือเป็นงานศิลปะที่น่าทึ่งเอามาก ๆ เมื่อเขาสามารถแกะสลักหัวดินสอขนาดเล็กจิ๋วให้กลายเป็นรูปเป็นร่างสวยงามออกมาได้ ไม่ว่าจะเป็นรูปบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่าง เอลวิส เพรสลีย์ หรือแม้แต่ลวดลายรูปหัวใจคล้องกันอย่างที่เห็นกันอยู่นี้ เรียกได้ว่าใครเห็นก็ต้อง อึ้ง ทึ่ง และยอมซูฮกให้กับความประณีตและละเอียดบรรจงของเขาเลยทีเดียว

แต่หากจะคิดว่านี่คืองานที่เขาชำนาญและง่ายสำหรับเขาแล้วล่ะก็ เห็นทีจะคิดผิดถนัดค่ะ เพราะงานนี้เจ้าตัวเองยังเปิดเผยว่า แม้จะใช้เวลาฝึกฝนมานานหลายปี และเริ่มแกะสลักดินสออย่างเป็นจริง เป็นจังตั้งแต่ปี 2002 แล้ว แต่ทุกครั้งที่เขาลงมือแกะสลัก เขาต้องรวบรวมสมาธิเป็นอย่างมาก และมือต้องนิ่งและเบาที่สุด ซึ่งบ่อยครั้งที่กว่าจะได้งานศิลปะบนหัวดินสอมา ก็ต้องหักดินสอแล้วแกะสลักใหม่ถึง 5-6 ครั้งเลยทีเดียว




ปัจจุบันนี้ ดอลตัน เกตตี้ ยังคงทุ่มเทเวลาในชีวิตทั้งหมดเพื่องานศิลปะบนหัวดินสอต่อไป และมีผลงานมาแล้วนับพันชิ้น เขาบอกว่าเขารักที่จะสร้างสรรค์ศิลปะที่ไม่เหมือนใครตรงนี้ต่อไป และนี่คือความภาคภูมิใจของเขา



วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2553

สามพันโบก

มหัศจรรย์ สามพันโบก แกรนด์แคนยอนเมืองไทย




หากต้องเดินทางไกลไปสัมผัสกับสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ อย่าง "แกรนด์แคนยอน" ดินแดนแห่งหินผาและหุบเหว ในรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเลแตกต่างกันไปตั้งแต่ 381-2,793 เมตร มีความกว้างตั้งแต่ 2-24 กิโลเมตร และลึกประมาณ 1,600 เมตร ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกแวะเวียนไปพิสูจน์ความงามนับเป็นแสน ๆ คนต่อปี... อาจจะดูไกลไปนิด... วันนี้เราขอแนะนำให้รู้จักกับ "แกรนด์แคนยอนเมืองไทย" สถานที่ท่องเที่ยวแสนใกล้ ที่ขอรับรองว่าโดนใจคนไทยแน่นอน นั่นก็คือ... "สามพันโบก" แก่งหินขนาดใหญ่ในลำน้ำโขง ที่มีความสวยงามมากๆ

"สามพันโบก" ตั้งอยู่ที่บ้านโป่งเป้า ตำบลเหล่างาม อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี เป็นแก่งหินขนาดใหญ่ในลำน้ำโขง ซึ่งจะปรากฏให้เห็นเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง (ประมาณเดือนมกราคม – เมษายน) ทั้งนี้ ที่เรียกว่า "สามพันโบก" เพราะบนแก่งหินมีแอ่งน้ำขนาดเล็กใหญ่จำนวนมากกว่า 3,000 แอ่ง (คำว่า "โบก" เป็นภาษาลาว แปลว่า "แอ่ง") จึงเรียกที่นี่ว่า สามพันโบก





นอกจากนี้ ลักษณะของแก่งหินยังมีขนาดใหญ่มากคล้ายภูเขากลางลำน้ำโขง ความสวยงามวิจิตรของหินที่ถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนเว้าแหว่ง มองเห็นเป็นภาพศิลปะ มีรูปร่างแตกต่างกันออกไป ใหญ่บ้างเล็กบ้าง บ้างเป็นรูปวงรี รูปดาว รูปวงกลม และรูปอื่นๆ อีกมากมาย ตามแต่ที่เราจะจินตนาการ เพราะมีมากกว่า 3,000 แอ่ง ที่นี่จึงได้ฉายาว่า "แกรนแคนย่อนเมืองไทย" ...ถ้าอยากรู้ว่าสวยงามแค่ไหน ต้องลองไปพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองค่ะ

อย่างไรก็ตาม การเดินทางท่องเที่ยวทางเรือไปยังแก่งสามพันโบก นิยมนั่งเรือจากหาดสลึง ที่บ้านสองคอน ตำบลสองคอน อำเภอโพธิ์ไทร ล่องตามลำน้ำโขงระยะทาง 4 กิโลเมตร ระหว่างทางจะผ่าน "ปากบ้อง" จุดแคบที่สุดของแม่น้ำโขง ซึ่งมีความกว้างเพียง 56 เมตร และ "หินหัวพะเนียง" เป็นแก่งหินกลางแม่น้ำที่ทำให้แม่น้ำโขงแยกออกเป็นสองสาย หรือสองคอน ในภาษาท้องถิ่น จึงเป็นที่มาของชื่อ "บ้านสองคอน"





และในบริเวณใกล้เคียงกันนั้น ยังมี "ถ้ำ" ที่มีความสวยงามมาก คือ ถ้ำนางเข็นฝ้าย, ถ้ำนางต่ำหูก, หาดหงษ์, หาดหินสี, หลักศิลาเลข, แก่งสองคอน, ภูเขาหิน และหาดแห่ โดยมีที่พักให้นักท่องเที่ยวได้พักอย่างสะดวกสบายริมหาดสลึง พร้อมร้านอาหารไทยและอีสานมากมาย

ภาวะซึมเศร้าในเด็กวัยเรียน


ภาวะซึมเศร้าในเด็กวัยเรียน (โครงการช่วยเหลือผู้มีภาวะซึมเศร้า) โดย สีนีนาฏ จิตต์ภักดี
อารมณ์ซึมเศร้าของเด็กจะคล้ายคลึงกับผู้ใหญ่ สังเกตได้จากการที่เด็กไม่สามารถคิดหรือทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ เด็กเหล่านี้จะรู้สึกเหงา เศร้า ว้าเหว่ ขาดความภูมิใจในตนเอง มองโลกในแง่ร้าย รู้สึกผิดตลอดเวลา มีปัญหาการเรียน การนอน การขับถ่าย บางครั้งอาจมีปัญหาปัสสาวะรดที่นอน เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เก็บตัว ไม่อยากไปโรงเรียน
ถ้าเป็นเด็กโตอาจพูดถึงการฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นการบอกเหตุที่สำคัญต้องเฝ้าระวัง ป้องกันไม่ให้เกิดการทำร้ายตนเองหรือทำร้ายผู้อื่น อาการซึมเศร้าอาจเกิดจากสาเหตุหลาย ๆ อย่าง เช่น สอบตก เพื่อนไม่ชอบเขา พ่อแม่หย่าร้างกัน การเสียชีวิตของผู้เป็นที่รัก
เด็กที่กำลังอยู่ในภาวะซึมเศร้า ผู้ปกครองควรอยู่ใกล้ชิด เฝ้าสังเกตพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลง ควรระมัดระวังคำพูดและการทำบางอย่างที่อาจไปกระทบจิตใจเด็ก ผู้ปกครองควรหากิจกรรมที่สนุก ที่เด็กชอบทำ เช่น เล่นกับสัตว์เลี้ยง เล่นกีฬา ทำงานอดิเรกที่ชอบ ฯลฯ เพื่อไม่ให้เด็กซึมเศร้า แยกตัวอยู่ตามลำพัง
การแสดงออกของพ่อแม่ ผู้ปกครองที่บ่งบอกว่ารักและเข้าใจ พร้อมที่จะช่วยเหลือให้คำแนะนำแก่เด็ก เป็นสิ่งสำคัญที่จะให้เด็กกล้าพูดหรือเล่าเรื่องที่เขากำลังคับข้องใจแล้ว ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ บางครั้งยาจะช่วยรักษาอาการซึมเศร้าได้ จึงควรพาเด็กมาพบแพทย์ หากเด็กมีภาวะซึมเศร้านานเกิน 1 เดือน

แด่...คนไม่ชอบ ผัก


แด่...คนไม่ชอบ ผัก (สวยด้วยแพทย์)

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่ชอบทาน "ผัก" เรามีทางออกง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณกลืนผักได้คล่องคอมากขึ้นมาฝากกันค่ะ

ค้นหาผักที่คุณชอบ

ในโลกนี้มีผักอยู่หลากหลายชนิด ลองค่อย ๆ ค้นหาผักที่คุณชื่นชอบดูไม่ว่าจะอยู่ในรูปของผักดอง แช่แข็ง หรือแม้กระทั่งบรรจุในกระป๋อง (แม้ว่าผักกระป๋องจะให้สารอาหารเทียบไม่ได้กับผักสด หรือแช่แข็ง แต่พวกมันก็ยังดีกว่าชีสเบอร์เกอร์) ผักแต่ละชนิดต่างก็มีคุณค่าทางโภชนาการแตกต่างกันไป ดังนั้น หยุดวิตกเรื่องที่คุณไม่ทานผักชนิดที่คนอื่นนิยมกัน คุณสามารถเลือกในสิ่งที่ชอบโดยไม่ต้องไปผูกติดอยู่กับใคร แต่สิ่งสำคัญสำหรับข้อนี้ก็คือ คุณต้องเป็นคนที่ชอบหรือกล้าที่จะทดลองสิ่งใหม่ ๆ ค่ะ

เมนูสลัดแสนอร่อย

การนำผักหลาย ๆ ชนิดมาผสมผสานเป็นเมนูสลัด ไม่เพียงช่วยให้คุณได้รับสารอาหารที่หลากหลาย ตัวคุณเองยังไม่ต้องกล้ำกลืนทานแต่ผักชนิดใดชนิดหนึ่งด้วยค่ะ แต่การซื้อผักหลากหลายชนิดเพื่อทำเมนูสลัดสำหรับคน ๆ เดียวอาจจะดูยุ่งยากเกินไปสักหน่อย ถ้ายังไงลองหาซื้อสลัดที่ทำเป็นชุดสำเร็จรูปสำหรับทานคนเดียว หรือจะไปที่สลัดบาร์ตามศูนย์การค้า ที่สามารถเลือกผักแค่ในปริมาณที่เราจะทานค่ะ

รู้จักดัดแปลง

คุณไม่จำเป็นต้องทานแต่ผักดิบ ลองนำผักหลาย ๆ ชนิดมาดัดแปลงเป็นอาหารประเภทต่าง ๆ ดูบ้างค่ะ เช่น นำมาทานซุป สตูว์ หรือปรุงเป็นซอสราดสปาเกตตี้ เป็นต้น อาหารเหล่านี้ถึงจะมีผักหลายชนิดปนเปกันอยู่ แต่ก็ไม่สามารถแยกแยะรสชาติออกมาเป็นอย่าง ๆ ได้ หรือถ้าจำเป็นต้องทานผักชนิดเดียว ก็ลองให้ปรุงด้วยวิธีที่แตกต่างกัน เช่น ลวก ต้ม นึ่ง ผัด อบด้วยไมโครเวฟ ซึ่งจะให้รสชาติไม่ซ้ำซากจำเจ

คุณอาจจะซอยผักให้มีขนาดละเอียดขึ้นแทนที่จะต้องกินแบบชิ้นโต ๆ ที่เห็นทีไรหมดความรู้สึกเจริญอาหารทุกที หรือแม้แต่การนำผักและผลไม้มาแปลงเป็นน้ำผัก และผลไม้ก็เป็นความคิดที่ไม่เลวค่ะ
เสริมด้วยผลไม้บ้าง

แม้ว่าผลไม้จะมีคุณค่าทางสาารอาหารที่พอจะทดแทนผักได้บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด ฉะนั้น อย่าเลือกทานแต่ผลไม้โดยหลีกเลี่ยงไม่ทานผักเลย จริง ๆ แล้วอัตราส่วนผักกับผลไม้ที่แนะนำให้ทานต่อวันเท่ากับ 4:3 แถมผักยังมีสารอาหารและส่วนประกอบหลายอย่าง ที่คุณไม่สามารถหาทดแทนได้จากอย่างอื่นด้วยค่ะ

เติมคุณค่าด้วยอาหารเสริม

คุณอาจทานผักที่ถูกแปรมาในรูปของอาหารเสริมชนิดเม็ด หรือจะเป็นพวกวิตามินเสริมต่าง ๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหาร แต่จำไว้ว่าอาหารเสริมเหล่านี้ เทียบไม่ได้กับการรับประทานผักตามธรรมชาติค่ะ

หวังว่าคงไม่ยากเกินไปสำหรับ "ชมรมคนเกลียดผัก" นะคะ