วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ตลาดน้ำพุ ความอร่อยหลากหลาย ในราคาย่อมเยา




ตลาดน้ำพุ ความอร่อยหลากหลาย ในราคาย่อมเยา (คู่หูเดินทาง)

ตลาดน้ำพุ อยู่ในตัวจังหวัดจันทบุรี เป็นแหล่งสินค้าพื้นเมือง อาทิ กุ้งแห้ง กะปิ อาหารสด พืชผักต่าง ๆ แต่ช่วงเย็นจะเป็นตลาดอาหาร ที่มีร้านอาหารอร่อย ๆ จำหน่ายอยู่อย่างมากมาย ซึ่งวันนี้จะขอแนะนำร้านอร่อยเด่นที่ไม่ควรพลาด



เริ่มกันที่ร้านแรก "ธงชัยปลาหมึกย่าง" คุณลุงเจ้าของร้านใจดีมาก ทำไปยิ้มไป ปลาหมึกแห้งของคุณลุงใหม่สด รสชาติอร่อย เทคนิคอยู่ที่เมื่อนำปลาหมึกมาย่างได้ที่แล้ว คุณลุงจะนำน้ำจิ้มมาราดบนตัวปลาหมึก แล้วย่างพลิกไปพลิกมาต่ออีกแป๊ปนึง เพื่อให้น้ำจิ้มเข้าถึงเนื้อปลาหมึก อร่อยแบบต้องซื้อกลับมาฝากคนที่บ้านกันเลยทีเดียว แถมราคาก็ไม่แพง นอกจากนี้ ยังขายน้ำอัดลมจรวดแบบสมัยโบราณควบคู่กันไปอีกด้วย

ต่อด้วยร้าน "ก๋วยเตี๋ยวขลุกขลิก ข้าวคลุกน้ำพริกเกลือ" พี่วรรณา เป็นคนคิดค้นขึ้นมาคนแรกจนติดตลาด ก่อนที่จะมีแพร่หลายไปทั่ว เป็นข้าวสวยร้อน ๆ คลุกน้ำพริกเกลือ (น้ำจิ้มซีฟู้ด) โรยกุ้งแห้งป่น แล้วโปะด้วยกุ้งลวกตัวโตๆ แทรกด้วยเนื้อหมู หรือเนื้อไก่ ปลาหมึก ไข่ต้มยางมะตูม แกล้มกับแตงกวาสด พร้อมน้ำจิ้มรสแซ่บ ธรรมดา 30 พิเศษ 40


ร้านต่อมาเป็น "เลือดหมูต้ม-ตือฮวน นายเส่ย" เครื่องในหมูแต่ละชิ้น สด ใหม่ ใหญ่ อร่อย แถมใส่รากบัวเพิ่มรสชาติและแก้ร้อนในได้ด้วย ตามมาด้วยร้าน "น้ำผลไม้ปั่น 12 บาท" พี่นภีพร หน้าร้านขายยาศรีสุขเภสัช สร้างชื่อมาจากชื่อนี้ แม้ว่าปัจจุบันราคาจะเพิ่มขึ้นมาอีกเล็กน้อย แต่ก็คุ้มค่าคุ้มราคา เพราะของเค้าอร่อยจริง มีน้ำผสมสูตรแปลก ๆ ที่พี่เค้าคิดค้นขึ้นมาเอง เรียกได้ว่าอร่อยชื่นใจชนิดที่หากินที่อื่นไม่ได้ เช่น น้ำมะพร้าวผสมเฉาก๊วยปั่น น้ำมะพร้าวผสมโอวันตินปั่น เป็นต้น

อีกร้านหนึ่งที่ภูมิใจนำเสนอมาก ๆ "ก๋วยเตี๋ยวจันท์ผัดปูป้าจิตร" อยู่ช่วงสามแยกโรงภาพยนตร์สยามราม่า ซึ่งบริเวณนี้ชาวเมืองจันท์จะเรียก ตลาดสวนมะม่วง เส้นจันท์ผัดปูร้านนี้จะขายเป็นกิโลกรัม ๆ ละ 100 บาท ถุงเล็ก 30 บาท ถุงใหญ่ 50 บาท


ด้านนอกริมถนนฝั่งที่จอดรถก็มีร้าน "ผัดซีอิ้ว & ราดหน้ายอดผัก" พี่โต หมี่กรอบ หมูหมัก อร่อยเข้มข้นถึงรสชาติ คนแน่นตลอดเวลาตั้งแต่เปิดร้านยันปิดร้าน ประมาณสี่โมงเย็นถึงตีหนึ่ง ใกล้กันจะเป็นร้าน "เต้าฮวย 9 ดาวพลาซ่า ตลาดซุ้ย" ก็อร่อยไม่ธรรมดาเช่นกัน เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานอะไรร้อน ๆ คล่อง ๆ คอ

ตบท้ายด้วยของหวานร้าน "มุมกาแฟ & เบเกอรี่" อยู่ข้างพลาซ่าจันทบุรี มีเมนูหวานเย็นที่ประกอบด้วยน้ำแข็งปั่น ราดน้ำหวาน ขนมปัง คอนเฟรค ลูกเกด ใส่ผลไม้ ราคา 20 – 40 บาท เหมาะกับหน้าร้อนช่วงนี้เป็นอย่างยิ่ง

ถ้าใครมีโอกาสมาเที่ยวเมืองจันท์กันแล้ว อย่าลืมแวะมาสรรหาของกินแสนอร่อยที่มีอย่างหลากหลายใน ตลาดน้ำพุแห่งนี้ เรียกได้ว่ามีเงินติดไม้ติดมือมาเพียงหลักร้อย ก็อิ่มอร่อยกันจนพุงกางเลยทีเดียว

เล่นดนตรีช่วยชะลอความชราภาพ



เล่นดนตรีช่วยชะลอความแก่ (ไทยโพสต์)

ผลวิจัยสรุปว่า การเล่นดนตรีช่วยลดภาวะชราภาพได้ หลังพบว่า นักดนตรีในวัย 45-65 มักมีความจำดี และสามารถได้ยินเสียงพูดที่อยู่ท่ามกลางเสียงจอแจรอบข้างได้ดีกว่าคนที่ไม่ได้เล่นดนตรี

โดยรายงานชิ้นนี้ตีพิมพ์ในวารสาร PLoS One ระบุว่า นอกจากดนตรีช่วยให้เด็กเรียนรู้ในห้องเรียนได้ดีขึ้นแล้ว การเรียนดนตรียังช่วยลดผลทางลบของการมีอายุมากขึ้นได้อีกด้วย ซึ่งนินา เคราส์ แห่งห้องปฏิบัติการเกี่ยวกับประสาทวิทยาด้านการได้ยิน มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์นในสหรัฐ บอกว่า คนที่เล่นดนตรีมาตลอดชีวิต ดูจะได้รับประโยชน์ในเรื่องความจำและความสามารถในการได้ยินเสียงพูดในท่ามกลางเสียงจอแจ ซึ่งความสามารถสองประการนี้มักลดลงเมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น และคนที่สูญเสียการได้ยินเพราะภาวะชราอาจนำไปสู่อาการโดดเดี่ยวตัวเองและอาการซึมเศร้าได้

ทั้งนี้ นักวิจัยได้ศึกษานักดนตรี 18 คนกับคนที่ไม่ได้เล่นดนตรี 19 คนซึ่งมีอายุระหว่าง 45-65 ปี ในเรื่องของการได้ยินเสียงพูด ความจำเกี่ยวกับสิ่งที่ได้ยิน ความจำเกี่ยวกับสิ่งที่ได้เห็น พบว่า คนที่เริ่มเล่นดนตรีตั้งแต่อายุ 9 ขวบหรือก่อนหน้านั้น และยังคงเล่นดนตรีมาตลอดชีวิต ทำคะแนนในเรื่องการได้ยินเสียงพูดในที่จอแจ และความจำของสิ่งที่ได้ยินดีกว่าคนที่ไม่ได้เล่นดนตรี ยกเว้นในเรื่องความจำเกี่ยวกับสิ่งที่ได้เห็น ซึ่งคนทั้งสองกลุ่มทำคะแนนได้พอ ๆ กัน

ด้วยเหตุนี้ ดร.เคราส์ จึงสรุปว่า การเล่นดนตรีจะช่วย "ปรับจูน" ระบบประสาท และช่วยลดปัญหาต่าง ๆ ด้านการสื่อสารซึ่งมาพร้อมกับวัยที่สูงขึ้นได้

น้ำชาลดกลิ่นปาก และป้องกันฟันผุ


น้ำชาลดกลิ่นปากและป้องกันฟันผุ (MIX)

นอกจากชาจะมีคุณประโยชน์ในการช่วยล้างไขมันแล้ว ยังมีคุณสมบัติในการช่วยลดกลิ่นปากและป้องกันฟันผุอีกด้วยค่ะ

ที่บอกแบบนี้ก็เพราะ ในน้ำชามีตัวยาที่ทำลายเชื้อโรคได้ จึงทำให้การดื่มชาเข้าไปจะช่วยบำรุงระบบภูมิคุ้มกับโรคไปพร้อม ๆ กับทำลายล้างเชื้อโรคได้ ไม่ว่าจะเป็นชาดำหรือชาเขียวก็ตาม แต่ในชาเขียวจะสามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้ดีกว่า

อย่างไรก็ตาม หากชานั้นถูกสกัดคาเฟอีนทิ้ง ก็จะเห็นผลน้อยมาก ส่วนสารอีกอย่างซึ่งมีชื่อว่า โพลีฟีนอล ซึ่งมีอยู่ในชา ก็มีสรรพคุณยับยั้งเชื้อโรคที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก รวมทั้งยังรักษาสุขภาพของปากและฟัน โดยมันจะฆ่าฤทธิ์สารประกอบที่ทำให้ปากเหม็น ซึ่งเชื้อโรคสร้างไว้ค่ะ

แต่ถึงจะดื่มชามากขนาดไหน ก็ต้องแปรงฟันด้วยนะคะ

ทึ่ง! ชายฮังการีสะสมหนังสือจิ๋วกว่า 4,500 เล่ม



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ca-art.ru

เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมล ของอังกฤษ ได้เปิดเผยเรื่องราวอัศจรรย์ใจ เมื่อหนอนหนังสือชาวฮังการี ผู้ซึ่งรักหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ ได้สะสมหนังสือขนาดจิ๋วจากทั่วโลกไว้เป็นคอลเลคชั่นจำนวนมากกว่า 4,500 เล่ม

โดยหนอนหนังสือคนดังกล่าว คือ โจสเซฟ ทารี ชาวฮังการี เริ่มสะสมหนังสือขนาดจิ๋วนี้มาตั้งแต่ พ.ศ. 2515 โดยหนังสือเล่มแรกของเขาชื่อ "รัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐฮังการี" ซึ่งมีความกว้างเพียง 26 มิลลิเมตร สูงเพียง 35 มิลลิเมตร และหลังจากนั้นเขาก็สะสมหนังสือจิ๋วมาเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือประเภทประวัติศาสตร์ วรรณคดี การเมือง กีฬา ศิลปะ เป็นต้น จนทุกวันนี้ เขามีหนังสือเล่มจิ๋วที่สะสมอยู่ ทั้งหนังสือปกแข็งและปกอ่อน รวมแล้วกว่า 4,500 เล่มจาก 31 ประเทศทั่วโลก

และด้วยความที่หนังสือของเขา มีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ตอนนี้เขาต้องเอามาเรียงใส่ชั้นหนังสือ จากที่แต่ก่อนเคยเก็บรักษาหนังสือไว้ในกล่องเท่านั้น โดยหนังสือเล่มที่เล็กที่สุดของเขามีความสูงเพียง 2.75 มิลลิเมตร และกว้างเพียง 1.75 มิลลิเมตร ซึ่งถึงแม้หนังสือเหล่านี้จะมีขนาดเล็กมาก แต่ขนาดของตัวหนังสือที่อยู่ภายในก็สามารถอ่านได้ตามปกติ ส่วนหนังสือที่เก่าที่สุดในคอลเลคชั่นของเขานั้น ก็มีอายุมากถึง 100 ปีเลยทีเดียว

นอกจากนี้ โจสเซฟ ทารี ยังได้เผยว่า หนังสือเล่มจิ๋วบางเล่มมีการเขียนเนื้อหาออกมาเพื่อตีพิมพ์ในนี้โดยเฉพาะ แต่บางเล่ม ก็เป็นการย่อขนาดมาจากหนังสือเล่มใหญ่ อย่างไรก็ตาม ไม่มีหนังสือเล่มไหนเลยที่มีขนาดสูงกว่า 76 มิลลิเมตร และเขายังพยายามที่จะสะสมหนังสือเล่มจิ๋วของแต่ละสำนักพิมพ์ เพื่อที่เขาจะสามารถแลกหนังสือกับผู้สะสมคนอื่น ๆ ได้อีกด้วย

วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ทำไมต้องกิน “งาดำ“ ??


ดูเหมือนว่า "งาดำ" จะเป็นส่วนผสมอีกหนึ่งอย่างที่ผู้ประกอบการมักนำไปผสมกับเครื่องดื่มจำพวกน้ำ นม หรือขนม เพื่อเพิ่มคุณประโยชน์ของสินค้าให้มากขึ้นกว่าเดิม แต่หลายคนก็ยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมต้องเป็นงาดำ แล้วทำไมเราต้องกินงาดำด้วย?

คำตอบก็มีง่าย ๆ ค่ะ เพราะเจ้างาสีดำๆ ที่ดูภายนอกแล้วเม็ดจิ๋วมากมาย แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยสารอาหารมากมาย อาทิ โปรตีน กรดอะมิโนเมทไธโอนีน แคลเซียม และอุดมไปด้วยวิตามินบี ทั้งบี 1 บี 2 บี 3 บี 5 บี 6 และ บี 9 ซึ่งสารอาหารเหล่านี้มีส่วนช่วยให้เรานอนหลับได้สนิทขึ้น ที่สำคัญยังส่งผลให้เราตื่นนอนด้วยความสดชื่น กระปรี้ประเปร่า ทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดเหน็บชา อาการท้องผูก บำรุงกระดูก และบำรุงรากผม ทำให้ผมดกดำอีกด้วย

แล้ววันนี้ คุณกิน "งาดำ" แล้วหรือยัง???


10 อันดับประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก


วันนี้ทีมงานมีเรื่องเกี่ยวกับประเทศที่ยากจนที่สุดในโลกมานำเสนอ ยังไงลองติดตามอ่านเนื้อหากันได้นะคะ

10. Ethiopia เอธิโอเปีย

เอธิโอเปียอยู่ในอันดับที่ 170 จาก 177 ของดัชนีประเทศยากจน ครึ่งหนึ่งของผลผลิตมวลรวมขึ้นอยู่กับภาคการเกษตร ผลผลิตในภาคการเกษตรที่ต่ำลงเพราะเทคนิคการเพราะปลูกที่ล้าสมัย และขึ้นอยู่กับฟ้าฝนด้วย 50% ของประชากร 74.7 ล้านคนมีความยากจน 80% อาศัยอยู่ด้วยการรับแจกอาหาร ผู้ชายเพียง 47 % และผู้หญิง 31 % ที่สามารถอ่านออกเขียนได้ บางส่วนของเอธิโอเปียมีความเสี่ยงต่อ ตับอักเสบ A, ตับอักเสบ E, ไข้ไทรอยด์, มาลาเรีย, โรคพิษสุนัขบ้า, เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และ schistosomiasis รายได้ต่อหัวต่อปี 700 เหรียญสหรัฐ

9. Niger ไนเจอร์

ไนเจอร์มีประชากร 12.5 ล้านคนเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก ฝนคือสาเหตุสำคัญใประเทศไนเจอร์ที่ทำให้เกิดสภาพการขาดแคลนอาหาร 63% ของประชากรมีความเป็นอยู่จากเงินที่ได้รับต่ำกว่า 1 เหรียญสหรัฐต่อวัน ผู้ใหญ่สามารถอ่านออกเขียนได้เพียง 15% ช่วงอายุของประชากรประมาณ 46 ปี ผู้คนส่วนมากเสียชีวิตจาก ตับอักเสบ A, ท้องร่วง, มาลาเรีย, ไข้สมองอักเสบ, และไข้ไทรอยด์รายได้ต่อหัวต่อปี 700 เหรียญสหรัฐ

8. Central African Republic สาธารณรัฐอัฟริกากลาง

สาธารณรัฐอัฟริกากลาง อยู่ในลำดับที่ 171 ของประเทศยากจน เกษตรกรรมคือกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจที่นี่ ช่วงอายุของประชากรประมาณ 43.46 - 43.62 ปี 13% ของประชากรมีความเสี่ยงกับการเป็นโรคเอดส์ รายได้ต่อหัวต่อปี 700 เหรียญสหรัฐ

7. Guinea-Bissau กีนี บิสเซา

กีนี บิสเซา ประเทศยากจนอันดับที่ 172 การทำไร่และการประมงคือเสาหลักของเศรษฐกิจ รายได้ของประชากรไม่เท่ากันในแต่ละภาคส่วนของประเทศ ประมาณ 10% ของผู้ใหญ่มีความเสี่ยงต่อการเป็น HIV. รายได้ต่อหัวต่อปี 600 เหรียญสหรัฐ

6. Union of the Comoros สหภาพโคโมโรส

สหภาพโคโมโรส ประชากรที่ไม่มีงานทำมีอัตราส่วนที่สูง เป็นผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของสหภาพคอมอรอส และด้วยประชากรที่มีจำนวน 1000 คนต่อ ตร.กม. ในพื้นที่การเกษตร อาจเป็นผลทำให้สภาพแวดล้อมวิกฤติ ภาคการเกษตรส่งผลถึงผลผลิตมวลรวมราว 40% ระดับการศึกษาที่ต่ำก็ส่งผลถึงระบบแรงงานด้วย ความเป็นอยู่ของผู้คนขึ้นอยู่กับเงินช่วยเหลือจากนานาชาติ.รายได้ต่อหัวต่อ ปี 600 เหรียญสหรัฐ

5. Republic of Somalia สาธารณรัฐโซมาเลีย

สาธารณรัฐโซมาเลีย ภาคการเกษตรคือหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจของโซมาเลียที่อยู่ทางใต้ของแอฟริกา ประชากรที่กึ่งเร่ร่อน และเร่ร่อน เป็นกลุ่มผู้คนส่วนใหญ่ของประเทศ การเลี้ยงปศุสัตว์เป็นอาชีพหลักของพวกเขา อุตสาหกรรมทางการเกษตรให้ผลผลิตมวลรวมเพียง 10% ของทั้งหมด รายได้ต่อหัวต่อปี 600 เหรียญสหรัฐ

4. The Solomon Islands หมู่เกาะโซโลมอน

หมู่เกาะโซโลมอน เป็นประเทศใน เมละนีเซีย (อยู่ตอนเหนือของออสเตรเลียใกล้ฟิจิ...wicsir) เศรษฐกิจขึ้นอยู่กับการประมง กว่า 75% ของแรงงานจะเกี่ยวข้องกับการประมง ไม้คืออุตสาหกรรมหลักมาจนถึงปี 1998 น้ำมันปาล์มกับมะพร้าวคือผลิตผลหลักในการส่งออก หมู่เกาะโซโลมอน มีแร่ธาตุมากมาย เช่น สังกะสี ตะกั่ว ทองคำ และนิเกิ้ลรายได้ต่อหัวต่อปี 600 เหรียญสหรัฐ

3. Republic of Zimbabwe สาธารณรัฐซิมบัพเว

สาธารณรัฐซิมบัพเว ตั้งอยู่ระหว่าง แม่น้ำ Limpopo และ Zabezi ในอัฟริกาใต้ เศรษฐกิจที่หยุดชะงักและเสียหายเนื่องมาจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น รวมไปถึงการขาดแคลนเงินตราต่างประเทศด้วย ซิมบัพเวได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสาธรณรัฐประชาธิปไตยคองโกด้วย ผลจากการทรุดตัวของเศรษฐกิจนี้ ทำให้อัตราการตกงานของประชากรสูงถึง 80%.รายได้ต่อหัวต่อปี 500 เหรียญสหรัฐ

2. Republic of Liberia สาธารณรัฐไลบีเรีย

สาธารณรัฐไลบีเรีย ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของอัฟริกา ซึ่งเป็น 1 ใน 10 ของประเทศยากจนที่สุดในโลก เพราะการส่งออกพืชผลที่ลดลง, นักลงทุนหนีออกจากประเทศ, การแสวงหาผลประโยชน์อย่างไม่ยุติธรรมจากทรัพยากรเพชรในประเทศ, ขโมย, และการค้ากำไรเกินควรในระหว่างสงครามกลางเมือง ในปี 1990 ทำให้เศรษฐกิจของประเทศทรุดตัว ทำให้มีการกู้เงินจากต่างประเทศมีมากกว่าผลผลิตมวลรวม.รายได้ต่อหัวต่อปี 500 เหรียญสหรัฐ

1. Republic of the Congo สาธารณรัฐคองโก

สาธารณรัฐคองโก ในอัฟริกากลางเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดของโลก เพราะการเสื่อมค่าของเงินแฟรงโซน, อัตราเงินเฟ้อในระดับสูงในปี 1994, ความวุ่นวายในสงครามกลางเมือง, การรบพุ่งอย่างต่อเนื่อง และราคาน้ำมันที่ตกต่ำในปี 1998 ได้ทำลายเศรษฐกิจของประเทศลง.รายได้ต่อหัวต่อปี 300 เหรียญสหรัฐ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : toptenthailand


ยิ่งรู้แบบนี้ ยิ่งเกลียดตัวเรือด!!


นักวิจัยเผยข้อมูลใหม่ ตัวเรือดมีเชื้อ MRSA ต้นเหตุของอาการอุจจาระร่วง

นักวิจัยชาวแคนาดาเปิดเผยผลการศึกษาเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ตัวเรือดมีเชื้อ Staphylococcus aureus หรือ MRSA ที่ทานทนต่อยาเมธิซิลิน

นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาตัวเรือด 5 ตัว จากผู้ป่วยที่เข้ามารักษาอาการที่โรงพยาบาล St. Paul's ในแวนคูเวอร์ โดยผู้ป่วยทั้งหมดอาศัยอยู่ในย่านยากจนของแวนคูเวอร์ ซึ่งเป็นสถานที่ๆ ปริมาณของตัวเรือด และเชื้อ MRSA กำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการค้นพบเล็กๆ จึงไม่ก่อให้เกิดอาการตื่นตระหนกเป็นวงกว้าง อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญก็บอกว่าตัวเรือดอาจจะทำให้ปัญหาหลายๆ อย่างร้ายแรงขึ้นก็เป็นได้ เช่น อาการจากโรคภูมิแพ้ หรือหอบหืด

เพราะฉะนั้น นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปพักค้างคืนในโรงแรมต่างๆ ควรจะหลีกเลี่ยงโรงแรมที่อยู่ในรายชื่อซึ่งเคยมีการรายงานว่ามีคนเคยพบเห็นตัวเรือดมาแล้ว โดยอาจจะอาศัยเว็บไซต์อย่าง Bed Bug Registry ที่มีรวบรวมบันทึกการพบเห็นตัวเรือดในสถานที่ต่างๆ หรือเว็บไซต์ Bed Bugger ก็ได้

เมื่อนักท่องเที่ยวเปิดประตูเข้าไปในห้องพักในโรงแรม สิ่งแรกที่ควรทำคือการสอดส่องมองหาสัญญาณว่ามีตัวเรือดแอบแฝงอยู่ในห้องหรือไม่ ด้วยการสำรวจว่ามีรอยสีน้ำตาลๆ ที่เป็นร่องรอยของของเสียจากตัวเรือด อยู่ตามสถานที่ๆ ตัวเรือดน่าจะแอบซ่อนอยู่หรือไม่ เช่น หัวเตียง ฝาผนัง และรอยตะเข็บของเบาะที่นอน

นอกจากนั้นแล้ว สถานที่ๆ ควรค่าแก่การตรวจสอบอื่นๆ ก็คือบริเวณโซฟา ลิ้นชัก และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่อยู่ใกล้กับเตียงนอน เนื่องจากตัวเรือดจะไม่ชอบอยู่ห่างจากแหล่งอาหารของมันสักเท่าไหร่ และอาหารโอชะของพวกมันก็คือมนุษย์ที่กำลังนอนหลับใหลอยู่นั่นเอง

เพื่อให้แน่ใจว่าตัวเรือดจากสถานที่น่าสงสัยไม่ได้เกาะติดตามตัวคุณมาด้วย ให้เก็บสิ่งของที่ต้องสงสัยห่อเอาไว้ในถุงพลาสติกให้แน่นหนา ถ้าเป็นของประเภทผ้าก็ให้นำไปแช่ในน้ำที่มีอุณหภูมิสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สำหรับของที่ไม่สามารถนำไปซักได้ ก็ให้นำไปซักแห้งหรือซักกับมือก็ได้เช่นกัน โดยให้เน้นถูตามตะเข็บและรอยพับ และให้อุณหภูมิสูงกว่า 45ºC

ท้ายที่สุด ถ้าหากว่าคุณไม่ทันได้ป้องกัน และถูกตัวเรือดกัดไปแล้ว ห้ามเกาเด็ดขาด ให้ล้างแผลถูกกัดด้วยน้ำอุ่นผสมสบู่ และทายาแก้คันลงไปที่แผล ในกรณีที่มีอาการแพ้ด้วยก็ให้รีบไปพบแพทย์ทันที คนที่แพ้แผลกัดของตัวเรือด มักจะมีอาการคันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และการเกาก็จะนำไปสู่การติดเชื้อได้

เรื่องลับ ๆ ของวัยรุ่นชาย

เรื่องลับ ๆ ของวัยรุ่นชาย

1. ผู้ชายโตไวกว่าผู้หญิง โดยธรรมชาติและก้อนสมองการเรียนรู้ของผู้หญิงใหญ่กว่าผู้ชาย

2. อ๊ะ ๆ อย่าเพิ่งดีใจ เพราะธรรมชาติสร้างความทะเยอทะยานให้ผู้ชายมีมากก่วาผู้หญิง ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้ผู้ชายทุ่มเทฝน การเรียนรู้ทำได้ดีกว่าผู้หญิง (ดังนั้นเมื่อเทียบกันแล้ว ผู้ชายจะทำทุกเรื่องได้ดีกว่าผู้หญิงแม้สิ่งนั้นจะเป็นงานของผู้หญิง เช่น ทำอาหาร เสริมสวย การตัดเย็บ etc...)

3. ทักษะการใช้ภาษาวัยรุ่นชายแพ้ผู้หญิงกระจุยกระจาย

4. ส่วนเรื่องงานช่างทุกประเภท ผู้หญิงไม่มีวันทำสู้ผู้ชายได้ ให้ตายสิ!

5. ผู้ชายจะเรียนอะไรได้ดีแบบสุด ๆ ก็ด้วยใจรักมากกว่าความรับผิดชอบ

6. วัยรุ่นชาย 95% ล้วนเคยลอกการบ้าน

7.วัยรุ่นชาย 80% ขึ้นไป สารภาพว่าเคยทุจริตในการสอบ (รวมถึงเล็ก ๆน้อย ๆ)

8.อาชีพในฝันมากที่สุดของผู้ชายวัยอนุบาลถึงประถม คือตำรวจและทหาร

9.สาเหตุที่ผู้ชายไม่อยากเรียน ร.ด. เพราะกลัวถูดตัดผมสั้นมากกว่าการฝึกหนัก (ห่วงหล่อมากกว่าห่วงเหนื่อย!)

10.วัยรุ่นชายถึง 4 ใน 10 เคยโดดเรียนโดยครูและผู้ปกครองไม่เคยจับได้ซักครั้งเดียว (ถือเป็นความสามารถพิเศษ อิอิ)



10 ความลับเรื่องเพื่อนของวัยรุ่นชาย

1. วัยรุ่นชายมัธยม แสดงความซี้ปึ้กและไว้วางใจกัน ด้วยการแก้ผ้าอาบน้ำด้วยกัน(คิดได้ไงเนี่ย!)

2. กิจกรรมที่วัยรุ่นชายมัธยมชอบชวนเพื่อนร่วมทำกันมากที่สุดคือ เข้าไปถ่ายน้ำมันเครื่องในห้องน้ำ (สงสัยท่อฉี่จะอุดตันถ้าต้องฉี่คนเดียว งิงิ)

3. ศัตรูที่วัยรุ่นชายมองว่าเป็นตัวบ่อนทำลายสัมพันธภาพของเพื่อนร่วมแก๊งค์คือ ผู้หญิง

4. และเรื่องที่ทำให้วัยรุ่นชายขัดแย้งและแตกคอกันง่ายที่สุด ก็คือ ผู้หญิง (โธ่! ทำตัวเค้าเองทั้งนั้น ลากเราไปเกี่ยวเฉยเลยโน๊ะ)

5. เพื่อนที่ได้รับการสถาปนาให้เป็นหัวหน้าแก๊งค์น้อยรายจะเป็นคนฉลาด (ไม่ฉลาดแต่โจ๋)

6. วัยรุ่นชายตั้งแต่มัธยมปลายถึงมหา'ลัย อยากใช้ชีวิตทุก ๆ วันกับเพื่อนมากกว่าครอบครัว อย่างอิสระไร้กฏเกณฑ์

7. วัยรุ่นชายมีเถียงกับพ่อแม่ผู้ปกครองเรื่องการคบเพื่อนมากกว่าเรื่องแฟน

8. วัยรุ่นชายเลือกเรียนตามก้นเพื่อนมากกว่าความเหมาะสมของตัวเอง

9. จากสถิติวัยรุ่นชายปกป้องและเจ็บตัวเพื่อเพื่อนมากก่วาเพื่อแฟน

10. เพื่อนคือคนที่มีอิทธิพลต่อวัยรุ่นชายเป็นอันดับ 1 แน่นอนว่ามากกว่าแฟนจนผู้หญิงเราน่าจะไล่ให้ผู้ชายไปแต่งงาน อยู่กินกะเพื่อน ให้พ้นหู พ้นตาซะ!

สิ่งที่ควรทำในการสัมภาษณ์งาน


สำหรับนักศึกษาที่เพิ่งสำเร็จการศึกษามาใหม่ ๆ การสัมภาษณ์งานถือเป็นสิ่งสำคัญเสมือนก้าวแรกของชีวิตการทำงาน ดังนั้น การสร้างความประทับใจให้แก่ผู้สัมภาษณ์ตั้งแต่แรกเห็น ถือเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะการที่เขาจะรับคุณเข้าทำงานหรือไม่ การแสดงออกของคุณในด้านต่าง ๆ ก็มีผลต่องานนั้น ๆ อยู่มากเหมือนกัน วันนี้เราจึงขอแนะนำวิธีดี ๆ ที่ควรทำในการสัมภาษณ์งาน ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกัน...

สวมใส่ชุดให้เหมาะสม

ถือเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้น ๆ ที่ทำให้คุณดูน่าสนใจอย่างยิ่ง คำว่าน่าสนใจ ณ ที่นี้ คือการแต่งกายให้เหมาะสมกับงานและสถานที่นั้น ๆ โดยควรจะแต่งกายสุภาพ เรียบร้อย ขณะที่คุณผู้หญิงก็แต่งกายให้มิดชิดสักนิดหน่อย ไม่ใส่กระโปรงที่สั้นหรือบานจนเกินไป

ไปถึงก่อนเวลา

เวลาเป็นเรื่องสำคัญ เป็นสิ่งที่สามารถบอกความเป็นตัวคุณได้เป็นอย่างดี การไปถึงที่สัมภาษณ์ก่อนเวลาที่นัดหมายไว้นั้น ถือเป็นเรื่องดีที่ควรทำ เพราะนั่นแสดงให้เห็นว่า คุณนั้นให้ความสำคัญกับงานที่คุณจะทำจริง ๆ นอกจากนั้นแล้ว ตัวคุณเองก็จะได้มีเวลาในการเตรียมตัวสัมภาษณ์มากขึ้นอีกด้วย

เตรียมเอกสารประวัติของคุณไว้สัก 3 แผ่น

แน่นอนว่าตัวคุณพร้อมแล้วสำหรับการสัมภาษณ์งาน แต่ด้านเอกสารล่ะ คุณพร้อมหรือยัง เอกสารก็มีความสำคัญไม่แพ้การถามตอบปากเปล่า เพราะเอกสารจะช่วยให้ผู้สัมภาษณ์รู้ประวัติโดยสังเขปของคุณ แล้วอาจเป็นตัวช่วยของคุณในการสัมภาษณ์ให้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

สบสายตาผู้สัมภาษณ์

ระหว่างที่ทำการสัมภาษณ์นั้น หากผู้สัมภาษณ์เขาถามคำถามคุณ หรือคุณตอบคำถามเขา ก็ขอให้มองตาเขาด้วย เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าคุณกำลังสนใจในสิ่งที่เขาพูดหรือถามคุณ อย่าหลบสายตาไม่ว่าคุณจะรู้สึกประหม่ามากขนาดไหนก็ตาม ขอให้มีความมั่นใจเข้าไว้

ส่งอีเมล์ขอบคุณไปด้วย

ในปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวไกล อีเมล์ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง หลังจากการสัมภาษณ์ที่คุณต้องทำการขอบคุณแล้วนั้น การส่งอีเมล์ขอบคุณไปยังผู้สัมภาษณ์ ก็ถือเป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะนั่นแสดงถึงความจริงใจที่คุณมีต่อผู้ที่สัมภาษณ์ โดยใช้ภาษาที่สุภาพ อ่านง่าย และเป็นทางการเล็กน้อย

คอยติดตามผลอยู่อย่างต่อเนื่อง

ไม่ใช่ว่าการสัมภาษณ์แค่ครั้งเดียวจะทำให้เขารับเลือกคุณเข้าทำงาน หากคุณต้องการที่จะได้ทำงานนั้นจริง ๆ ก็ควรที่จะมีการติดตามผลของการสัมภาษณ์อยู่เรื่อย ๆ เพราะหากว่าเขาไม่รับคุณเข้าทำงาน คุณก็จะได้มีเวลาไปเตรียมตัวสัมภาษณ์กับที่อื่น ๆ ต่อไป และช่วยในการเป็นตัวเลือกในการเลือกงานที่คุณอยากทำได้เป็นอย่างดี

การสัมภาษณ์งานถือเป็นเรื่องที่ดีที่ช่วยให้คุณและผู้สัมภาษณ์ได้เข้าใจถึงงานที่จะทำซึ่งกันและกัน และเป็นโอกาสให้คุณได้รู้จักกับคนใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น ขอเพียงคุณมีความมั่นใจ มีการเตรียมตัวที่ดี และทำให้ดีที่สุด เพราะโอกาสไม่ได้มีเข้ามาบ่อย ๆ เพียงเท่านี้ก็เชื่อว่าคุณน่าจะได้ทำงานตามที่ได้สัมภาษณ์ไป

พบต้นตระกูลไทยรู้จักเพาะปลูก เป็นชาติแรก!


พบต้นตระกูลไทยรู้จักเพาะปลูก เป็นชาติแรก! (ไทยโพสต์)

นักวิชาการ ม.เกษตร เสนอองค์ความรู้ใหม่ คนไทยเพาะปลูกพืชผักชาติแรกในโลก ยกหลักฐานแหล่งโบราณคดีถ้ำผี จ.แม่ฮ่องสอน พบเมล็ดพันธุ์พืช 15 ชนิด อายุ 8,800-13,000 ปี ถือเป็นต้นกำเนิดแหล่งเกษตรกรรม สันนิษฐานเก่าแก่กว่าดินแดนตะวันออกกลาง

อาจารย์ อรไท ผลดี ผู้อำนวยการสำนักพิพิธภัณฑ์และวัฒนธรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ จะมีการนำเสนอผลงานวิจัยเรื่องหลักฐานทางโบราณคดีที่เก่าแก่ที่สุดจากพืชป่า สู่การปลูกพืชสวน ภายในงานประชุมวิชาการพืชสวนแห่งชาติ ครั้งที่ 10 จัดโดยภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร ม.เกษตรศาสตร์ ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น โดยจะนำเสนอองค์ความรู้ใหม่เกี่ยวกับแหล่งโบราณคดีถ้ำผี จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งค้นพบซากฟอสซิลของเมล็ดพืช 15 ชนิด ประกอบด้วย กระจับ แตงหนาม ถั่ว น้ำเต้า บวบ หมาก พลู พริกไทยป่า มะกอกเกลื้อน นางพญาเสือโคร่ง มะซาง สมอไทยและสมอพิเภก ซึ่งนำมาใช้ประโยชน์เป็นอาหาร เครื่องเทศและยารักษาโรค นอกจากนี้ยังมีมะเยาใช้เป็นเชื้อเพลิง และสลัดไดป่าใช้อาบลูกดอกธนูล่าสัตว์

อาจารย์อรไทกล่าวว่า งานวิจัยชิ้นนี้มีจุดประสงค์เพื่อเสนอองค์ความรู้ใหม่เกี่ยวกับต้นกำเนิดของ พืชป่าสู่การปลูกพืชสวน วิธีวิจัยใช้การศึกษาเอกสาร การวิเคราะห์ข้อมูล และสรุปเรียบเรียง เพื่อนำเสนอภายในงานประชุมวิชาการพืชสวนแห่งชาติดังกล่าว โดยสรุปว่า อารยธรรมการเพาะปลูกพืชของคนไทยเก่าแก่ที่สุดในโลก มีหลักฐานจากบริเวณแหล่งโบราณคดีถ้ำผี จังหวัดแม่ฮ่องสอน นอกจากค้นพบฟอสซิลเมล็ดพืชแล้ว ในบริเวณเดียวกันนี้ยังพบเครื่องมือการเกษตรอยู่ในชั้นดิน เช่น ขวานหินขัด และมีดหินชนวน เป็นต้น

จากข้อมูลการศึกษาของ ดร.เชสเตอร์ กอร์แมน นักโบราณคดีมหาวิทยาลัยฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ตรวจสอบหาค่าอายุเมล็ดพืชด้วยวิธีเรดิโอคาร์บอน พบว่ามีอายุช่วงระหว่าง 8,800-13,000 ปี ดร.เชสเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า มนุษย์ในบริเวณนี้รู้จักการเพาะปลูกพืชสวนแล้ว

"ดิฉันศึกษาวิเคราะห์ เพิ่มเติมอีกว่า มนุษย์ในแหล่งโบราณคดีถ้ำผี ก็คือบรรพชนคนไทยที่ได้เริ่มนำพืชป่ามาเพาะปลูกเป็นพืชผักสวนครัวเป็นชนชาติ แรกในโลกเช่นเดียวกับการปลูกข้าว ดินแดนเอเชียเป็นแหล่งกำเนิดเกษตรกรรมของโลก อาจเกิดขึ้นก่อนอารยธรรมในตะวันออกกลาง ที่เรียกว่าดินแดนอุดมสมบูรณ์รูปพระจันทร์เสี้ยว ปัจจุบันอยู่บริเวณประเทศซีเรียและตอนใต้ของอิรัก ที่พบฟอสซิลเมล็ดพืชอายุ 11,500 ปี"

นักวิชาการด้านวัฒนธรรมการเกษตร ระบุว่า ที่วัฒนธรรมเหอหมู่ตู้ มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน พบหลักฐานฟอสซิลพืชที่ใช้เป็นอาหารอายุ 7,000 ปี จำนวน 11 ชนิด ได้แก่ กระจับ งา แตงไทย ถั่ว ลูกท้อ น้ำเต้า ลูกบ๊วย บัวหลวง พุทรา ลูกยางและเปลือกเกาลัด และยังพบเมล็ดพันธุ์ผักสกุลผักกาดขาวและผักคะน้าอายุประมาณ 7,000 ปี แสดงว่าบรรพชนไทยที่อพยพไปอยู่บริเวณปากแม่น้ำแยงซี มณฑลเจ้อเจียง รู้จักการเพาะปลูกพืชสวนไม่ต่ำกว่า 7,000 ปีแล้ว บริเวณต้นแม่น้ำฮวงโห พบหลักฐานฟอสซิล เมล็ดพันธุ์ผักกวางตุ้งอายุ 7,000 ปี นอกจากนี้ที่โบราณสถานเมืองซีอาน พบภาชนะดินเผาปากเล็กเพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์เพาะปลูกอีกด้วย

"หลักฐาน ฟอสซิลเมล็ดพันธุ์พืชที่ค้นพบในแหล่งโบราณคดีที่ประเทศจีนนั้น ดิฉันได้เดินทางไปศึกษาข้อมูลเอกสารต่างๆ ของนักวิชาการจีน เช่น ศ.จางกงจิ่ง สถาบันชนชาติแห่งประเทศจีน มณฑลเจ้อเจียง และ ศ.เจียงอึ้งเหลียง มหาวิทยาลัยยูนนาน เป็นต้น ได้เสนอว่า ชาวพื้นถิ่นในแหล่งโบราณคดีต่างๆ เป็นบรรพชนเผ่าไทย ก่อนที่จะอพยพลงมาตามแม่น้ำและอาศัยอยู่ในดินแดนประเทศไทยทุกวันนี้" อ.อรไท กล่าวสรุป

วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

กลโกงมิเตอร์ แท็กซี่


กลโกงมิเตอร์ แท็กซี่ (Forward Mail)

ปกติเวลาเรานั่ง TAXI จะมีมิเตอร์อยู่ข้างหน้าใช่มั้ย ที่จะมีเลขวิ่งตามระยะทาง ยิ่งทางไกลขึ้น มิเตอร์ก็ยิ่งวิ่งแพงขึ้นๆ

สมมุติว่าเรากะลังเดินทางไปถึงระยะที่ 79 บาท ... TAXI ปกติเมื่อกำลังวิ่ง ให้สังเกตุตรงด้านหลังตัวเลขมุมขวาล่าง จะมีจุดเล็กๆกระพริบปิ๊บ ๆ อยู่เสมอ อย่างนี้ ...


แต่!!! ไอ้จุดนี่จะกระพริบก็ต่อเมื่อ TAXI กำลังวิ่งเท่านั้น เมื่อไหร่ที่รถหยุดวิ่ง จุดนี้จะหายไป เป็นแค่ตัวเลขเท่านั้น จะไม่มีจุดกระพริบอีกต่อไป.. มันจะไปกระพริบที่เวลาแทน และจุดที่ช่องราคาจะเริ่มกระพริบใหม่เมื่อรถออกวิ่งต่อ


แต่ถ้า TAXI คันไหนจอดแล้วจุดยังกระพริบอยู่ล่ะก็ .. แสดงว่ารถคันนั้นได้ทำการปรับแปลงมิเตอร์ให้โกงระยะทางอยู่ตลอดเวลา ทำให้ค่าโดยสารมันแพงขึ้นกว่าปกติ

วิธีเซ็นชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง...รู้ไว้ไม่เป็นหนี้


วิธีเซ็นชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง...รู้ไว้ไม่เป็นหนี้ (Forward Mail)

บางคนอาจใช้ขีดเส้นขนาน แล้วเขียนข้อความ / เซ็นรับรอง

วันนี้เอาวิธีเซ็นชื่อรับรองสำเนาที่ถูกต้อง มาแบ่งปันให้คุณรู้ไว้จะได้ไม่เป็นหนี้ เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ประมาทไม่ได้เลยล่ะ เพราะหากเซ็นไม่ถูกวิธีแม้เพียงนิดเดียว คุณอาจตกเป็นหนี้โดยไม่รู้ตัวจากผู้ที่ไม่ประสงค์ดีที่นำเอาเอกสารสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน หรือสำเนาเอกสารสำคัญอื่นๆ จากการเซ็นรับรองของเราไปทำประโยชน์ส่วนตน แต่สร้างหนี้ที่ไม่ได้ก่อให้กับเรา ดังนั้นจึงขอแนะนำว่า...ทุกครั้งหากต้องเซ็นเอกสารรับรองสำเนาอย่าลืม ...จำ...และทำตามขั้นตอนต่อไปนี้นะคะ...

1) ทุกครั้งหลังจากเซ็นชื่อ และเขียนรับรองสำเนาถูกต้องแล้ว ต้องเขียนรายละเอียดกำกับไว้ด้วยว่า..เอกสารฉบับนั้นใช้สำหรับทำอะไร เช่น " ใช้เฉพาะสมัครงานเท่านั้น "

2) นอกจากกำกับรายละเอียดการใช้แล้ว ยังต้องกำกับ วัน/เดือน/ปี เขียนลงบนสำเนาที่ใช้ด้วยนะค่ะ ซึ่งนั่นจะช่วยกำหนดอายุการใช้งานสำเนาของเราได้

3) ต้องเขียนข้อความทั้งหมดทับลงบนสำเนาส่วนที่เป็นบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน หรือสำเนาเอกสารอื่นๆ ที่สำคัญ

ทั้งสามข้อคือวิธีเซ็นที่ถูกต้องในการรับรองสำเนาอย่างรัดกุม ไม่เปิดช่องทาง ให้กับมิจฉาชีพ เอาไปสร้างหน! ี้ให้กับเรา ต่อไปนี้ต้องระวัง เพราะคุณอาจเป็นรายต่อไป ที่จู่ๆก็มี หนี้ตามมาเคาะประตูถึงบ้าน รู้อย่างนี้แล้วก็อย่าลืมทำตามล่ะ

4) ในกรณี ที่เซ็นเอกสาร ต้องใช้ปากกาหมึกสีดำเท่านั้น ถึงจะปลอดภัยที่สุด เพราะเครื่องถ่ายเอกสาร บางเครื่อง สามารถถ่ายเอกสารโดยดึงหมึกสีน้ำเงินออก เหลือใช้เฉพาะข้อความของบัตรประชาชน แล้วทำให้มิจฉาชีพ เซ็นเอกสารบัตรประชาชนนั้น แทนเราได้เลย ****เพราะฉะนั้นเราควรเซ็นด้วย ปากกาสีดำเท่านั้น เพราะไม่สามารถดึงหมึกสีดำออกได้ หรือถ้าดึงสีดำออกได้ข้อความก็จะหายไปหมดเลยทั้งหน้า บัตรประชาชนค่ะ

อย่าลืม ต้องใช้ปากกากหมึกดำเท่านั้น...จึงจะปลอดภัยที่สุด

7 สิ่งที่ควรหยุดทำทันทีใน Facebook

7 สิ่งที่ควรหยุดทำทันทีใน Facebook (Forward Mail)

บทความนี้เรียบเรียงจาก 7 Things to Stop Doing Now on Facebook by Consumer Reports Magazine Wednesday, May 12, 2010 เป็นคำกล่าวของ Charles Pavelites, ผู้ชำนาญการพิเศษของหน่วยงาน ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์จากอาชญากรรมทางอินเตอร์เนต

อย่าให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวคุณ มากนักบน Facebook และที่ Onlineอื่นๆ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศ สเปน มีผู้หญิงคนหนึ่งได้โพสรูปของเธอ ซึ่งเป็นรูปที่เธอดูดีบน Facebook แน่นอนว่ามีคนขอเธอเป็นเพื่อนมากมาย และเธอก็รับทั้งหมด หนึ่งในนั้นเป็นผู้ชายที่เริ่มขอเจอเธอ และคาดว่าอยากมี sex กับเธอ เธอปฏิเสธเขาแต่เนื่องจากเธอใส่ที่อยู่ , เบอร์โทรศัพท์ และรายละเอียดอื่น ๆ เขาไปหาเธอตามที่อยู่นั้น และอันตรายก็เกิดขึ้นกับเธอจนถึงขั้นเสียชีวิต

ฉะนั้น 7 สิ่งที่ควรหยุดทำทันทีใน Facebook คือ

1. ใช้รหัส ผ่านแบบง่าย ๆ
หลีกเลี่ยงการใช้ ชื่อธรรมดา หรือคำทั่วไปที่สามารถหาพบได้ในพจนานุกรม หรือแม้แต่ตัวเลขที่ลงท้ายรหัสผ่านดังกล่าว ควรใช้การผสมระหว่าง ด้านหน้า ด้านหลังตัวอักษร ด้วยตัวเลข หรือสัญลักษณ์ รหัสผ่านควรมีแปดตัวอักษรอย่างน้อย เทคนิคที่ดีอย่างหนึ่งคือ
การเพิ่มตัวเลขหรือ สัญญลักษณ์ระหว่างกลางคำผ่าน

2. ระบุวันเดือนปีเกิดในข้อมูลสาธารณะ
โจรภัยทางข้อมูลแบบ เบื้องต้น ผู้ไม่หวังดีมักจะใช้ในการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวคุณ เพราะมันจะมีประโยชน์อย่างมากในการเข้าถึงข้อมูลธนาคารหรือบัตรเครดิต ถ้าคุณได้ระบุวันเกิด ให้กลับไปที่ข้อมูลส่วนตัว เข้าไปแก้ไขข้อมูลส่วนตัว ระบุข้อมูลพื้นฐานคือ ไม่แสดงวันเกิดในข้อมูลส่วนตัว หรือ แสดงเฉพาะวันและเดือนเกิดในหน้าข้อมูลส่วนตัว
(การติดต่อสอบถามเกี่ยวกับบัตรเครดิต มักจะต้องตอบข้อมูลเรื่องนี้ด้วย)

3. ตรวจสอบการใช้งานของข้อมูลส่วนตัว
ข้อมูลทั้งหมดใน Facebook คุณ ควรกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงของเพื่อน หรือเพื่อนของเพี่อน หรือตัวคุณเอง เช่น การเข้าชมรูปภาพ วันเกิด ศาสนา และข้อมูลของครอบครัว หรือสิ่งอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวคุณเอง เช่น ข้อมูลในการติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ สถานที่อยู่ ควรจำกัดสิทธิ์เฉพาะบุคคลหรือกลุ่มที่สามารถจะเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว หรือจัดการบล็อก (ห้าม) บุคคลบางคน หรือไม่ให้บุคคลภายนอกสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว

4. ระบุชื่อบุตรหลาน โดยมีข้อความที่อธิบายหรือตำบรรยายใต้ภาพประกอบ
ใม่ควรระบุชื่อบุตรหลานหรือป้ายกำกับ (
tags) หรือ มีคำอธิบาย/บรรยายรายละเอียดใต้ภาพ และถ้าได้มีคนอื่นหรือเพื่อนคุณทำเช่นว่านั้นก็ขอให้ช่วยแก้ไขหรือลบออก พร้อมกับป้ายกำกับด้วย แต่ถ้าชื่อบุตรหลานของคุณไม่ได้อยู่ใน Facebook แต่ ได้มีบางคนได้ระบุข้อมูลดังกล่าวไว้ใน ป้ายกำกับ( tags) หรือ หรือมีคำอธิบายหรือบรรยายรายละเอียดใต้ภาพ ก็ขอให้เจ้าของข้อมูลดังกล่าวแก้ไข/ลบออกด้วย
(เป็นช่อง ทางให้ผู้ไม่หวังดีใช้ข้อมูลดังกล่าว ก่ออาชญากรรมบางเรื่องได้ง่าย เพราะรู้ว่าเป็นลูกหลานของใครมีฐานะการเงินเป็นเช่นไร)

5. การบอกว่า กำลังออกจากบ้าน
เป็นนัยที่สื่อความ หมายว่า ไม่มีใครอยู่ในบ้าน หรือคล้ายเป็นการปิดป้ายว่า ไม่ อยู่ ไว้ที่หน้าบ้านเช่น กัน ให้รอจนคุณกลับถึงบ้านแล้วค่อยบอกถึงการผจญภัยหรือความสนุกสนาน ในการเดินทางหรือการใช้วันหยุดพักผ่อน โดยอาจจะไม่ต้องระบุ วันเดือนปีที่เดินทางก็ได้ หรือระบุวันเดือนปีที่เดินทางให้คลุมเครือไม่ชัดเจน

6. การปล่อยให้ Facebook ค้นหา พบคุณ
เพื่อป้องกันคนแปลก หน้าเข้าถึงหน้าข้อมูลของคุณ ให้ไปที่การค้นหาของFacebook ข้อมูล ส่วนตัว และเลือกเฉพาะเพื่อนเท่านั้นของ Facebook ที่ จะค้นพบข้อมูลดังกล่าว และให้มั่นใจว่ากล่องข้อมูลสาธารณะไม่ได้ระบุให้เข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้

7. อย่าให้เด็กใช้ Facebook โดยไม่ตรวจสอบ ควบคุม
แม้ว่า Facebook จะ ไม่อนุญาตให้เด็ก อายุต่ำกว่าสิบสามขวบหรือยังไม่ถึงเกณฑ์ใช้งาน แต่หลายคนก็ทำการปลอมอายุเข้าไปใช้ได้ ถ้าคุณมีเด็ก หรือวัยรุ่นในความปกครองใช้ Facebook วิธีการที่ดี ที่สุดในการตรวจสอบและควบคุม คือ การเข้าร่วมเป็นสมาชิกในกลุ่มเพี่อนของเขา หรือให้ใช้ email ของคุณแทนในการติดต่อระหว่าง บัญชีของเขา เพื่อที่คุณจะได้รับข้อความหรือตรวจสอบการใช้งานของเขา
เพราะสิ่งที่พวกเขาคิดว่าไม่เป็นไร ไม่มีอะไร กลับกลาย เป็นสิ่งที่เลวร้ายอย่างง่ายดาย
ยกตัวอย่างเช่น มีเด็กคนหนึ่งมักจะบอกว่า " แม่กำลัง จะกลับบ้านแล้ว ฉันต้องไปล้างจาน" มักจะบอกทุก ๆ วัน ในเวลาเดิมเสมอ มันเป็นการบอกเวลาที่ชัดเจนมาก เกี่ยวกับการเดินทาง ไปกลับของพ่อแม่
(บอกช่วง เวลาที่ไม่มีผู้ใหญ่อยู่ที่บ้าน คนร้ายอาจกะระยะเวลาก่อกรรมทำชั่วได้ง่ายขึ้น)


ข้อมูลจาก Forward Mail

ถูฟันแรงไป...ทำให้ฟันเหลือง



ถูฟันแรงไป...ทำให้ฟันเหลือง (Lisa)

นอกจากการดื่มชา กาแฟ ไวน์แดง หรือการสูบบุหรี่จะทำให้ฟันเปลี่ยนสีแล้ว การแปรงฟันแรง ๆ ก็ทำให้ปูนที่หุ้มผิวฟันเหลืองได้เช่นกัน

ทั้งนี้ เนื่องจากปูนหุ้มผิวฟันเป็นส่วนที่แข็งที่สุดของร่างกาย แต่มันก็แก่เฒ่าได้ตามอายุของเรา ซึ่งอาหารที่มีกรด เครื่องดื่ม การแปรงฟันแรงๆ หรือการแปรงฟันผิดวิธี จะทำให้ปูนหุ้มผิวฟันถูกทำลายเร็วขึ้น

ที่สำคัญ คือปูนหุ้มผิวฟันไม่อาจเกิดขึ้นใหม่ได้ เมื่อผิวฟันบางลง ก็จะทำให้ Dentin สีเหลืองโผล่ให้เห็น ดังนั้นฟันของคนวัย 80 จึงมีสีคล้ำกว่าคนในวัย 20 ปี ฉะนั้น ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่า เมื่อสีของฟันเปลี่ยนไป ก็ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

ส่วนวิธีป้องกันไม่ให้ปูนหุ้มผิวฟันสึกกร่อนก็คือ การแปรงฟันอย่างอ่อนโยน สิ่งสำคัญคือการเลือกแปรงสีฟันที่ไม่แข็ง และรู้เทคนิกการแปรงฟันที่ถูกต้อง เพราะหากใช้แปรงสีฟันแข็ง ๆ จะทำให้ปูนหุ้มผิวฟันสึกและเหงือกร่น ส่งผลให้ปวดฟันง่าย คอฟันสึกและฟันผุ