วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2553

วิธีฟื้นฟูผมเสีย ให้กลับมาสวย

วิธีฟื้นฟูผมเสีย ให้กลับมาสวย (ไอเอ็นเอ็น)

วันนี้เรามีเคล็ดลับผมสวยดี ๆ มาฝากคุณสาว ๆ ที่อยากมีผมสวยกันอีกแล้ว ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้น เราไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

ทุกเช้าหลังตื่นนอน ใช้ปลายนิ้วมือสางผมอย่างอ่อนโยนป้องกันปัญหาผมพันกัน

ก่อนสระผมใช้แปรงไม้แปรงผมอย่างเบามือ เพื่อให้สิ่งสกปรกที่ติดผมอยู่หลุดออก เพื่อความนุ่มสวยของผม ก็อาจจะใช้น้ำมันมะกอกชโลมที่เส้นผมแล้วใช้มือสางให้ ทั่วหมักทิ้งไว้ 10 นาทีก่อนสระ

เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพผมที่เหมาะกับสภาพผม หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรง ๆ ซึ่งอาจทำลายสมดุลของสุขภาพผมได้

หมั่นบำรุงผมด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมอยซ์เจอไรเซอร์เข้มข้น เพื่อคืนความชุ่มชื้นที่สูญเสียไปให้แก่เส้นผม หลีกเลี่ยงการใส่ครีมนวดบริเวณโคนผมเพราะจะทำให้หนังศีรษะมัน

อย่าเกาศีรษะหรือขยี้ผมแรง ๆ ระหว่างสระควรใช้ปลายนิ้วมือนวดบำรุงหนังศีรษะอย่างอ่อนโยน เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และป้องกันหนังศีรษะเป็นแผลหรือเกิดรังแค ได้

ผมเปียกจะอ่อนแอเป็นพิเศษหลังสระ จึงไม่ควรขยี้ผมหรือแปรงผมแรง ๆ แต่ถ้าจะแปรงให้ก้มหัวลง และใช้หวีแปรงที่โคนผมจนถึงปลายผมเพื่อกระตุ้นหนัง ศีรษะ

หากมีเวลาควรปล่อยให้ผมแห้งเองด้วยการใช้พัดลม หลีกเลี่ยงการไดร์ หนีบ หรือม้วนผมด้วยความร้อนสูง ๆ

รับประทานอาหารที่อุดมด้วยโปรตีน วิตามินบี 6 แมกนีเซียม สังกะสี เพื่อบำรุงเส้นผม เช่น เนื้อ ตับ ไต ข้าวซ้อมมือ กล้วย ลูกพรุน ลูกเกด ถั่ว นมและผัก

หมั่นเล็มปลายผมทุก 8-10 สัปดาห์ ปิดท้ายด้วยการหลีกเลี่ยงการรัดผม มัดผม หรือคาดผมจนตึงแน่นเพื่อลดความเครียดและป้องกันปัญหาศีรษะล้านได้

วิธีแปรงผมที่ถูกต้อง ให้แบ่งผมเป็นส่วน ๆ ค่อย ๆ หวีผมทีละส่วนด้วยหวีไม้ซี่ห่าง ๆ หลีกเลี่ยงหวีพลาสติกที่จะทำให้เกิดไฟฟ้าสถิต เริ่มแปรงผมจากด้านในมาด้านนอกแปรงผมอย่างอ่อนโยนจากบนลงล่าง

มหัศจรรย์ ตะขบ ด้อยราคา - มากคุณค่า



มหัศจรรย์ "ตะขบ" ด้อยราคา-มากค่า (ไทยโพสต์)

วิจัยพบ "ตะขบ" มีคุณค่าเหนือกว่าผลไม้นอกหลายชนิด ผลมีใยอาหาร-แคลเซียม-โปแตสเซียมสูง ดูดซับคอเลสเตอรอลลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ เส้นเลือดสมองแตก เตือนคนคุมน้ำหนัก ผู้ป่วยเบาหวานเลี่ยงลิ้นจี่-องุ่น น้ำตาล มาก

นพ।สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากการที่กลุ่มวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการ กองโภชนาการ ดำเนินการศึกษาวิจัยเรื่อง "ปริมาณใยอาหาร น้ำตาล และแร่ธาตุในผลไม้" โดยการเก็บตัวอย่างผลไม้จำนวน 30 ตัวอย่างจากท้องตลาด 5 แห่งในเขต กทม।และปริมณฑล โดยเก็บตัวอย่างละ 2 กิโลกรัมมาวิเคราะห์ใน 2 ส่วน คือ 1।วิเคราะห์น้ำตาลและน้ำ 2।วิเคราะห์ใยอาหาร โปรตีน ไขมัน และแร่ธาตุ จากผลการศึกษาพบว่า ผลไม้ในส่วนที่รับประทานได้ 100 กรัม มีน้ำเป็นส่วนประกอบ 76-94 กรัม มีใยอาหาร 0।5-6।3 กรัม มีน้ำตาลรวม 3-18 กรัม และมีพลังงาน 33-97 กิโลแคลอรี

ผลไม้ที่มีใยอาหารสูง ได้แก่ ตะขบ 6।3 กรัม ฝรั่งแป้นสีทอง 3.3 กรัม ลูกหว้า 3.3 กรัม และฝรั่งกิมจู 3.1 กรัม ผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง ได้แก่ ลิ้นจี่พันธุ์ค่อม 18 กรัม องุ่นดำไร้เมล็ด (ลูกใหญ่) 15 กรัม ลิ้นจี่จักรพรรดิ 13 กรัม สละ 13 กรัม และองุ่นแดง (ลูกใหญ่) 13 กรัม ส่วนผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย ได้แก่ เนื้อมะพร้าวอ่อน 3 กรัม ลูกหว้า 5 กรัม ลูกตาลอ่อน 5 กรัม ราสพ์เบอรี่ 6 กรัม และแคนตาลูป (เขียว) 6 กรัม

ผลไม้ส่วนใหญ่มีพลังงานน้อย เพราะมีน้ำเป็นองค์ประกอบค่อนข้างมาก จากการศึกษาครั้งนี้พบตะขบและมะม่วงเขียวเสวยดิบมีพลังงานมากกว่าผลไม้อื่น คือ มี 97 และ 87 กิโลแคลอรีต่อ 100 กรัม" นพ।สมยศกล่าว อธิบดีกรมอนามัยกล่าวว่า สำหรับปริมาณแร่ธาตุ โซเดียม โปแตสเซียม แคลเซียม ฟอสฟอรัส ในผลไม้ 100 กรัม พบว่า มีโปแตสเซียม 106-773 มิลลิกรัม โซเดียม 0।7-19.8 มิลลิกรัม แคลเซียม 0.3-108 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 0-60.7 มิลลิกรัม ผลไม้ที่มีโปแตสเซียมสูง ได้แก่ ตะขบ 773 มิลลิกรัม เชอรี่นอก 486 มิลลิกรัม เนื้อมะพร้าวอ่อน 381 มิลลิกรัม และน้ำมะพร้าวอ่อน 330 มิลลิกรัม ส่วนผลไม้ที่มีโซเดียมสูง คือ ลูกท้อสด มีโซเดียม 19.8 มิลลิกรัม ราสพ์เบอรี่ 16.7 มิลลิกรัม ตะขบ 12.8 มิลลิกรัม ผลไม้ที่มีแคลเซียมสูง คือ ตะขบ มีแคลเซียม 108 มิลลิกรัม ผลไม้ที่มีฟอสฟอรัสสูง คือ ลูกหว้า มีฟอสฟอรัส 60.7 มิลลิกรัม ตะขบ 51.7 กรัม

จากการศึกษาครั้งนี้พบตะขบฝรั่ง และ ลูกหว้า เป็นผลไม้ที่มีใยอาหารสูง ส่วนผลไม้ที่มีน้ำตาลมาก เช่น ลิ้นจี่ และองุ่น อาจเป็นผลไม้ที่ควรระวัง หรือต้องห้ามสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักและผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน แต่แนะนำให้กินเนื้อมะพร้าวอ่อนหรือลูกตาลอ่อนทดแทนได้ เพราะมีน้ำตาลน้อย ส่วนผลไม้ที่มีโซเดียมน้อยจะเป็นผลดีต่อผู้ป่วยความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ ขณะที่ปริมาณโปแตสเซียมในผลไม้จัดเป็นแร่ธาตุหลักที่พบ ซึ่งหากมีมากอาจช่วยป้องกันการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังบางชนิดได้ รวมการเกิดเส้นเลือดในสมองแตกได้เช่นกัน



วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2553

กรีนพันช์ Green Punch


กรีนพันช์ Green Punch สิ่งที่ต้องเตรียม

น้ำผลไม้เข้มข้น 1/2 ถ้วยตวง(น้ำส้มควอช, น้ำบลูเบอร์รี่สควอช,กรีนพั้นช์และฟรุตพั้นช์)
รสที่ชอบไอศกรีมรสวานิลลา 2 ลูก
น้ำโซดาแช่เย็นจัด 1 ถ้วยตวง
น้ำแข็งบดละเอียด 1/2 ถ้วยตวง
ไอศกรีมรสที่ชอบและใบสะระแหน่สำหรับแต่ง
วิธีทำ
- ผสมน้ำผลไม้เข้มข้นรสที่ชอบกับไอศกรีมรสวานิลลา น้ำโซดาและน้ำแข็งบดละเอียดในโถปั่น ปั่นจนส่วนผสมเข้ากันดี เทใส่แก้วสำหรับเสิร์ฟ แต่งข้างแก้วด้วยไอศกรีมรสที่ชอบและใบสะระแหน่ให้สวยงาม

ฟรุตตี้พันช์



สิ่งที่ต้องเตรียม

น้ำลิ้นจี่กระป๋อง 1 กระป๋อง
น้ำสัปปะรดกระป๋อง 1 กระป๋อง
น้ำมะเขือเทศกระป๋อง 1 กระป๋อง
โซดา 1 ถ้วยตวง
วิสกี้ 1/2 ถ้วยตวง
น้ำมะนาว 1/2 ถ้วยตวง
น้ำเชื่อม (หากชอบหวาน หรือดื่มกับน้ำแข็ง)
ฟรุตค็อกเทล 1 กระป๋อง

วิธีทำ
- ผสมส่วนผสมทั้งหมด คนผสมให้เข้ากัน
- ตกแต่งหน้าด้วยมะนาวฝานบาง ๆ นำเข้าตู้เย็นก่อนเวลาเสิร์ฟ

ราสเบอรี่อิตาเลียนโซดา


ดื่มด่ำกับความเย็นซ่าของโซดาและความเปรี้ยวหวานของราสเบอรี่อย่างลงตัว

ส่วนผสม:
- น้ำเชื่อมโทรานี่ กลิ่นราสเบอรี่ (หรือกลิ่่นอื่นๆ ตามชอบ)
- โซดา
- น้ำแข็งบด

วิธีทำ
เทน้ำเชื่อมโทรานี่ลงในแก้วที่มีน้ำแข็งอยู่เต็ม ตามด้วยโซดาจนเต็มแก้ว แล้วตกแต่งด้วยใบสะระแหน่หรือผลไม้อื่นๆ ตามชอบ

แพนนาคอตต้าชาเขียว


แพนนาคอตต้าชาเขียว สำหรับ 4 ที่

เวลาเตรียม 5 นาที
เวลาปรุง 10 นาที

ส่วนผสม
1วิปปิ้งครีม 500 กรัม
2น้ำตาล 100 กรัม
3ผงชาเขียว 1 ช้อนชา
4แผ่นเจลาติน 3 แผ่น
5บลูเบอร์รี่กระป๋อง (สำหรับตกแต่ง ปริมาณตามชอบ)
วิธีทำ
1. แช่แผ่นเจลาตินในน้ำเย็นจัดประมาณ 2-3 นาทีจนอ่อนตัว
2. เทวิปปิ้งครีมรวมกับน้ำตาล คนให้เข้ากันจากนั้นนำไปต้ม
3. ใส่ผงชาเขียวลงไป แล้วยกตั้งไฟอ่อนๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ส่วนผสมเดือดก่อนผงชาเขียวละลาย คนไปเรื่อยๆ
4. ใส่แผ่นเจลาตินลงไปเป็นอันดับสุดท้าย เทใส่พิมพ์แก้ว แล้วจึงนำไปแช่เย็น ถ้าจะให้อร่อย ท็อปปิ้งด้วยบลูเบอร์รี่ รสชาติไปกันได้ดีนะ

ข้าวอบกุ้งผัดโรสเมรี่


ข้าวอบกุ้งผัดโรสเมรี่

เครื่องปรุง
1ข้าวสาร 1/2 ถ้วย
2น้ำซุบกุ้ง 4 ถ้วย
3ไวน์ขาว 1/2 ถ้วย
4เกลือ พอประมาณ
5พริกไทย พอประมาณ
6เนย 2 ช้อนโต๊ะ
7พาเมซานชีส 1/4 ถ้วย
8น้ำมันมะกอก พอประมาณ
9พาร์สรี่ย์ 1 ช้อนชา
10กระเทียมสับ 1/2 ช้อนชา
11หอมหัวใหญ่สับ 1 ช้อนโต๊ะ
12หอมแดงสับ 1 ช้อนชา
13กุ้ง 15 ตัว
14พริกป่น พอประมาณ
15บรั่นดี พอประมาณ
16ใบโหระพา พอประมาณ
17โรสแมรี่ พอประมาณ

วิธีทำ
1 นำกระทะตั้งไฟให้ร้อน ใส่เนย ใส่ข้าวสารผัดให้ขึ้นเงา เติมไวน์ขาว เกลือ พริกไทย และโรสแมรี่ ผัดให้เข้ากัน
2 เทข้าวที่ผัดแล้วลงไปในหม้อ เติมน้ำซุปลงไป หุงข้าวให้สุกประมาณ 15 นาที
3 เปิดฝาหม้อขึ้น เติมน้ำมันมะกอก พาเมซานชีส พาร์สรี่ย์ คนให้เข้ากัน ตักใส่จาน รอราดหน้า
4 นำกระทะตั้งไฟให้ร้อน ใส่น้ำมันมะกอก กระเทียม หอมใหญ่ หอมแดง และกุ้งลงไปผัดให้เข้ากัน
5 ปรุงรสด้วย เกลือ พริกไทย พริกป่น และบรั่นดี จากนั้นใส่น้ำซุปกุ้ง ใบโหระพา ลงไป
6 ตักกุ้งที่ผัดแล้ว ราดบนหน้าข้าว เสิร์ฟทันที

ดาร์กช็อกโกแลต และวาซาบิมูส


ดาร์กช็อกโกแลต และวาซาบิมูส สำหรับ 4 ที่

เวลาเตรียม 7 นาที
เวลาปรุง 15 นาที

ส่วนผสม
1ดาร์กช็อกโกแลต 200 กรัม
2วิปปิ้งครีม 500 กรัม
3น้ำตาล 80 กรัม
4ไข่ไก่ 2 ฟอง
5ผงวาซาบิ 1 ช้อนชา
6น้ำเปล่า 25 กรัม
วิธีทำ
1ละลายช็อกโกแลตในหม้อตุ๋น จนละลายหมด แล้วยกลงจากเตา อีกชามหนึง ใส่น้ำตาลลงไป และน้ำอีกเล็กน้อย นำไปเคี่ยวจนละลายโดยใช้ไฟอ่อนๆ ไม่ต้องคน เพราะจะทำให้น้ำตาลตกผลึกและไหม้ แล้วทิ้งไว้
2. นำวิปปิ้งครีมไปตีด้วยเครื่องให้ขึ้นฟู โดยใส่วิปปิ้งครีมทีละครึ่ง พอหมดแล้ว พักไว้ก่อน
3. นำส่วนผสมของน้ำตาลในข้อแรก ตีเข้ากับไข่ไก่จนเซ็ทตัวแข็งดี จากนั้น ใส่ผงวาซาบิลงไปในช็อกโกแลตที่ละลายไว้จากข้อ1 คนให้เข้ากัน แล้วจึงนำส่วนผสมของไข่ไก่ใส่ตามลงไป ตีให้เข้ากัน
4. ใส่วิปปิ้งครีมลงไปทีละครึ่ง ตีจนขึ้นฟู แล้วเทใส่พิมพ์ ยกเสิร์ฟได้ทันที

มูสไวท์ช็อกโกแลตกับเสาวรสโรยแครอทคาเวียร์


มูสไวท์ช็อกโกแลตกับเสาวรสโรยแครอทคาเวียร์ สำหรับ 12 แก้ว

ส่วนผสมมูสช็อกโกแลตและเสาวรส

1ไวท์ช็อกโกแลต 500 กรัม
2เสาวรส 6 ลูก (คั้นสด)
3ครีม 250 มล
4วิปครีม 500 มล

ส่วนผสมของแครอทคาเวียร์
1แครอท 1,000 กรัม (คั้นเฉพาะน้ำ)
2น้ำเชื่อมซินนามอน 350 มล
3น้ำสะอาด 2,500 มล
4น้ำตาลขาว 250 กรัม
5เกลือ 20 กรัม
6ผงสาหร่าย Algin 8 กรัม
7ผงสาหร่าย Calcic 10 กรัม

วิธีทำ



1 เทน้ำเสาวรสลงไปในไวท์ช็อกโกแลตที่ละลายดีแล้ว ใช้ไม้พายคนให้ไวท์ช็อกโกแลตละลายและส่วนผสมเข้ากันดี
2 จากนั้น เทวิปครีมลงไป คนต่อให้เข้ากัน แล้วเทลงในแก้วพิมพ์


3. วิธีทำแครอทคาเวียร์ คือ ผสมน้ำแครอท กับน้ำเชื่อมซินนามอน และเกลือ จากนั้นเทลงในเครื่องปั่น เติมผงสาหร่าย Algin ลงไป จากนั้นปั่น แล้วกรองเอาเฉพาะน้ำ อีกชามนึงให้เทผงสาหร่าย Calcic ลงในน้ำเปล่า ทิ้งไว้ 5 วินาที เทน้ำแครอทที่ได้ลงในกระบอกหัวแหลม เพื่อบีบให้เป็นเม็ดเล็กๆ ลงบนกระชอนที่จุ่มน้ำ Calcic บีบออกมา จะได้เป็นเม็ดแครอทคาเวียร์
4. โรยแครอทคาเวียร์ลงบนไวท์ช็อกโกแลตมูส ยกเสิร์ฟได้ทันที

สูตรสปาเก็ตตี้อีสาน


สูตรสปาเก็ตตี้อีสาน

ส่วนประกอบ
1เส้นสปาเก็ตตี้ต้ม
2ไส้กรอกอีสาน หั่นเป็นแว่นๆ
3พริกขี้หนู
4กระเทียม
5น้ำปลา
6ซีอิ๊วขาว
7น้ำมันหอย
8น้ำตาล
9น้ำมันพืช

วิธีทำ
นำกระเทียมลงไปผัดในกระทะ ใส่พริกขี้หนู ตามด้วยไส้กรอกอีสาน นำเส้นลงผัด ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ตามชอบ ตักใส่จานเสริฟ

สูตรสปาเก็ตตี้ไข่กุ้ง


สูตรสปาเก็ตตี้ไข่กุ้ง
ส่วนประกอบ
1เส้นสปาเก็ตตี้ต้ม
2ไข่กุ้ง
3ถั่วแระญี่ปุ่น (edamame) ต้ม
4มายองเนส
5โชยุ
6วาซาบิ
7ผงซุปเล็กน้อย

วิธีทำ
ทำซอสด้วยการใส่มายองเนส โชยุ วาซาบิ ผงซุป คนให้เข้ากันดี ราดลงบนเส้นสปาเก็ตตี้ โรยไข่กุ้ง และถั่วแระญี่ปุ่น คลุกเคล้าส่วนผสมทุกอย่างซอสเคลือบเส้นทั่ว ก็จัดการลำเลียงลงกระเพาะได้เลย

สูตรสปาเก็ตตี้คอร์นบีฟ


สูตรสปาเก็ตตี้คอร์นบีฟ

ส่วนประกอบ
1เส้นสปาเก็ตตี้ต้ม
2คอร์นบีฟ
3พริกขี้หนูสับ
4กระเทียม
5น้ำมันมะกอก
6เกลือ
7น้ำตาล
8ซีอิ๊วขาว
9ผงซุปเล็กน้อย

วิธีทำ
ผัดกระเทียมกับพริกขี้หนู พอหอม ตักกระเทียมออกเหลือน้ำมันไว้ นำคอร์นบีฟลงจี่ในกระทะ (เราชอบให้กรอบนิดหน่อย เกรียมเล็กน้อย) แล้วนำกระเทียม เส้นสปาเก็ตตี้ลงไปผัด ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาลเล็กน้อย ซีอิ๊วขาวนิดหน่อย ผงซุปอีกนิดหนึ่ง เป็นอันเรียบร้อย

สูตรสปาเก็ตตี้ปูอัดผัดผัก 3 สี


สูตรสปาเก็ตตี้ปูอัดผัดผัก 3 สี

ส่วนผสมมีดังนี้ (สำหรับ 2 ที่)
1เส้นสปาเก็ตตี้โฮลวีทต้มสุก 2 ถ้วย
2ปูอัดหั่นเป็นแท่งยาว 1 ซม 6 แท่ง
3เม็ดข้าวโพดหวานต้มสุก 1/2 ถ้วย
4แครอทหั่นลูกเต๋า 1/2 ถ้วย
5เม็ดถั่วลันเตา 2 ช้อนโต๊ะ
6ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
7น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
8น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

หลังจากที่ได้เตรียมส่วนผสมกันเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการลงมือปรุงกันได้เลย ซึ่งไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย โดยเริ่มจากตั้งกระทะน้ำมันด้วยไฟกลางให้ร้อน จากนั้นนำปูอัดลงไปผัด ใส่เส้นสปาเก็ตตี้โฮลวีทที่ต้มสุกแล้วลงไปผัด
แล้วก็ตามด้วยเม็ดข้าวโพดหวานต้มสุก แครอท เม็ดถั่วลันเตา พร้อมกับปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำตาลทราย แล้วก็ผัดเครื่องทุกอย่างให้เข้ากัน เพียงเท่านี้ก็เป็นอันว่าเสร็จสรรพ ตัก”สปาเก็ตตี้ปูอัดผัดผัก 3 สี” ใส่จานเสิร์ฟร้อนๆ อิ่มอร่อยกันไป

สูตร สปาเก็ตตี้ คาโปนารา (ซอสขาว)


วิธีทำพร้อมส่วนผสม
1เอามะกะโรนี หรือสปาเก๊ตตี้ มาต้มให้สุก
2เอาหม้อตั้ง เนยลงไปผัดให้ละลาย 2 ชต(ถ้าไม่พอกHเติมได้)
3แป้งสาลีลงไปคนๆ 3 ชต หรือมากกว่านั้น
4น้ำมันมะกอก 1 ชต
5น้ำนิดหน่อย(หรือนม)
6เกลือ+น้ำตาลนิดหน่อย
7ดับเบิ้ลครีม(แกรเดอร์)ใส่ลงไป 1 dlถึง2 dl.หรือเติมนมสดลงไปด้วยก็ได้ คนให้เข้ากันดีแล้วใส่มะกะโรนีที่ต้มสุกแล้วลงไปผัดรวนให้เข้ากัน ยกขึ้นเทใส่จาน ก็เอามาทานกับไส้กรอกหรือแฮม เอามาทอดหั่นเป็นชิ้น และเอาไข่แดงใส่ลงไปแล้วคลุกๆให้เข้ากัน ก็ทานได้เลยจ๊า

อีกสูตรหนึ่งนะคะเอามาจากคู่มือทำอาหารอิตาเลี่ยนค่ะส่วนผสมมีดังนี้:
1 น้ำมันมะกอก 1ช้อนโต๊ะ
2 เนย 3 ช้อนโต๊ะ
3 เบค่อนแบบ Unsmoked Bacon หรือถ้ามี Pancetta Bacon ได้ยิ่งดี และหั่น 1/3 ถ้วย
4 ไข่ 3 ฟอง
5 นม 2 ช้อนโต๊ะ (ถ้าชอบเข้มข้นให้ใส่ Heavy Cream 4 ช้อนโต๊ะ),
6 ใบไทม์สดรือผงก็ได้ค่ะ 1 ช้อนโต๊ะ
7 เส้นสปาเก็ตตี้หรือจะเป้นพาสต้าก็ได้ค่ะแล้วแต่ชอบ 8 ออนซ์(675 กรัม)
8 พาร์เมซานชีส 1/2 ถ้วย
9 เกลือกับพริกไทย
วิธีทำ:
1ใส่น้ำมันมะกอกและเนยลงไป แค่ร้อนกำลังแตกฟอง(ยังไม่ละลาย)
2ใส่เบค่อนลงไปผัด 5 นาทีหรือเริ่มกรอบ
3 ผสมไข่กับนมเข้าด้วยกันในชามเล็ก ใส่ใบไทม์ เกลือและพริกไทยลงไปผสมด้วยเลย
4 ลวกเส้นสปาเก็ตตี้หรือพาสต้าตามรายละเอียดข้างกล่อง
5 นำเส้นสปาเก็ตตี้มาผสมกับไข่ที่ผสมเตรียมไว้ แล้วผัดลงไปประมาณ 30 วินาทีแล้วใส่เบค่อนลงไปด้วย
6 ใส่พาร์เมซานชีสผสมลงไปครึ่งหนึ่ง
7ตักใส่จานเสริฟแล้วโรยพาร์เมซานชีสที่เหลือลงไปบนบนสปาเก็ตตี้ค่ะ
อีกสูตรซ๊อสคาโปนารา
1เนย 20 กรัม
2ไข่แดง 2 ฟอง
3Heavy Cream 6 ช้อนโต๊ะ
4หมูแฮม หรือ เบคอน 100 กรัม
5หอมหัวใหญ่สับหยาบ 1 หัว
6ผักชีหั่นละเอียด
7เกลือ พริกไทย

วิธีทำ
1ตั้งกระทะ ผัดหอม เนย และหมูแฮมหรือเบคอน
2ขณะนั้น ผสม Heavy Cream ไข่แดง และพริกไทย เกลือ ให้เข้ากันในชาม
3เมื่อหมูแฮมและหอมสุกได้ทีปิดไฟเท Heavy Cream ผสมไข่ ลงในกระทะคนให้เข้ากัน เสร็จเรียบร้อย ราดบนสปาเก็ตตี้ โรยผักชี และชีส

ู้วิธีการทำสปาเก็ตตี้ประเภทซอสครีม



ู้วิธีการทำสปาเก็ตตี้ประเภทซอสครีม

เครื่องปรุงซอสครีมก็มี
1เนย
2แป้งสาลี
3น้ำซุปใส
4กระเทียมสับ
5หอมใหญ่สับละเอียด
6เนื้อสัตว์ต่างๆที่ต้องการใส่ค่ะ
7ครีมข้น ยี่ฮ้ออะไรก็ได้ค่ะ
8เกลือ
9พริกไทย
10อโรมาด

วิธีทำซอส
1ตั้งกระทะให้ร้อนแล้วใส่เนยลงไปพอเนยละลายให้ใส่แป้งสาลีลงไปแล้วเคี่ยวให้เป็นก้อนพอเป็นก้อนเเล้วให้ใส่น้ำซุปลงไปค่อยๆใส่นะครับไม่ต้องใส่ทีละเยอะๆ(แล้วไม่ต้องใช้ไฟแรงมาก)พอเห็นน้ำซุปเปลี่ยนเป็นสีขาวข้นๆแล้วก็ปิดไฟตักซอสใส่ถ้วยไว้เราจะเอาซอสนี้ไว้ใส่ตอนหลังค่ะ
2ตั้งกระทะใส่เนยจืดลงไป รอเนยละลายอย่าให้ไหม้นะค่ะ ใส่กระเทียมสับ หอมใหญ่สับผัดเนยกับหอมใหญ่ซักพักพอหอม เอาเนื้อสัตว์ต่างๆที่ต้องการใส่ลงไปผัดให้สุก เทซอสที่เตรียมไว้ใส่ลงไปแล้วคนให้ร้อน ใส่ครีมลงไปแล้วตามด้วยเกลือพริกไทย อโรมาดเคี่ยวต่อซักพักให้ซอสเดีอด แล้วใส่เส้นสปาเก็ตตี้ลงไปคลุกให้เข้ากัน แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วค่ะ

ครีมซอส
1 ใส่เนยประมาณ 15 กรัม ในกระทะผัดให้ละลาย แล้วเติมแป้งอเนกประสงค์ 15 กรัม ผัดเร็วๆประมาณ 1 – 2 นาที
2 เติมน้ำสต็อก ( ไก่ หรือ หมู ) 100 มล। คนเร็วๆ เพื่อให้แป้งไม่จับเป็นก้อน
3เติมครีม หรือ นม เพื่อให้ได้ความข้น เหลวตามชอบ
4ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย (ขาว)
ส่วนเนื้อสัตว์จะใช้แฮม หรือ ซีฟู้ด ในนำไปผัดกับเนยและหอมแดงให้สุกก่อนแล้วนำมาคลุกกับเส้นและซอส

มีอีกสูตรนะคะไม่ต้องทำครีมเองให้ยากค่ะส่วนผสม
1วิปปิ้งครีมเป็นกล่องที่ทำอาหาร (คนละอย่างกับที่ทานกับผลไม้หรือไอศครีม) หาซื้อได้ตามห้างทั่วไป
2เบค่อน
3เกลือ
4พริกไทยดำป่น
5ไข่ไก่

วิธีทำ
1หั่นเบค่อน แล้วนำไปทอดให้กรอบเหลืองใส่กระเทียม ห้ามไหม้เด็ดขาด ตักขึ้นพักไว้
2ต้มสปาเก็ตตี้ให้สุก ถ้าจะให้ดีเป็นยี่ห้อนอกนะคะ
3นำสปาเก็ตตี้ที่ได้ไปผัดใส่เนย และครีม
4นำเบค่อนทอดกรอบคลุกเคล้าให้ทั่ว
5ใข่ไก่ แล้วแต่ถ้าปริมาณสปาเก็ตตี่น้อยก็ใส่ไข่ 1 ฟอง
6เติมเกลือพอประมาณ ตามด้วยพริกไทยดำป่น ตักเสริฟอร่อยอย่าบอกใครเชียว

สปาร์เก็ตตี้ซอสครีมต้มยำ


สปาร์เก็ตตี้ซอสครีมต้มยำ

เครื่องปรุง
1ซอสครีมต้มยำ 2 ถ้วย
2เส้นสปาร์เก็ตตี้ต้มสุกแล้ว 500 กรัม
3กุ้งแกะเปลือกลวก 200 กรัม
4หอยแมลงภู่ 300 กรัม
5ปลาหมึกหั่นแว่นลวก 200 กรัม
6ข่าสับละเอียด 1 ช้อนชา
7ตะไคร้ซอย 1 ช้อนชา
8ใบมะกรูดสับละเอียด 1 ช้อนชา
9พริกขี้หนูซอยหรือพริกขี้หนูป่น 1 ช้อนชา
10น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
11น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ
12พาเมซานชีส 2 ช้อนโต๊ะ
13ทาบัสโก้ พอประมาณ

วิธีทำ
1 นำกระทะตั้งไฟใส่ซอสครีมต้มยำลงไป ต้มให้ร้อน
2 ใส่เส้นสปาเก็ตตี้ลงไป ผัดให้เข้ากัน
3 ใส่ อาหารทะเลลงไป ผัดให้สุก ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำมะนาว ข่าสับละเอียด ใบมะกูดสับละเอียด ตะไคร้ซอย เพื่อเพิ่มกลิ่นของซอสต้มยำ ผัดให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ
4ก่อนยกลง โรยหน้าด้วยพาเมซานซีส ทาบัสโก้ พริกขี้หนูซอย ผัดให้เข้ากัน ตักเสิร์ฟร้อนๆ

สูตรไข่เจียวผักโขมชีส


สูตรไข่เจียวผักโขมชีส

ส่วนผสมไข่ไก่ 1 ฟอง
ซอสหอยนางรมตราแม็กกี้ 2 ช้อนชา
เนื้อหมูสับ 1 ช้อนโต๊ะ
ผักโขมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
มอสซาเรลลาชีส หั่นชิ้นเล็กๆ 1ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ
1ตอกไข่ ใส่ภาชนะ ตามด้วยซอสหอยนางรมตราแม็กกี้ หมูสับ มอสซาเรลลาชีส และ ผักโขม ตีพอส่วนผสมเข้ากันดี
2ใส่น้ำมันพืชลงกระทะพอร้อน นำส่วนผสมลงทอดไฟปานกลางพอสุกเหลืองทั้งสองด้าน