วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2555

5 อาชีพเสี่ยงเป็นนิ้วล็อค

นิ้วล็อค

5 อาชีพเสี่ยงเป็นนิ้วล็อค (Mix Magazine)


โรคนิ้วล็อคเป็นอีกโรคทางกล้ามเนื้อและกระดูกที่เป็นกันได้ทุกวัย โรคนี้ไม่มีอันตรายถึงกับชีวิตแต่อย่างใด แต่เมื่อโรคนี้เกิดขึ้น มือของคุณจะไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ 100% มันจะทั้งเจ็บปวดทั้งน่ารำคาญทำอะไรก็ไม่สะดวก แถมยังต้องระวังเป็นพิเศษจนคุณแทบอยากจะหักนิ้วทิ้ง สาเหตุของการเกิดนิ้วล็อคนี้มาจากหลายสาเหตุ อาทิ การยกของหนัก การเกร็งนิ้ว การหิ้วต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้ "ปลอกหุ้มเอ็นอักเสบ" มากขึ้นมาก ๆ จนนำไปสู่ภาวะนิ้วล็อคได้

เมื่อเกิดโรคนี้แล้วก็ต้องทำใจด้วยความที่ว่ามันไม่สามารถหายขาด แต่อย่างไรก็ตาม เราสามารถทำให้อาการดีขึ้นได้ เช่น การนวดทุยหน่า (นวดแผนจีนโบราณ) กายภาพมือ หรือวิธีที่สามารถทำได้แต่ละวันอย่างการนำขนมปังชุบน้ำส้มสายชู พันตรงนิ้วที่มีอาการ ก็จะช่วยทำให้นิ้วล็อคมีอาการที่ดีขึ้นตามลำดับ

ฉบับนี้เราจึงได้เรียง 5 อันดับอาชีพที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคนิ้วล็อคมาให้อ่านกัน เผื่อว่าคุณมีอาจจะกำลังอยู่บนความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้โดยไม่รู้ตัว

1. นักกอล์ฟ (Golfer)

นักกอล์ฟหลายท่านมักจะประสบกับปัญหานิ้วล็อค สาเหตุก็เพราะท่านนักกอล์ฟนั้นซ้อมอย่างหนักหน่วง การเกร็งจับไม้กอล์ฟที่แน่น การแรงสวิงมากเกินไป และการหวดวงสวิงซ้อมติดต่อกันอย่างไม่เว้นช่วง สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยแรกที่ส่งผลทำให้เกิดการอักเสบของปลอกหุ้มเอ็นที่นิ้วมือ

ส่วนปัจจัยที่สองที่ส่งผลให้เกิดการอักเสบนิ้วล็อคก็คือ การเลือกไม้กอล์ฟที่หนักเกินกำลังของวงแขนและมือ โดยส่วนใหญ่ท่านนักกอล์ฟจะเลือกไม้ที่มีความหนักอย่างไม้กอล์ฟก้านเหล็กที่ความแข็งของก้านตั้งแต่ 5.5 - 6.5 ขึ้นไป เพื่อหวังระยะในการตีแต่ละครั้ง ทุกครั้งที่หวดซ้อมลูกและโดนลูกไม่เต็มใบ แรงสั่นหรือแรงช็อคของไม้จะส่งถึงมือและข้อนิ้วโดยตรงเป็นเหตุให้เกิดโรคนิ้วล็อคในระยะยาว

2. หมอนวดแผนโบราณ (Massager)

นวดแผนโบราณดูแล้วน่าจะเป็นอาชีพที่เสี่ยงน้อยที่สุด เพราะน่าจะมีความเข้าใจในเรื่องของเส้นเอ็นและกระดูกมากกว่าคนทั่ว ๆ ไป แต่หมองูตายเพราะงูมามากนักต่อนักแล้วครับ นวดแผนโบราณเป็นอาชีพที่ใช้นิ้วมืออย่างหนักหน่วงมาก โดยเฉพาะนิ้วหัวแม่โป้ง ข้อนิ้วมือแรกและหลังข้อนิ้วที่สอง เพราะต้องทำการกดบีบ ตัดเส้นให้กับลูกค้าผู้เส้นตึงทั้งหลาย โดยเฉพาะการนวดเท้าซึ่งผู้ที่มีเท้าแข็งและหนาจะสร้างความลำบากให้นิ้วมือของหมอนวดเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะมีไม้นวดเท้าออกมาช่วย แต่อาชีพนวดแผนโบราณนั้น ก็ยังคงเสี่ยงนิ้วล็อคอยู่ดี เพราะไม่ใช่แค่ส่วนเท้าอย่างเดียวที่ต้องนวด แต่หมายถึงทั้งร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้าที่มือต้องทำหน้าที่บีบนวดคลายเส้น

3. ช่าง (Craftsman, Mechanic)

อันดับ 3 ตกเป็นของอาชีพช่างทั้งหลายครับ ช่างนั้นมีความจำเป็นที่จะต้องใช้มืออย่างหนัก เพราะในทุก ๆ วันต้องอยู่กับเครื่องมือเครื่องไม้ที่ใช้แรง โดยเฉพาะงานอย่างช่างฝีมือหรือช่างเครื่องที่วัน ๆ ต้องอยู่กับไขควง ประแจ สิ่ว กบไสไม้ ขวาน หรือค้อนต่าง ๆ งานใดที่ยิ่งประณีต นั่นหมายถึงเวลาและเรี่ยวแรงที่ต้องเสียไป ช่างฝีมือ อาทิ ช่างไม้ไทยที่ทำหน้าที่สร้างบ้านเรือนไทยอย่างเรือนเครื่องสับ จะต้องอยู่กับเลื่อย สิ่ว ค้อน ทั้งวัน เพื่อที่จะทำหน้าที่ขึ้นรูปไม้ที่จะใช้ประกอบไม้ในแต่ละชิ้นส่วนงานออกมาให้ประณีตที่สุด ซึ่งนั่นก็หมายถึงความเสียหายที่มือจะต้องได้รับนั่นเอง

4. นักยูโด (Judo, Jujitsu)

อาชีพนักยูโดเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ต้องฝึกฝนกำลังข้อมือกำลังแขน และกำลังนิ้วเป็นอย่างมาก เพื่อที่จะได้มีความแข็งแรงมากพอที่จะจับคู่ต่อสู้ทุ่มลง ฟาดนอนไปกับพื้น ซึ่งนักยูโคต้องใช้มือกำตรงชายเสื้อชุดยูโด (กิ) แล้วฉุดกระชากดึงในท่วงท่าที่หลากหลายรูปแบบเพื่อให้คู่ต่อสู้เสียหลัก ซึ่งบางครั้งคู่ต่อสู้บิดตัวทำให้ชายเสื้อม้วนรัดที่กำปั้นและข้อมือ ก็นำมาซึ่งอาการบาดเจ็บได้

กีฬายูโดเป็นกีฬาที่ต้องใช้กำลังนิ้วติดต่อกับเป็นเวลานานไม่ว่าจะเป็นในเวลาแข่งหรือในเวลาซ้อม อีกทั้งนักยูโดจะฝึกกำลังนิ้ว ด้วยการนำเอายางในจักรยานมาผูกเข้ากับเสา แล้วดึงขึ้นลงอยู่ตลอดทำให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคนิ้วล็อคได้มากกว่าอาชีพอื่น ๆ

5. แม่บ้าน (Housewife)

อันดับสุดท้าย เป็นเรื่องที่ไม่น่าคาดคิดครับว่าเป็นอาชีพที่ใกล้ตัวเรามากที่สุด นั่นก็คือ แม่บ้านนั่นเอง งานหลักของแม่บ้านนั้นก็คือทำงานในบ้าน ไม่ว่าจะทำกับข้าว จ่ายตลาด ทำความสะอาดบ้าน แต่ในทุกรายละเอียดของการทำงานนั้นเต็มไปด้วยสภาวะที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคนิ้วล็อคทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นหิวตะกร้าหรือหิ้วถุงเดินตลาด ทำกับข้าวที่ต้องใช้แรงผัด แรงกวน หรือการซักผ้า บิดผ้าความเสี่ยงที่จะเกิดนิ้วล็อคล้วนเกิดขึ้นตลอดเวลาในการทำงาน ที่สำคัญอาชีพแม่บ้านนั้นไม่มีวันหยุด ปัจจุบันแม่บ้านเป็นจำนวนมากจึงต้องเจอกับโรคนิ้วล็อคอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก

วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2555

รูปปากบอกนิสัย



ปากใหญ่ คุณเป็นผู้หญิงที่กระตือรือร้นมากๆ เลยนะคะ ชอบดิ้นรนหาสิ่งใหม่ๆ รักการเรียนรู้ เอาแต่ใจตัวเองเป็นที่หนึ่ง แต่ก็แอบมีความขี้สงสารอยู่ไม่น้อยค่ะ

ปากเล็ก คุณเป็นคนที่จิตใจหวั่นไหวง่ายมากๆ ใจอ่อน ชอบเก็บความรู้สึก มีความใฝ่ฝันและทะเยอทะยานสูง รักความเป็นส่วนตัวเพื่อนเยอะแต่ค่อนข้างเอาแต่ใจตัวเองอยู่เหมือนกัน

ปากอิ่ม คุณเป็นคนที่มีอารมณ์โรแมนติกทีเดียวค่ะ มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม ช่างฝัน มีความเป็นผู้นำสูง รักความยุติธรรม ชอบวางแผนชีวิต กล้าได้กล้าเสีย และเป็นสาวใจบุญ ชอบทำบุญมากๆ

ปากอ้าหรือเผยอ แบบสาวอั้มคนสวย คุณเป็นคนที่มีจิตใจดีงาม มีอารมณ์ขันตลอด เปิดเผย ใจกว้าง มองโลกในแง่ดี แต่มักเป็นคนที่ลังเล สองจิตสองใจ ขี้สงสารและหวั่นไหวง่าย

ปากบาง คุณเป็นคนที่มีเหตุผล มีความคิดดี รอบคอบ สามารถเก็บความรู้สึกและควบคุมตนเองได้ดี ฉลาดรู้เท่าทันคน ชอบช่วยเหลือ รักสัตว์เป็นที่มาของชีวิตนางงามทั่วไปจ้า

ปากคว่ำ คุณเป็นคนที่ดื้อรั้น เอาแต่ใจตนเองมากไปหน่อย แต่มีความตั้งใจแน่วแน่ ชอบวางแผนชีวิตเสมอ แต่ค่อนข้างจะเป็นคนที่รักสนุก รักอิสระอยู่ไม่น้อยเลยล่ะค่ะ

จะเรียวปากแบบไหนก็ตามแต่ไม่ว่ากันเพราะว่าวิทยาการทางการแพทย์สมัยนี้เนรมิตให้ผู้หญิงเราสวยได้เสมออยู่แล้วที่สำคัญเพียงอย่างเดียวขอให้ปากหวานพูดจาไพเราะเสนาะหูแค่นี้ก็ชื่นใจใครหลายคนแล้วค่ะ


ขอบคุณข้อมูลโดย Horolive
ขอบคุณภาพประกอบจาก Photos.com

'บิล เกตส์' กับ 11 เรื่องที่โรงเรียนไม่เคยสอนคุณ


เผอิญไปอ่านเจอ เรื่องดี ๆ เกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ ในเว็บไซต์ secret.extrarisk.com กับ ’11 Things You Don’t Get to Learn in School’ หรือ ’11 สิ่งที่โรงเรียนไม่ได้สอนคุณ’ ซึ่งเป็นกฎที่บิล เกตต์เคยพูดเอาไว้ เมื่อมีคนถามว่า ทำอย่างไรเขาถึงได้ประสบความสำเร็จ และรวยมหาศาลเช่นทุกวันนี้ ที่สำคัญสิ่งเหล่านี้ หาไม่เจอในโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาที่เราตั้งหน้าตั้งตาเรียนกันมากว่า 10 ปี

กฎข้อที่ 1 ชีวิตนี้ไม่ยุติธรรมนักหรอก ทำความเคยชินกับมันซะเถอะ

กฎข้อที่ 2 โลกไม่สนใจหรอก ว่าคุณจะมั่นใจในตัวเองแค่ไหน แต่โลกนี้คาดหวัง ‘ความสำเร็จ’ ที่เกิดจากความมั่นใจของคุณต่างหาก

กฎข้อที่ 3 ไม่มีทางที่คุณจะทำเงินได้ปีละ 60,000 เหรียญ (เกือบ 2 ล้าน) ทันทีที่เพิ่งจบมัธยม และ ก็อย่าหวังเลยว่าจะได้เป็นประธานบริษัทที่มีรถประจำตำแหน่งพร้อมโทรศัพท์ใน รถส่วนตัวด้วย

กฎข้อที่ 4 ถ้าคุณคิดว่า อาจารย์กำลังสอนบทเรียนอันน่าเบื่อ ลองไปทำงาน แล้วเจอกับเจ้านายสิ

กฎข้อที่ 5 การคิดคำแสลงใหม่ ๆ ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะปู่ย่าตายายของคุณก็เคยทำมาก่อน

กฎข้อที่ 6 ชีวิตที่ยุ่งเหยิงของคุณ ไม่ใช่ความผิดของพ่อแม่ เลิกคร่ำครวญเกี่ยวกับสิ่งที่พลาดไปแล้ว แต่จงเรียนรู้จากมัน

กฎข้อที่ 7 ก่อนที่คุณจะเกิด พ่อแม่ไม่ได้น่าเบื่อเหมือนที่คุณรู้สึกตอนนี้ พวกเขาต้องทำงานอย่างหนัก มาจ่ายบิลต่าง ๆ ต้องซักเสื้อผ้าให้กับคุณ พวกเขาต้องอดทนฟังคุณคุยอวดในเรื่องไม่เข้าท่า ดังนั้น ถ้าคุณคิดจะทำเรื่องใหญ่ ๆอะไรก็ตาม เช่น ช่วยอนุรักษ์ป่าฝนรุ่นบรรพบุรุาจากการถูกปรสิตทำลาย ช่วยกำจัดเห็บเหาที่มันแพร่พันธุ์ในตู้เสื้อผ้ารก ๆ ของคุณซะก่อน

กฎข้อที่ 8 ชีวิตในโรงเรียนอาจตัดสินคุณว่าเป็นผู้ชนะหรือแพ้ แต่ชีวิตจริง ‘ไม่ใช่’ บางโรงเรียนสอนการเป็นผู้แพ้ด้วยซ้ำไป แถมยังให้โอกาศคุณมากมายในการทำสิ่งที่ถูกต้อง พูดง่าย ๆ ก็คือ ชีวิตในโรงเรียน ไม่เหมือนชีวิตจริงหรอก

กฎข้อที่ 9 ชีวิต ไม่ได้แบ่งเป็นเทอมๆ ไม่มีช่วงซัมเมอร์ให้คุณไปค้นหาตัวตน

กฎข้อที่ 10 สิ่งที่เกิดขึ้นในโทรทัศน์ ไม่ใช่ชีวิตจริง เพราะในชีวิตจริง ผู้คนต้องรีบเช็คบิลจากร้านกาแฟ และตรงดิ่งไปทำงาน (เราจะเห็นว่าในละครส่วนใหญ่ คนมักออกจากที่ทำงานมาคุยกันที่ร้านกาแฟ)

กฎข้อ 11 เป็นมิตรกับความ ‘เนิร์ด’ แล้ว ชีวิตคุณจะไม่ต้องเป็นลูกจ้างใครอีกต่อไป

วันเสาร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2555

เหตุผลดีๆ ที่ควรยิ้มยิ้มวันละนิด

เหตุผลดีๆ ที่ควรยิ้มยิ้มวันละนิด จิตแจ่มใส...การยิ้มเป็นการเริ่มต้นมิตรภาพที่ดีที่สุด...การยิ้มในวันที่อ่อนล้าหรือเซ็งสุดๆ ในชีวิต จะช่วยกระตุ้นให้คุณรู้สึกดีขึ้น...ยิ้มสวยๆ เพียงครั้งเดียวดีกว่าคำพูดนับแสนคำทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างเหตุผลดีๆ ที่เราควรส่งยิ้มให้แก่กัน แต่ ‘ยิ้ม' ยังมีประโยชน์มากกว่านี้อีกนะคะ เพราะเมื่อเรายิ้มกล้ามเนื้อใบหน้าก็จะเคลื่อนไหว ส่งผลให้โลหิตแดงที่ไปเลี้ยงสมองมีอุณหภูมิลดลง ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และในขณะที่เรากำลังยิ้มนั้น หัวใจก็จะเต้นช้าลง ความดันโลหิตลดลง ระบบต่างๆ ในร่างกายก็จะผ่อนคลายลง ฮอร์โมนอะดรีนาลีนซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียดก็จะถูกขับออกมาน้อยลงด้วยค่ะ

นอกจากยิ้มจะช่วยให้มีสุขภาพที่ดีแล้ว ยิ้มยังช่วยในเรื่องของจิตใจ สภาวะทางอารมณ์และกระบวนการคิดของสมองอีกด้วย เพราะเมื่อคุณยิ้มจิตใจก็จะผ่อนคลาย สมองก็จะได้รับออกซิเจนอย่างเต็มที่ กระบวนการทางความคิดก็จะกระจ่างช่วยให้คุณแก้ไขปัญหาต่างๆ หรือเกิดมุมมองที่ดี ให้แก่ชีวิตได้มากขึ้น แถมยังช่วยกระจายความสุขไปสู่ผู้ที่พบเห็นอีกด้วยนะคะ มีข้อดีมากมายอย่างนี้ สาวๆ ก็อย่ามัวผูกคิ้วเป็นโบกันนะคะ แล้ววันนี้...คุณ ‘ยิ้ม' แล้วหรือยัง?

ข้าวโพดสีม่วง ช่วยต้านมะเร็ง


รู้หรือไม่ว่า ข้าวโพดเหนียวสีม่วงที่มีรสชาติหวานนุ่มลิ้นและเคี้ยวเพลินนั้น มีคุณสมบัติช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ลดโอกาสในการเกิดโรคมะเร็ง และยังช่วยร่างกายสมานแผลและต่อต้านเชื้อโรคอีกด้วย ซึ่งในข้าวโพดเหนียวสีม่วงนี้มีสารที่เรียกว่า ‘แอนโทไซยานิน' ที่จะช่วยส่งเสริมการทำงานของเม็ดเลือดแดง ควบคุมระดับน้ำตาลและช่วยชะลอการเกิดไขมันอุดตันในหลอดเลือดอีกด้วย นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังมีคุณค่าทางสารอาหารสูงอีกด้วยนะคะ เรียกได้ว่าสาวๆ คนใดที่รักสุขภาพ คงต้องรีบให้ข้าวโพดชนิดนี้เป็นหนึ่งในตัวช่วยบำรุงร่างกายแล้วล่ะค่ะ

ขอขอบคุณ :นิตยสาร woman plusผู้สนับสนุนเนื้อหา

ค้นพบดาวเคราะห์ดวงใหม่ประกอบด้วยน้ำเป็นส่วนใหญ่


นักวิทยาศาสตร์สหรัฐ เผยผลการค้นพบดาวเคราะห์ดวงใหม่ที่บริเวณพื้นผิวประกอบด้วยน้ำร้อน

นักวิจัยจากศูนย์ดาราฟิสิกส์แห่งฮาร์วาร์ด-สมิธโซเนียน กล่าวว่า ค้นพบดาวเคราะห์ชนิดใหม่ที่ไม่ได้มีหินแข็ง ก๊าซ หรือวัตถุอื่น ๆ ที่พบทั่วไปเป็นส่วนประกอบ แต่ประกอบด้วยน้ำและมีบรรยากาศปกคลุมด้วยไอน้ำหนาทึบ ซึ่งข้อมูลนี้ได้มาจากการสำรวจอย่างละเอียดของกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลขององค์การนาซา

นักดาราศาสตร์กล่าวว่า ดาวเคราะห์ จีเจ1214บี ไม่เหมือนกับดาวเคราะห์ที่เคยรู้จัก เนื่องจากมวลส่วนใหญ่ประกอบด้วยน้ำ ดาวดวงนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 2552 โดยโครงการเอ็มเอิร์ธและได้รับการขนานนามว่า "ซูเปอร์-เอิร์ธ" เนื่องจากมีเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่กว่าโลกประมาณ 2.7 เท่า และมีน้ำหนักมากกว่าโลกเกือบ 7 เท่า

ผลการศึกษาเพิ่มเติมในปี 2553 พบว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของดาวดวงนี้ปกคลุมด้วยน้ำ มีหินแข็งน้อยมาก และมีแรงดันและอุณหภูมิสูงถึง 232 องศาเซลเซียส ด้วยสภาพที่แปลกประหลาดเช่นนี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดสิ่งแปลกประหลาด เช่น "น้ำแข็งร้อน"

ดาวเคราะห์ดังกล่าวมีลักษณะแตกต่างไปจากดาวเคราะห์ในระบบสุริยจักรวาลซึ่งมีดาวเคราะห์ 3 ประเภทคือดาวเคราะห์ที่ประกอบด้วยหินแข็ง เช่น โลก ดาวเคราะห์ที่เป็นกลุ่มก๊าซขนาดใหญ่ เช่น ดาวพฤหัส หรือดาวเสาร์ และดาวเคราะห์เป็นก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่เช่นดาวยูเรนัส. -สำนักข่าวไทย

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ดูดวงจากเวลาเกิด


เกิดเวลาตี 5 ถึง 7 โมงเช้า

ช่วงเวลานี้เป็นเวลากระต่าย จะทำให้คุณเป็นคนรักสวยรักงาม ทำอะไรละเอียดอ่อน สะอาดสะอ้าน ชอบแต่งตัวให้ดูดีเสมอบุคลิกของคุณจะค่อนข้างสุภาพดูอ่อนโยน พูดจาหวานและนอบน้อม ถ่อมตัว มีมารยาทเป็นเลิศ ดูแล้วผู้ดีสงบเงียบเรียบร้อยเป็นผู้ใหญ่ ด้านนิสัยใจคอแม้จะดูเงียบนุ่ม ปานนั้น ลึก ๆ มั่นใจและทะเยอทะยานไม่น้อย เป็นคนเข้มแข็งข้างใน รู้จักระมัดระวังรอบคอบ เป็นนักการฑูต จิตวิทยาสูง มีความเข้าอกเข้าใจคนอื่นดี ใจกว้าง โกรธง่ายหายไว จิตใจดี ใจอ่อน ชอบ ทำบุญ ชอบช่วยเหลือ รสนิยมดี


เกิดเวลา 7 โมงเช้าถึง 9 โมงเช้า

เวลานี้เป็นเวลามังกร บุคลิกของคุณจะดูหยิ่งทะนงมาก ท่าทางสง่าผ่าเผย ดูหัวสูง ติดหรู ความทะเยอทะยานจะเห็นได้ชัด คุณดูน่าเกรงใจ เข้าถึงยาก มีความเป็นผู้นำสูง นิสัยของคุณจริง ๆ แล้วเป็นคนใจกว้างและเด็ดเดี่ยว รักศักดิ์ศรี โมโหร้าย บุ่มบ่าม มุทะลุ ทำอะไรต้องตรงไปตรงมา ไม่ชอบ เรื่องเล่ห์เหลี่ยม ในด้านดีอยู่ที่เป็นหลักพึ่งพิงได้ รับผิดชอบสูงและขี้สงสาร เป็นคนที่มีประสิทธิภาพสูงทีเดียวนะ อนาคตของคุณค่อนข้างแจ่มแจ๋วด้วยความมุ่งมั่นบากบั่นของคุณนั่นแหล่ะ

เกิดเวลา 9 โมงเช้าถึง 11 โมงเช้า

คนที่เกิดสาย ๆ เวลานี้ซึ่งเป็นเวลางู โดยมากจะหน้าตาดี แต่งตัวดีเสมอ ด้วยของหรูหราราคาแพงหรือ มียี่ห้อ ภาพพจน์ของคุณต้องมาก่อนเสมอบุคลิกของคุณดูเงียบขรึม เรียบร้อยสุภาพนุ่มนวล มายาทดี พูดจาหวานหูชื่นใจ นิสัยข้างในค่อนข้างฉลาด เก็บความรู้สึกและความต้องการได้นิ่งลึกมาก คุณรักการแข่งขัน ชิงดีชิงเด่น มีความทะเยอทะยานสูง ชอบทำตัวเด่น อยากมีชื่อเสียง เป็นนักวางแผนผู้ชาญฉลาดใจแข็ง ไม่หวั่นไหวอ่อนข้อให้ใครง่าย ๆ ถ้าจะล้วงความลับจากตัวคุณคงไม่ง่ายนักหรอก

เกิดเวลา 11 โมงเช้าถึงบ่ายโมง

เวลาเกิดช่วงนี้เป็นเวลาม้า ทำให้คุณมีบุคลิกของนักกีฬา แข็งแรงอดทน ร่าเริงคึกคัก ชอบสนุกสนานเรื่องตลกโปกฮาล่ะชอบนัก ความที่รักอิสระเสรีกับการเป็นนักผจญภัย
ถือเป็นจุดเด่นในตัวคุณ มีความเป็นตัวของตัวเอง ชอบแหกกฎนิสัยของคุณเป็นคนใจกว้างกระตือรือร้นมากแต่รอบคอบไม่เป็น ใจร้อนชอบทำก่อนคิด กล้าลุยไปข้างหน้า จิตใจเข้มแข็ง มานะบากบั่น มีความจริงใจสูงรักเพื่อนและครอบ ครัว เวลามีทิฐิจะเป็นคนหัวแข็ง ดื้อรั้นสุด ๆ เวลาน่ารักจะมีชีวิตชีวาน่าตื่นเต้น เจอมรสุมก็ยังลุกขึ้นสู้ได้ยิ้มได้ทั้งน้ำตาเลยนะคุณน่ะ

เกิดเวลาบ่ายโมงถึงบ่าย 3 โมง

คุณที่เกิดเวลานี้เป็นเวลาแพะ จะเป็นคนใจดีอ่อนโยนจนถึงขั้นขลาดเขิน บุคลิกท่าทางของคุณจะสุภาพอ่อนโยน นุ่มนวลมีมารยาท ดูสุขุมใจเย็น ไม่มีพิษไม่มีภัยขี้อายแต่มีความคิดสร้างสรรค์ช่างฝัน มีไอเดียมัน ๆ กับเรื่องตลกจี้เส้น ที่ทำให้หัวเราะน้ำหูน้ำตาไหล บางเวลาดูเศร้าซึมเพราะชอบคิดมากเกินเหตุ จิตใจดีทำร้ายใครไม่เป็น ถ้าถูกรังแกจะสู้ยิบตามีความมั่นใจซ่อนไว้ใต้ท่าทางอ่อนโลกติ่ม ๆ คุณเป็นคนซื่อตรงรักสงบ เกลียดความรุนแรง อะไร ๆ ก็ดีหมด ยกเว้นเรื่องดื้อรั้นของคุณ ครองแชมป์ตลอดกาลเลย

เกิดเวลาบ่าย 3 โมงถึง 5 โมงเย็น

คุณที่เกิดเวลาบ่าย ๆ ซึ่งเป็นเวลาของลิง จะมีอิทธิพลทำให้คุณค่อนช้างแอ็กทีฟไม่อยู่เฉย บุคลิกของคุณดูเปิดเผย ใจร้อนและซุ่มซ่าม นิสัยของคุณเหมือนเด็ก ๆ ชอบเล่นพิสดาร คุณเป็นคนฉลาดหัวไว มีไหวพริบกล้าพูดกล้าทำ ตรงไปตรงมา เป็นนักวางแผนและรู้จักเอาตัวรอดมีเล่ห์กลแต่ไม่ทำร้ายใครลับหลัง มีความสามารถรอบตัว ปรับตัวเข้ากับคนได้ ทุกระดับ ทุ่มเทกับการงานมาก ทำงานดีเชื่อมือได้เสน่ห์ในตัวอยู่ที่ ความขี้เล่นมีชีวิตชีวาเฮฮาแม้ท่าทางจะดูคล้ายกะล่อนเล็ก ๆ แต่ก็หนักแน่นจริงใจมากนะ

เกิดเวลา 5 โมงเย็นถึง 1 ทุ่ม

ช่วงหัวค่ำเป็นเวลาไก่ ส่งผลให้คุณเป็นคนเข้มแข็ง หยิ่งยโสหัวรุนแรง ขวางโลก และหัวโบราณ คุณเป็นคนที่ชอบแต่งตัวใช้แต่ของดีมีราคา บุคลิกขี้อวดไม่ใช่เล่น ว่าฉันเนี่ยรสนิยมดีนะ ในส่วนลึกของจิตใจคุณเป็นนักอนุรักษ์นิยม เจ้าระเบียบ จู้จี้ ขี้บ่นเก่งหงุดหงิดง่ายดายไม่ยอมเสียเงินแบบไร้ค่า ยกเว้นเรื่องภาพพจน์ล่ะยอม คุณมีหัวในการบริหารควบคุม
มีความเด็ดขาดละเอียดถี่ถ้วน ต่อสู้กับอุปสรรคไม่มีถอย ยามอารมณ์ดีจะเป็นคนสนุก ชอบล้อเล่น ใจกว้างมีน้ำใจนักกีฬา ไม่ชอบการใช้อำนาจ เกลียดคนอวดเบ่งที่สุด

เกิดเวลา 1 ทุ่มถึง 3 ทุ่ม

คุณที่เกิดช่วงเวลานี้เป็นเวลาของสุนัข ทำให้คุณเป็นคนรักคุณธรรม ยืดหยุ่นไม่ค่อยเป็น คิดและทำอะไรก็ตามตรงทื่อไปหมด ไม่กล้าแหกกฎระบบระเบียบจนเกินไป ชีวิตถึงไม่ค่อย มีอะไรแปลกใหม่บางครั้งจึงดูน่าเบื่อและแสนเซ็ง มีความขยัน ฉลาด แต่พลิกแพลงไม่เป็นเอาตัวไม่ค่อยรอด คุณเกิดมาเป็นนักปกป้องคุ้มครองคนอื่น มองโลกแบบตรงไปตรงมา ไม่เ่พ้อฝัน ขาดอารมณ์โรแมนติก แต่ก็เป็นคนตลกจี้เส้นเพราะมองโลกในแง่ดีเรื่องเสียสละเพื่อคนอื่นคุณเป็นเจ้าชาย-เจ้าหญิงในเรื่องนี้เลยล่ะ ซื่อไปนิดเซ็งไปหน่อยแต่จริงใจไม่มีใครเทียบได้เลย

เกิดเวลา 3 ทุ่มถึง 5 ทุ่ม

คุณที่เกิดเวลาหมู อันเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน ทำให้คุณขี้เกียจนิด ๆ เฉื่อยหน่อย ๆ คุณรักความเรียบง่ายไม่มากเรื่อง สุภาพอ่อนโยน ใจดี และอบอุ่น บุคลิกออกจะนุ่ม ๆ
คุณมีจิตใจดี จริงใจ มีอารมณ์สุนทรีย์ รักดนตรี ศิลปะสวยงาม มีความโรแมนติกในหัวใจ แม้จะพูดน้อย แต่เอาอกเอาใจเป็นเลิศ คุณชอบแต่งตัวแบบผู้ดี๊ผู้ดี รสนิยมดี ชอบทำอาหารและชอบกินด้วยรูปร่างจึงออกจะแข็งแรงและสมบูรณ์ คุณ เป็นคนใจกว้างและชอบให้อภัยหากถูกทำร้ายจะกลายเป็นหมูป่าสู้ถวายชีวิต ความคิด และการกระทำ จะเป็นแบบค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปรอบคอบใจเย็นจนกว่าจะมั่นใจนั่นแหล่ะ ถึงจะลุยไม่ว่าคุณจะหญิงหรือชาย คุณจะเป็นแม่บ้านพ่อเรือน และรักครอบครัวมาก

เกิดเวลา 5 ทุ่มถึงตี 1

เป็นเวลาของหนู คุณที่เกิดเวลานี้จะมีบุคลิกกระตือรือร้น ร่าเริงปราดเปรียวสดใส แต่มีความระแวดระวัง ฉลาดหัวไว ไหวพริบดี ตรงไปตรงมาไม่มีเล่ห์เหลี่ยม บุคลิกท่าทางดูขรึม พูดน้อย เฉยชาแต่มี มารยาท รักเพื่อน มีความสุขในหมู่เพื่อน ๆชอบช่วยเหลือและมีน้ำใจจุดเด่นคือความขยัน และสะสมเก่งคุณมักมีเงินสำรองช่อนไว้ไม่มีใครรู้หรอก ชอบวางแผนการเงินประหยัดไม่ฟุ่มเฟือย เป็นคนมีระเบียบ บากบั่นมุ่งมั่นสูง ปรับตัวเก่ง มีความรักแบบผู้ให้รักบ้านรักครอบครัว แต่ก็รักอิสระ ไม่อยากถูกผูกมัด กว่าจะลงเอยกับใครสักคน คิดนาน คิดลึกจนผมหงอกเลยเชียวล่ะ

เกิดเวลาตี 1 ถึงตี 3

เวลานี้เป็นเวลาของวัว ทำให้คุณทำอะไรช้ากว่าชาวบ้าน บุคลิกท่าทางแข็งแรงบึกบึน และอึด เป็นคนเฉื่อยแบบใจเย็น ๆ โกรธยากแต่โกรธทีเหมือนระเบิดลง ข้อดีอยู่ที่มีความบากบั่นมีระเบียบ ขยันอดทนหนักแน่น อยู่ในจำพวกสมบูรณ์แบบนิยม ทำอะไรตรงไปตรงมาไม่รู้จักปรับตัว ไม่มีเล่ห์เพทุบายกับ ใครเค้าหรอก คุณน่ะซื่อตรง จนไม่ค่อยทันใคร ขาดอารมณ์ขันตลกก็ตลกแบบฝืด ๆ โดยปกติเป็นคนอดทนมากไม่ชอบความรุนแรง การทะเลาะวิวาท เลี่ยงได้จะเลี่ยง ถ้าเลี่ยงไม่ได้คุณจะเปลี่ยนร่างเป็นวัว กระทิงขวิดสุดฤทธิ์ทีเดียว

เกิดเวลาตี 3 ถึงตี 5

คุณที่เกิดเวลานี้จะเป็นคนดวงแข็ง เพราะนี่เป็นเวลาเสือ ส่งผลให้คุณหุนหันพลันแล่น ก้าวร้าวเข้มแข็ง และดูมีอำนาจ คุณมีจิตใจที่กล้าหาญเด็ดเดี่ยว มั่นใจในตัวเองสูง แต่ขาดความรอบคอบ เพราะอารมณ์อยู่เหนือหัวใจ แต่ก็เป็นคนใจดี ชอบ เสียสละใจกว้างไม่จุกจิกกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มีความรับผิดชอบชอบฉายเดี่ยวไม่อยู่ติดที่ คุณมักจะมองโลกในแง่ดี มีอารมณ์ขัน ขี้โม้โอ้อวด หลงใหลเรื่องรักใคร่โร แมนติก ชอบเผลอปล่อยตัวปล่อยใจไปชั่ววูบ มีความเซ็กซี่เป็นเสน่ห์ส่วนตัวที่น่าดึงดูดใจ ข้อเสียมีแค่ ไม่รู้จักยอมออมชอมบ้าง ขาวเป็นขาว ดำเป็นดำจะหาสีเทาจากคุณน่ะยากเหลือเกิน

ขอบคุณข้อมูลจาก www.baanrak.com
ขอบคุณภาพประกอบจาก Photos.com

ไข้ขึ้น...เหงื่อออกช่วยได้


หากไข้ขึ้นต่ำๆ การปล่อยไว้โดยไม่ต้องกินยาลดไข้ อาจจะดีกว่าสำหรับตัวคุณเองก็ได้ โดยการศึกษาตีพิมพ์ใน Leukocyte Biology เปิดเผยว่า

การปล่อยให้ไข้ขึ้น อาจทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวชื่อ CD8+Cytotoxic T-Cell ทำงานโดยการฆ่าเซลล์ทิ่ติดเชื้อไวรัสได้อย่างเต็มที่โดยไข้ต่ำๆ นั้นเป็นสภาวะที่จะทำให้มันทำงานดีขึ้น อย่างไรเสีย นักวิจัยจาก Immunology Roswell Park Cancer Institute ในนิวยอร์ก ก็ยังชี้ว่าก็ไม่ควรปล่อยไข้ไว้สำหรับเด็กๆ หรือผู้ใหญ่ที่มีไข้สูงกว่า 38 องศา เพราะหากไข้สูงมากเกินไปอาจเป็นอันตรายกับเซลล์สมองและทำให้เกิดอาการช็อกได้

หงุดหงิดเพราะขาดน้ำ


ผลการศึกษาใหม่ชี้ การดื่มน้ำไม่เพียงพออาจก่ออารมณ์หงุดหงิดได้ง่ายกว่าปกติ รวมถึงมีผลต่อระบบประมวลผลในสมอง


นิตยสาร The Journal of Nutrition ได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาล่าสุดซึ่งนักวิจัยพบว่า ภาวะขาดน้ำในมนุษย์เป็นปัจจัยหลักในการเกิดอาการปวดหัว เหนื่อยล้า ขาดแรงจูงใจในการทำงาน และอารมณ์หงุดหงิด


การศึกษาชี้ว่า ผู้หญิงที่ขาดน้ำน้อยกว่าปกติเพียงร้อยละ 1 ได้รับผลกระทบ ได้แก่อารมณ์หงุดหงิดและอาการปวดศีรษะ


นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์ The Huffington Post ได้อ้างอิงถึงผลการศึกษาในปี 2009 โดยนักวิจัยจาก Tufts University ว่าการขาดน้ำในร่างกาย สามารถนำไปสู่ภาวะอาการเหนื่อยล้า สับสน และอารมณ์ขุ่นมัว ซึ่งการศึกษานี้ได้ทำการศึกษานักกีฬาเพศหญิงที่อยู่ในช่วงวัยรุ่น


ถึงแม้ว่าการศึกษาเกี่ยวกับภาวะร่างกายขาดน้ำกับผลกระทบทางอารมณ์จะทำขึ้นกับผู้หญิง แต่ผลการศึกษาสามารถนำมาใช้กับผู้ชายได้เช่นกัน และนิตยสาร TIME ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การรักษาให้ร่างกายได้รับน้ำเพียงพอนั้น ทำได้โดยการดื่มน้ำเปล่า และงดเครื่องดื่มที่ประกอบด้วยสารคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์ สำหรับปริมาณน้ำเปล่าที่ควรดื่มในแต่ละวันนั้น สามารถเช็คโดยง่ายจากสีของปัสสาวะ ซึ่งเมื่อไหร่ที่สีปัสสาวะเข้มกว่าปกติ แสดงว่าร่างกายกำลังต้องการน้ำมากขึ้น

การนอนกับเรื่องสิว



สิวกับการนอนหลับ

การนอนหลับกับผิวของคุณ - - วิธีการที่ง่ายและดีที่สุดที่คุณสามารถทำให้กับผิวของคุณได้อย่างที่คุณไม่เคยคิดคือ การนอน!!! นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกต่างเห็นพ้องต้องกันว่าการได้นอนหลับอย่างเป็นสุขในค่ำคืนอย่างน้อย 8 ชั่วโมง จะช่วยในเรื่องของผิวได้อย่างไม่น่าเชื่อ - - อย่างไร??? สุขภาพที่ดี, การพักผ่อนที่ดี เป็นแหล่งที่มาในการสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ในขณะที่ระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงไม่ได้ช่วยป้องกันสิวได้ทั้งหมด แต่ช่วยในการต่อสู้กับเชื้อโรค ดังนั้นการอักเสบของสิวก็จะหายได้เร็วขึ้น - - โชคดีที่ร่างกายไม่เรื่องมาก เพราะการหลับอย่างต่อเนื่องในช่วงกลางวันโดยไม่ถูกรบกวนก็มีประโยชน์เช่นกัน ดังนั้นหากทำงานดึก, นอนดึก พยามยามรักษาตารางเวลาให้ดี

การวิจัยได้ชี้แจงว่า ระดับฮอร์โมนของคนเราจะเพิ่มขึ้นเมื่อเราถูกรบกวนระหว่างการนอนหลับ การเพิ่มขึ้นของระดับฮอร์โมนจะให้ผลในการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นซึ่งจะนำไปสู่การเกิดสิวที่เพิ่มขึ้น ระหว่างการนอนหลับเซลล์ผิวจะมีการสร้างเซลล์ใหม่และบำรุงเซลล์เหล่านั้นเพื่อซ่อมแซมตัวเองจากการใช้งานมาตลอดทั้งวัน เข้านอนให้เร็วขึ้นกว่าปกติประมาณ 1-2 ชั่วโมง หลังจากนั้นไม่กี่วันจะรู้สึกได้ถึงความเนียนใสและสุขภาพผิวหน้าที่ดีขึ้นกว่าเดิม

วธ.ห่วงเด็กเล่น “SimSimi” ทำคำหยาบระบาด


มาแรงจริงๆ สำหรับแอพพลิเคชั่น SimSimi ที่ถามตรง ตอบกวน แต่แอบแรง จนหลายคนติดใจเพราะไม่มีแอพไหนแล้วในโลกที่กล้าเกรียนใส่เราขนาดนี้

ล่าสุดก็เป็นประเด็นขึ้นมา เมื่อกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.สำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ออกมาให้สัมภาษณ์เป็นห่วงเยาวชนในเรื่องดังกล่าวว่า เป็นห่วงกระแสแอพพลิเคชั่น SimSimi ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงบนโทรศัพท์มือถือในเวลานี้ เนื่องจากมีการใช้ภาษาหยาบคาย ไม่เหมาะสม จำนวนมาก ทั้งนี้ แอพพลิเคชั่น SimSimi ผลิตในประเทศเกาหลีใต้ สร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ทางภาษา มีการคัดกรองคำไม่เหมาะสม แต่มาถึงประเทศไทยกลับไม่มีการคัดกรอง จนกลายเป็นเรื่องสนุกและใช้กันเลยเถิด กลายเป็นการใช้คำไม่สุภาพ คำหยาบ

ทั้งหมดนี้เป็นเสียงสะท้อนให้เห็นว่าเรื่องเทคโนโลยีอยู่ที่คนใช้ต้องมีภูมิคุ้มกัน รู้อะไรควรไม่ควร ใช้ให้ถูกกาลเทศะ เพราะหากใช้ในทางไม่เหมาะสม ก็เป็นโทษกับตนเอง แต่หากใช้ให้เป็นประโยชน์ สังคมก็จะได้ประโยชน์ ผู้ใช้ก็จะได้ประโยชน์ด้วย

ปล. แอพพลิเคชั่น simsimi คือ app iphone และ Android ที่สามารถพูดคุยโต้ตอบเราได้ (ความรู้สึกเหมือนเราแชทกับเพื่อนนั่นเอง) แต่คำตอบของเจ้า simsimi จะออกกวนและเกรียนมากๆ

ประวัติวันวาเลนไทน์


กุมภาพันธ์เป็นเดือนที่อบอวลไปด้วยความสุขการแสดงถึงความรัก ความห่วงใยถึงคนที่ เราปรารถนาดีและอยากให้เขามีความสุข และเป็นที่รับรู้กันทั่วโลกว่าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันแห่งความรักหรือ Valentine's Day และวันนี้ยังมีคิวปิด หรือกามเทพ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของ วันวาเลนไทน์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คิวปิดเป็นบุตรของวีนัสและมาร์ส แต่ ชาวกรีกเรียกคิวปิดว่า อีรอส ภาพของ คิวปิดที่มนุษย์โลกปัจจุบันได้รู้จักก็คือภาพเด็กน้อยที่ถือคันธนูและลูกศร มีหน้าที่ยิงศรรักให้ปักใจคน ปัจจุบัน คิวปิดและธนูของเขากลายมาเป็น เครื่องหมายแห่งความรักที่เป็นที่รู้จัก มากที่สุด และความรักของเขามีกล่าวถึงบ่อยในภาพของ การยิงศรรัก ระหว่าง หัวใจสองดวงให้รักกัน เรียกกันว่า ศรรักคิวปิด เราจึงมาเล่าสู่กันฟังเกี่ยว กับประวัติความเป็นมาและความสำคัญ ของวันนี้กันค่ะ

เทศกาลวาเลนไทน์ เริ่มมีขึ้น ตั้งแต่ยุคที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ ในยุคนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี ถูกจัดให้เป็นวันหยุดเพื่อเป็นเกียรติแต่เทพเจ้าจูโนผู้เป็น จักรพรรดินีแห่งเทพเจ้าโรมัน นอกจาก นี้แล้วพระองค์ยังทรงเป็นเทพเจ้าแห่ง อิสตรีเพศและการแต่งงานและในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นวันเริ่มต้นเทศกาล เฉลิมฉลองแห่งลูเพอร์คาร์เลีย การ ดำเนินชีวิตของหนุ่มสาวจะ ถูกตัดขาดออกจากกันอย่างสิ้นเชิง ในรัชสมัยของ จักรพรรดิคลอดิอัส ที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่ง กรุงโรม พระองค์ ทรงเป็นกษัตริย์ที่มี ใจคอดุร้ายและทรงนิยม การ ทำสงครามนองเลือด ได้ทรงตระหนักว่าเหตุที่ ชายหนุ่มส่วนมากไม่ประสงค์จะเข้าร่วม ในกองทัพเนื่องจากไม่อยากจากคู่รัก และครอบครัวไป จึงทรงมีพระราชโอง การสั่งห้ามมิให้มีการจัดพิธีหมั้นและ แต่งงานกันในโรมโดยเด็ดขาด ทำให้ ประชาชนทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง และขณะนั้น มีนักบุญรูปหนึ่งนามว่า เซนต์วาเลนไทน์ หรือวาเลนตินัส ซึ่งอาศัยอยู่ในโรมได้ ร่วมมือกับเซนต์มาริอัสจัดพิธีแต่งงานให้กับ ชาวคริสต์หลายคู่ และด้วยความปรารถนา ดีนี้เองจึงทำให้วาเลนไทน์ถูกจับและระ หว่างนี้ก็ยังคงส่งคำอวยพรวาเลนไทน์ ของเขาเองขณะที่เขาเป็นนักโทษ เป็น ความเชื่อว่าวาเลนไทน์ได้ตกหลุมรักหญิง สาวที่เป็นลูกสาวของผู้คุมที่ชื่อจูเลีย ซึ่งได้มาเยี่ยมเขาระหว่างที่ถูกคุมขัง ในคืนก่อนที่วาเลนไทน์จะสิ้นชีวิตโดยการถูกตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับ สุดท้ายถึงจูเลีย โดยลงท้ายว่า "From Your Valentine"

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หลังจากนั้นศพของเขาได้ถูก เก็บไว้ที่โบสถ์ พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม จูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอลต์สีชมพู ไว้ใกล้หลุม ศพของวาเลนตินัส แด่ผู้เป็น ที่รักของเธอ โดยในทุกวันนี้ ต้นอามันต์สีชมพูได้เป็นตัวแทน แห่งรักนิรันดรและมิตรภาพ อันสวยงาม และคำนี้ก็เป็นคำที่ใช้มา จนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่าเบื้อง หลังความเป็นจริงของวาเลนไทน์จะ เป็นตำนานที่มืดมัว แต่เรื่องราวยังคง แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกสงสาร ความ กล้าหาญและที่สำคัญที่สุดเป็นเครื่องหมาย ของความโรแมนติค จึงไม่น่าประหลาดใจ เลยว่าในช่วงยุคกลางวาเลนไทน์เป็นนักบุญ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในอังกฤษและฝรั่งเศส ต่อมาพระในนิกายโรมันคาทอลิกจึงเลือกให้ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันเฉลิมฉลอง เทศกาลแห่งความรักและดูเหมือนว่ายัง คงเป็นธรรมเนียมที่ชายหนุ่มจะเลือก หญิงสาวที่ตนเองพึงใจในวันวาเลนไทน์ สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้

วาเลนไทน์ ในแต่ละประเทศจะมีประเพณีหรือการ ปฏิบัติที่แตกต่างกันบ้าง แต่โดยรวมแล้ว จะมีการเฉลิมฉลองและเป็นการแสดงถึง ความรักที่มีระหว่างกัน ต่อมาเมื่อความ เจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีทางด้าน การพิมพ์เข้ามาเกี่ยวข้องมีการพิมพ์บัตร อวยพรโดยเข้ามาแทนที่จดหมายที่ เขียนด้วยลายมือ และปัจจุบันก็มีการส่ง บัตรอวยพรทางออนไลน์เพื่อแสดงถึงความ ก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศที่ช่วย ให้คนที่ต้องการแสดงความรักความห่วงใย ถึงคนที่รักได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ประวัติ วันวาเลนไทน์นี้ เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆกันมา จนถึงปัจจุบัน เท่าที่ค้นหามาได้นี้เป็นเพียง หนึ่งในหลายๆเรื่องเท่านั้น แต่ไม่ว่าประวัติ ที่แท้จริง จะเป็นอย่างไรก็ตาม ใน ปัจจุบัน นี้เราได้ถือว่าวันวาเลนไทน์เป็น วันสำคัญวันหนึ่งในประวัติศาสตร์เลยที เดียว คุณสามารถส่งดอกไม้ ขนมและ การ์ด เพื่อบอกความนัยให้แก่คนพิเศษ ของคุณ วันนี้จะเป็นวันที่เราส่งความรู้สึก ดีๆให้แก่กัน...

การอดนอนทำให้สมองเราคาดหวังอาหารแรงขึ้น


เรื่องที่คนอดนอนมักรู้สึกหิวมากกว่าคนอื่นอันนี้เป็นสิ่งที่เรารู้กันมานานพอควรแล้ว งานวิจัยชิ้นก่อนหน้านี้ของ Christian Benedict และ Helgi Schiöth แห่ง Uppsala University ก็แสดงให้เห็นว่ากลุ่มตัวอย่างที่อดนอนมาทั้งคืนรายงานว่าตัวเองรู้สึกหิวมากกว่าปกติ

แต่งานวิจัยไม่จบแค่นั้น ล่าสุด Christian Benedict และ Helgi Schiöth ได้ศึกษาต่อจากงานวิจัยเดิมของพวกเขาเพื่อที่จะดูว่าความหิวที่เพิ่มขึ้นจากการอดนอนเป็นผลมาจากการทำงานของสมองส่วนไหนบ้าง

การทดลองใช้กลุ่มตัวอย่างชายสุขภาพดี 12 คน ตอนแรกให้กลุ่มตัวอย่างอดนอนทั้งคืนก่อน พอถึงเช้าก็ใช้เทคนิค fMRI (functional magnetic resonance imaging) ถ่ายภาพการทำงานของสมองชณะที่กลุ่มตัวอย่างดูรูปอาหาร ส่วนในอีกคืนก็ให้กลุ่มตัวอย่างได้นอนเต็มที่ทั้งคืนตามปกติ แล้วค่อยถ่ายภาพ fMRI ตอนดูรูป

ผลการทดลองปรากฏว่า เมื่อเจอรูปอาหาร สมองส่วนที่เรียกว่า "Anterior cingulate cortex" ของกลุ่มตัวอย่างที่อดนอนมีการกระตุ้นมากกว่าปกติ (วันที่ไม่ได้อดนอน) สมองส่วนนี้เกี่ยวข้องกับการคาดหวังรางวัล, การตัดสินใจ, และอารมณ์

ที่น่าแปลกคือ เมื่อวัดระดับกลูโคสในเลือด ก็พบว่าการอดนอนไม่ได้ทำให้ระดับกลูโคสแตกต่างจาการคืนที่ได้นอนเต็มที่อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งๆ ที่กลุ่มตัวอย่างรายงานว่าการอดนอนทำให้ตนเองรู้สึกหิวกว่าคืนที่ได้นอนเต็มอิ่ม

สรุปคือ การอดนอนทำให้เรามีความรู้สึกว่าคาดหวัง "รางวัล" จากการกินอาหารแรงขึ้น แม้ว่าร่างกายเราจะไม่ได้ขาดพลังงาน ซึ่งตรงนี้ก็คงพอจะอธิบายได้ว่าทำไมคนที่อดนอนถึงได้รู้สึกว่าตนเองหิวกว่าปกติ

ฮาแล้ว! หลุยส์ วิตตอง ผลิตถุงยางอนามัยสุดหรู


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Irakli Kiziria

ลุยส์ วิตตอง งานเข้า! ดีไซเนอร์จอร์เจียผลิตถุงยางอนามัยประทับลายหลุยส์ วิตตอง ก่อนแพร่ภาพกระฉ่อนเน็ต คนทั่วโลกเชื่อ หลุยส์ วิตตอง เปลี่ยนแนว ตีตลาดถุงยางอนามัยสำหรับคนมีระดับ

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ไอบีไทมส์ รายงานว่า ถุงยางอนามัย "หลุยส์ วิตตอง" กลายเป็นประเด็นที่กำลังแพร่สะพัดในวงการทวิตเตอร์ ลือหึ่งว่าแบรนด์ดังเปลี่ยนแนว ก่อนสืบสาวพบว่า เป็นผลงานของดีไซเนอร์ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อล้อเลียนเท่านั้น ไม่ใช่ของหลุยส์ วิตตองแต่อย่างใด

โดยถุงยางอนามัยดังกล่าว เป็นถุงยางอนามัยสีน้ำตาลตามแบบฉบับของหลุยส์ วิตตอง และพิมพ์ลาย LV ลงบนพื้นผิวถุงยางด้วย ไม่เพียงแค่นั้น มันยังถูกห่อด้วยซองลายหลุยส์ วิตตอง อีก ทำให้เข้าใจว่าเป็นของหลุยส์ วิตตอง จริง ๆ ไม่มีผิดเพี้ยน และแน่นอนว่า หลังจากมีการเผยแพร่ภาพดังกล่าวออกมาแล้ว ก็มีการส่งต่อกันไปตามทวิตเตอร์อย่างกว้างขวาง สร้างความเข้าใจผิดกับผู้ที่ไม่รู้ที่มาที่ไปกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซ้ำยังมีการระบุอีกว่าถุงยางแบรนด์ดังชิ้นนี้ ราคาสูงถึงชิ้นละ 2,040 บาทเลยทีเดียว

จากประเด็นดังกล่าว ทำให้มีการสืบสาวหาต้นตอและข้อเท็จจริง และพบว่า ถุงยางอนามัยชิ้นนี้ไม่ใช่ของแบรนด์หลุยส์ วิตตอง แต่อย่างใด แต่เป็นไอเดียของดีไซเนอร์จอร์เจียนามว่า คิซิเรีย ที่ผลิตถุงยางชิ้นนี้ขึ้นเชิงล้อเลียน เพื่อใช้ในการรณรงค์ในวันเอดส์โลก และหารายได้เพื่อบริจาคให้กับมูลนิธิวิจัยโรคเอดส์ ขณะที่โฆษกหลุยส์ วิตตอง นั้น ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต่อโครงการนี้

วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555

ปริมาณแคลอรี่กับสิว



ปริมาณแคลอรี่กับสิว

นักวิทยาศาสตร์ได้มีการวิจัยเพื่อหาเหตุผลและเปิดเผยข้อมูลของสิวกับความเกี่ยว เนื่องทางอาหารการกิน ได้มีการศึกษาวิจัยมากมายที่อธิบายถึงอาหารการกินส่วนตัวของแต่ละคนที่อาจ มองข้ามและไม่รู้มาก่อนว่าจะมีผลต่อการเกิดสิว การบริโภคอาหารที่มีแคลอรี่มากเกินไป (ปริมาณแคลอรี่ที่เหมาะสมต่อร่างกาย ผู้ชาย 2,550 และผู้หญิง 1,940 ต่อวัน) การที่ร่างกายรับแคลอรี่ต่อวันมากเกินไป จะทำให้ระดับการเกิดสิวเพิ่มขึ้นด้วย เป็นข้อมูลที่ได้รับการยืนยันจากการศึกษาจากนักวิทยาศาสตร์

กระบวนการจะเกิดขึ้นดังนี้ : การรับปริมาณแคลอรี่ที่เพิ่มมากขึ้นเข้าไปในร่างกาย เกิดขึ้นตามธรรมชาติโดยกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อ กระบวนการเผาผลาญของร่างกาย เมื่อร่างกายอยู่ในขั้นตอนการทำงานสร้างเนื้อเยื่อ ระดับฮอร์โมนในร่างกายจะเพิ่มขึ้น นั่นคือฮอร์โมน เทสโตสเตอโรน (ที่มีผลต่อการเกิดสิว) ในร่างกายจะเพิ่มมากขึ้นกว่าระดับปกติ ดังนั้นจึงควรรักษาระดับแคลอรี่ที่รับเข้าไปในร่างกายไม่ให้มากเกินความต้อง การของร่างกาย พึงระลึกว่าระดับฮอร์โมนเทสโตสเตอโรนที่เพิ่มขึ้น จะเพิ่มระดับการผลิตซีบั่มมากขึ้น อันมีผลให้เกิดสิวได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก Acnethai.com
ขอบคุณภาพประกอบจาก Photos.com

กินช้าๆ สร้างหุ่นสวยทันใจ

อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิต แนะนำให้เคี้ยวอาหารคำละ 50 ครั้ง ล่าสุด มีงานวิจัยพบว่า กินอาหาร 1 คำ เคี้ยว 40 ครั้ง ช่วยลดน้ำหนักได้! โดย Harbin Medical University ประเทศจีน ศึกษาวิจัยพบว่า การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดช่วยลดระดับฮอร์โมนเกรลิน (ghrelin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญ ที่กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกหิว


นักวิจัยแบ่งอาสาสมัครออกเป็น 2 กลุ่ม จากนั้นให้กลุ่มแรกเคี้ยวอาหาร 15 ครั้งก่อนกลืน ส่วนกลุ่มที่สองเคี้ยวอาหาร 40 ครั้งก่อนกลืน หลังตรวจเลือดพบว่า อาสาสมัครกลุ่มหลังมีระดับฮอร์โมนเกรลินน้อยกว่า ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วกว่า จึงกินอาหารน้อยลง ทั้งยังพบอีกว่า อาสาสมัครที่มีรูปร่างอ้วน ส่วนใหญ่มีพฤติกรรมกลืนอาหารเร็ว เนื่องจากใช้เวลากินอาหารน้อยกว่าคนที่มีน้ำหนักปกติ

ฉะนั้น หากคิดจะลดน้ำหนัก ไม่เพียงต้องควบคุมปริมาณอาหาร แต่ควรเคี้ยวอาหารให้ละเอียดตามคำแนะนำ พร้อมกับกินอาหารให้ช้าลง ตามขั้นตอนต่อไปนี้

ตักอาหารใส่จานในปริมาณที่กินแล้วอิ่มพอดี

• พิจารณาอาหารในจาน กำหนดสติว่ากำลังจะกินอาหาร แล้วจึงตักใส่ปาก

• เคี้ยวอาหารช้าๆ โดยพยายามเคี้ยวให้ได้อย่างน้อยคำละ 40 ครั้งก่อนกลืน

• ตัก เคี้ยว และกลืนอาหาร อย่างมีสติทุกคำจนหมดจาน

• เมื่อกินอาหารหมดแล้วไม่ควรตักเพิ่ม

• หากรู้สึกอิ่มก่อนกินอาหารหมดจาน ควรหยุดกิน แล้วอย่าลืมลดปริมาณการตักอาหารในมื้อต่อไป เคี้ยวให้ละเอียดลดหุ่นสวยจะยิ่งได้ผลดี เมื่อกินอาหารชีวจิต โดยเฉพาะสูตร 2 ค่ะ

เคล็ดลับการทานง่าย ๆ ในการ ลดน้ำหนัก

สำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ จะต้องเป็นคนที่ชอบรับประทานอาหารอย่างแน่นอน (ไม่งั้นจะกลัวอ้วนทำไม ใช่ไหมคะ) และนิสัยที่ชอบรับประทานนี่เอง เป็นนิสัยที่ไม่ดีที่จะทำให้ต้องมานั่งกลุ้มอกกลุ้มใจกันเมื่อรับประทานเสร็จแล้วนั่นเอง

เพราะฉะนั้นการรับประทานอาหารที่สมดุล และสมเหตุผล ทำให้ลดน้ำหนักง่ายขึ้นในระยะยาว และเป็นผลดีต่อสุขภาพ ซึ่งมีเคล็ดลับง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
1. รับประทานปริมาณให้น้อยลง
ให้ทดลองใช้จานใบเล็ก ๆ ในการรับประทานอาหารแต่ละมื้อดูนะคะ เพราะจะทำให้อาหารดูมากขึ้น นอกจากนี้แล้วให้จำไว้ว่าการรับประทานในปริมาณน้อย ๆ วันละ 4-5 ครั้ง ดีกว่าทานในปริมาณมาก ๆ วันละ 3 ครั้ง

2. จัดอาหารของคุณตามปิรามิด
ให้ลำดับปริมาณอาหารจากมากไปหาน้อย คือ

1. มากที่สุด คาร์โบไฮเดรต เป็นอาหารที่สำคัญในการรับพลังงานในแต่ละวัน

2. มากผัก ผลไม้ ต้องรับประทานให้เพียงพอ และไม่หวานจัด และอาหารประเภทนี้จะมี วิตามิน เกลือแร่ และเส้นใยที่ใช้บำรุงร่างกาย

3. น้อย เนื้อ นม ไข่ เลือกรับประทานแต่เนื้อแดง และปลา แต่ไม่ควรมากเกิน 150 กรัม 3 ครั้ง/สัปดาห์ และ ปลา 200 กรัม 2 ครั้ง/สัปดาห์

4. น้อยที่สุด และ ไขมัน ต้องรับประทานในปริมาณน้อยที่สุด เพราะไขมันมีแคลอรี่เป็น 2 เท่าของคาร์โบไฮเครต และโปรตีน

3. หลีกเลี่ยงน้ำตาล โดยเฉพาะขนมต่าง ๆ
เพราะจะมีไขมัน และแคลอรี่ที่สูงมาก จึงควรทดแทนขนมต่าง ๆ ด้วยผลไม้สดที่ไม่หวานจัด และควรเก็บผลไม้ไว้ในที่ ๆ มองเห็น และหยิบสะดวก

4. ถ้าน้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็นครั้งคราว พยายามชดเชยด้วยการออกกำลังกาย
เพราะน้ำหนักที่มาเป็นครั้งคราว อาจก่อให้เกิดความเคยชินจนอาจมาตลอดเลยก็ได้ จึงควรพยายามชดเชยด้วยการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น
5. จำกัดการดื่มแอลกอฮอลล์
เพราะมีแคลอรี่สูงเกือบเท่าไขมันเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นเครื่องดื่มที่เหมาะกับการลดน้ำหนักก็คือ น้ำเปล่า นั้นเองค่ะ

6. หลีกเลี่ยงอาหารที่ทานแล้วหยุดยาก
เช่น ขนมกรอบ ๆ ถั่ว เนยแข็ง เป็นต้น เพราะยิ่งทาน จะยิ่งหยุดไม่ได้

7. หลีกเลี่ยงภาวะที่ทำให้เสียดายอาหารที่เหลือ
อย่างเช่นการซื้อเหมาโหล เพราะราคาประหยัดกว่า แต่คุณอาจต้องมาเสียดายกับอาหารส่วนที่เหลืออยู่ และอาจต้องรับประทานให้หมด ผลที่ตามมาก็คือ 'อ้วน' นั่นเอง

เพียงแค่การสร้างนิสัยการรับประทานง่าย ๆ เท่านี้ ภาวะที่ต้องทนทุกข์ทรมานทางใจ และทางกาย จากน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นก็จะไม่มีอีกต่อไปค่ะ

เรียบเรียงโดย Never-Age.com

ฝึกทักษะให้สมอง


หากคุณนึกไม่ออกว่าลืมแว่นตาไว้ที่ไหน หรือนึกชื่อเพื่อนร่วมงานคนใหม่ไม่ได้ แพทย์หญิงแซลดี เอส. ทัน ผู้อำนวยการศูนย์โรคความจำโรงพยาบาลเบทอิสราเอล ดีโคเนส อธิบายว่า การหลงลืมในลักษณะนี้เป็นเครื่องบ่งบอกว่าชีวิตของเรานั้นยุ่งเหยิงเกินไปจนขาดความใส่ใจ ความจำจึงไม่แม่นยำ อีกทั้งยังมีปัญหาในการย้อนนึก

แฮร์รี โลเรน ผู้เขียนหนังสือ จำแม่นในทุกอายุ: เคล็ดลับง่ายๆที่ช่วยให้สมองไม่แก่ แนะนำว่าควรฝึกสมองให้มีความพร้อมอยู่เสมอ เราพยายามออกกำลังให้ร่างกายแข็งแรง แต่ถ้าสมองทำงานบกพร่อง ร่างกายที่แข็งแรงก็คงไร้ประโยชน์ บางคนใช้วิธีจดบันทึกอย่างเป็นระเบียบ หรือบันทึกในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น แบล็กเบอรี โทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือคอมพิวเตอร์ขนาดพกพาอย่างพีดีเอ แต่ในยามที่ไม่มีอุปกรณ์เหล่านี้หรือต้องการฝึกสมอง คุณอาจต้องพึ่งเคล็ดลับช่วยจำจากผู้เชี่ยวชาญดังต่อไปนี้

ฝึกสมอง #1 เขาชื่ออะไรกันแน่

ให้ความสนใจ เมื่อได้รับการแนะนำให้รู้จักเพื่อนใหม่ จงตั้งใจฟังชื่อให้ดี แล้วสร้างภาพตัวสะกดชื่อของเขา หรือถามไปว่า ชื่อ วิรัตน์สะกดด้วย ช. ช้าง หรือ ตน์ ครับ จากนั้นพยายามผูกชื่อเข้ากับเรื่องราวเพื่อให้จำแม่นยิ่งขึ้น (ชื่อวิรัตน์เหมือนกับครูประจำชั้นสมัยมัธยมปลาย) เอ่ยชื่อเพื่อนบ่อยๆขณะสนทนาและก่อนล่ำลา

สร้างภาพจากชื่อ สำหรับชื่อที่จำยาก (เช่น อภิชยมณี) จงพยายามทำให้มีความหมาย เวลาพูดถึงชื่ออภิชยมณี ให้นึกถึงพระอภัยมณี และนึกภาพไปด้วย จากนั้นมองหาลักษณะเด่นของคนคนนั้น (คิ้วหนา จมูกโต) แล้วสร้างความสัมพันธ์ระหว่างชื่อกับใบหน้า หากอภิชยมณีมีจมูกโต อาจลองนึกภาพพระอภัยมณีนั่งเป่าปี่บนจมูกของเขา การสร้างเรื่องตลกจะช่วยให้จำแม่นขึ้น

สร้างภาพที่น่าจดจำ ลองนึกภาพนายชัยวัฒน์ อินทนนท์ตระกูลยืนอยู่บนยอดดอยอินทนนท์ ดร. กินี เกรแฮม สกอต ผู้เขียนหนังสือ เพิ่มพลังความจำภายใน 30 วัน แนะว่า หากต้องการจำชื่อนางปทุมรัตน์ บัวสอนดี ประธานบริษัทสถาปนิก ให้ลองนึกภาพเธอกำลังถอนสายบัวทำความเคารพอยู่หน้าอาคารหลังใหญ่

แอบโกงเล็กน้อย เคล็ดลับข้อนี้จะดูเป็นรูปธรรมมากขึ้น เมื่อคุณได้รับนามบัตรจากเพื่อนใหม่ ให้แอบจดข้อมูลบางอย่างไว้ด้านหลัง (สวมแว่นกรอบทอง บ้านอยู่ที่รามอินทรา) เพื่อช่วยเตือนความจำ

ฝึกสมอง #2 ฉันลืมแว่นตาไว้มุมไหนของโลก

พูดเตือนตัวเอง ดร. สกอตแนะนำให้ใส่ใจกับเหตุการณ์ขณะวางแว่นตาลงบนโต๊ะและพูดเตือนตัวเอง อย่างเช่น ฉันใส่กุญแจในกระเป๋าเสื้อคลุม การพูดย้ำทำให้เกิดความจำที่ชัดเจน

ฝึกให้เป็นนิสัย หาตะกร้าใบเล็กวาง บนมุมโต๊ะ ฝึกตัวเองให้วางกุญแจ แว่นตา โทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือสิ่งของที่ใช้บ่อย (หรือลืมบ่อย) ในตะกร้าใบนี้ทุกครั้ง

ฝึกสมอง #3 วันนี้ฉันต้องทำอะไรบ้าง

เล่นกับความคุ้นเคย แครอล วอร์เดอร์แมน ผู้เขียนหนังสือ สมองมหัศจรรย์: 101 วิธีฝึกสมองให้เฉียบแหลมยิ่งขึ้น แนะว่า หากต้องการเตือนตนเองให้ทำกิจวัตรเดิมๆที่คุ้นเคย (เช่น เขียนบัตรอวยพร นำเสื้อไปส่งร้านซักรีด) ควรใช้วิธีเตือนที่แปลกไปจากเหตุการณ์ปกติ หากนำใบแจ้งหนี้มาวางไว้บนโต๊ะเช่นทุกครั้ง คุณก็มักจะลืมไว้ตรงนั้นและพลาดชำระหนี้ในที่สุด แต่ถ้านำกุญแจรถยนต์หรือผลไม้มาวางทับไว้ เมื่อสังเกตเห็นข้าวของอยู่ผิดตำแหน่ง คุณจะนึกได้เองว่าต้องนำใบแจ้งหนี้ไปชำระเงิน

ร้องเป็นเพลง หากต้องจดจำรายการหลายอย่าง (เช่น รายการซื้อของ หมายเลขโทรศัพท์ สิ่งที่ต้องทำในวันนั้น) วอร์เดอร์แมนแนะให้นำมาร้องเป็นเพลงที่คุ้นเคย เช่น เพลงสุขสันต์วันเกิด หรือเพลงของเด็กอนุบาล

หาเครื่องช่วยจำ ใช้วิธีสร้างประโยคที่จำง่าย หรือใช้ตัวย่อ เช่น สีทั้งเจ็ดของรุ้งกินน้ำคือ แม่คนนี้ขาวเหลืองสวยดี (ม. ค. น. ข. ล. ส. ด. เท่ากับม่วง, คราม, น้ำเงิน, เขียว, เหลือง, แสด, แดง)

ใช้ร่างกายให้เป็นประโยชน์ หากต้องการจดจำรายการซื้อของ หรือสิ่งที่ต้องทำโดยไม่ใช้กระดาษกับปากกา ดร. สกอตแนะให้ใช้อวัยวะในร่างกายเป็นเครื่องช่วยจำ เริ่มจากเท้าขึ้นมาจนถึงศีรษะ หากรายการซื้อของประกอบด้วยกาว, อาหารแมว, บรอกโคลี, เนื้อไก่, องุ่น และแปรงสีฟัน ให้ลองสร้างภาพขึ้นในใจว่าเท้าของคุณเหยียบติดกาว มีแมวเกาะบนหัวเข่าร้องหาอาหาร บร็อกโคลีงอกออกมาจากกระเป๋ากางเกง เนื้อไก่ติดอยู่กับสะดือ พวงองุ่นห้อยอยู่บนหน้าอก และปากคาบแปรงสีฟัน

วิธีแบบโรมัน ดร.สกอตแนะให้ใช้ วิธีห้องโรมันซึ่งเป็นการสร้างความเกี่ยวข้องระหว่างรายการซื้อของหรือสิ่งที่ต้องทำกับสิ่งของในห้องที่คุ้นเคย ที่ทำงาน หรือเส้นทางไปทำงาน การสร้างภาพความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดจะช่วยให้จดจำแม่นขึ้น เช่น ลูกแอปเปิลห้อยมาจากโคมไฟระเบียง ธัญพืชอบกรอบกระจายอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น ฟองแชมพูลอยอยู่เต็มห้องครัว และมีเนยแข็งอยู่บนเตียง

ฝึกสมอง #4 รหัสผ่านของเว็บไซต์นี้คืออะไร

สร้างภาพจากตัวเลข จินตนาการภาพตามรูปร่างของตัวเลข 0 คือลูกบอล หรือแหวน, 1 ปากกา, 2 หงส์, 3 กุญแจรัดข้อมือ, 4 เรือใบ, 5 หญิงตั้งครรภ์, 6 กล้องยาสูบ, 7 บูมเมอร์แรง, 8 ตุ๊กตาหิมะ และ 9 ไม้เทนนิส หากรหัสบัตรเงินสดของคุณคือตัวเลข 4298 ให้ลองนึกภาพว่าคุณอยู่บนเรือใบ (4) มีหงส์ (2) ตรงเข้ามาทำร้าย คุณจึงตีมันด้วยไม้เทนนิส (9) แล้วเสกให้เป็นตุ๊กตาหิมะ (8) รับรองได้ว่าภาพแบบนี้ลืมยาก

คำพ้องเสียง หากคำที่พ้องเสียง กับตัวเลขตั้งแต่ 1 ถึง 9 (เป็ด หมายถึง 7, จิ้งจก หมายถึง 6) จากนั้นให้สร้างเรื่อง-ราวจากคำพ้องเสียง เช่น พี่ (4) ของฉันกินเป็ด (7) เพื่อฉลอง (2) ที่ได้ลูกแฝด (8)

ฝึกสมอง #5 คำพูดติดอยู่ที่ปลายลิ้น

ฝึกท่องพยัญชนะ ก ข ค... หากคุณนึกชื่อภาพยนตร์ไม่ออก ให้ท่องพยัญชนะ (ออกเสียงหรือท่องในใจ) ตามลำดับ เมื่อถึงอักษร ส ชื่อของภาพยนตร์ สุริโยทัย จะถูกกระตุ้นขึ้นมาในความคิดของคุณโดยอัตโนมัติ เคล็ดลับข้อนี้ใช้ได้ดีในห้องสอบเช่นกัน

ฝึกสมอง #6 ฉันจำเรื่องราวต่างๆไม่ได้เลย

จงอ่าน พูด เขียน (หรือพิมพ์) และฟัง หากคุณต้องการจดจำเรื่องราวหรือปาฐกถาต่างๆ จงอ่านหรือพิมพ์เนื้อเรื่องในคอมพิวเตอร์ ขั้นต่อไป ให้อ่านออกเสียงดังๆและบันทึกไว้ แล้วเปิดฟังซ้ำวันละหลายรอบ ขณะคุณท่องจำ อย่าลืมปิดโทรทัศน์ ถอดหูฟังเครื่องเล่นเอ็มพี3 และปิดคอมพิวเตอร์เพื่อสร้างสมาธิ

ใช้สี ใช้ปากกาสีขีดเส้นใต้ หรือวงข้อความสำคัญต่างๆที่อยากเน้นเป็นพิเศษ (เนื้อหาที่ขีดเส้นใต้สีแดงมักทำให้คุณจำแม่นกว่าตัวอักษรทั่วไป)

สร้างแผนที่ สร้างภาพสี่แยกในใจ โดย นำข้อความ คำพูด หรือตัวเลขที่จะช่วยเตือนความจำใส่ไว้ตามมุมถนน

Credit : http://www.readersdigestthailand.co.th/article/2383/

ทำนายดวงคนรักของคุณจากวันเกิด

คนรักของคุณเกิดวันอะไรค่ะ...วันนี้เรามีคำทำนายดวงความรักจากตัวเลขวันเกิด(ของคนรัก)มาฝากกันค่ัะ จะแม่นขนาดไหนไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ


คนรักที่เกิดวันที่ 1

ภายนอกดูผิด คิดว่าเจ้าชู้ แต่เป็นคนที่มีความรักความจริงจังไม่ลวงหลอกใคร ชอบเป็นผู้นำมากกว่าผู้ตาม อยากให้คนที่รักเห็นคุณค่า และให้ความสำคัญแก่ตน ถ้าไม่สนใจขอลาแน่ ๆ เพราะเป็นคนที่หยิ่งทนงไม่น้อย

คนรักที่เกิดวันที่ 2

มีอารมณ์ที่หลากหลาย อ่อนไหว รักง่าย โกรธง่าย อาจจะอ่านยากสักหน่อย หวาดระแวง ไม่ค่อยไว้ใจใคร หมกมุ่น โหยหาความรัก แต่มักผิดหวังอยู่บ่อย ๆ ขนาดตัวเองเป็นคนที่มีความรักและมักเอาใจใส่ต่อผู้อื่นเสมอ

คนรักที่เกิดวันที่ 3

เป็นคนที่รักใครรักจริง แต่ชอบเป็นผู้นำ ชอบบงการโดยเฉพาะแฟน ใจร้อนเป็นไฟ คบแฟนทีละหลาย ๆ คน แต่ก็มีอยู่ในใจหนึ่งเดียว มีความคิดสร้างสรรค์ ไอเดียแปลกใหม่ เพื่อนฝูงห้อมล้อมชอบสังสรรค์ มีแฟนเยอะ ชอบความตื่นเต้นแปลกใหม่ หัวใจกระชุ่มกระชวย

คนรักที่เกิดวันที่ 4

เป็นผู้ที่มีความคิดเห็นแปลกแยกจากสังคม อ่อนไหวมาก ๆ ไม่ชอบถูกใครมาตีกรอบ ตกหลุมรักคนง่าย หลงคนง่าย อยู่คนเดียวไม่ได้นาน ยอดเจ้าชู้ ชอบมองคนที่มีความเพียบพร้อม หน้าตาดี มีความคิดแจ๋วเลย ยิ่งเป็นคนรู้สึกเยอะลึกซึ้งจะชอบเป็นพิเศษ คู่ส่วนใหญ่จะมีหน้าตาดี และไม่ค่อยจะอดทนกับคนที่ชอบหึงหวง ไม่สนับสนุนความคิดตน อยากได้คนที่ดูแลเอาใจใส่

คนรักที่เกิดวันที่ 5

มีความเป็นมิตรสูง มีเพื่อนฝูงมากมาย มักอยู่กับกลุ่มเพื่อน บางครั้งก็แอบมองแอบชอบเพื่อนในกลุ่ม จนได้เป็นแฟนกัน มีข้อดีข้อเด่นคือเป็นนักวิเคราะห์นักคิดและนักพูดที่มีพรสวรรค์ อยากมีความรักที่ไม่ต้องพูดมาก คนที่ดูแลคอยเอาใจใส่จะพิชิตใจคนเกิดวันที่ 5 ได้

คนรักที่เกิดวันที่ 6

เขาเป็นคนที่มีอารมณ์ศิลปะ ค่อนข้างอ่อนไหว มีความเป็นตัวเองสูง มีรสนิยมดี รักคนง่าย แต่ถ้าจะคบกับใครจริงๆจังๆนี่ยากหน่อย ช่างเลือกมาก ๆ ต้องการคนที่คอยเอาใจใส่ และตามใจปล่อยให้ทำอะไรตามใจได้บ้าง ถ้าให้อิสระกับเขา จะคบกันได้ยืนยาวแน่นอน

คนรักที่เกิดวันที่ 7

สติปัญญาดี มีความรู้หลายหลาก มีเสน่ห์ใครเห็นก็รักก็หลง แต่แปลกนะที่ต้องอกหัก ซ้ำรักอยู่บ่อย ๆ ชอบอยู่เงียบ ๆ ไม่ค่อยเปิดตัว ชอบอยู่กับความเหงา ความเดียวดาย นั่งมองฟ้ามองผืนหญ้าตามประสาคนอารมณ์ศิลปิน ใครที่คิดจะมาเป็นคู่ ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเขา และห้ามคิดไม่ซื่อคิดนอกใจเด็ดขาด

คนรักที่เกิดวันที่ 8

มุมานะทำงานทำการ ขยันขันแข็ง จนบางทีอาจดูห่างเหินกับคนรัก เหมือนไม่ค่อยใส่ใจกัน รักใครไม่เป็น ติดเพื่อนฝูง ชอบเที่ยวกันเป็นกลุ่ม จนแฟนต้องขอเลิก เพราะขาดการเอาใจใส่ดูแลอย่างที่ควรจะเป็น ชอบคนง่าย รักใครก็จริงจัง ชอบคนที่ผ่อนคลายไม่ค่อยเครียด มีอิสระสูง ตามใจตัวเองบ้าง

คนรักที่เกิดวันที่ 9

ชอบคนที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ แต่ต้องยอมตามใจฉันนะ ฉันขอเป็นคนคิด เธอคอยเดินตามฉันก็แล้วกัน คนที่เกิดวันที่ 9 เป็นคนที่มีความเป็นผู้นำอยู่ในสายเลือด ชอบทำงานหนักจนแทบไม่ได้หยุดหย่อน เครียดง่าย แต่เป็นคนที่นิสัยดีน่ะ ไม่ได้มองคนที่ความสวย ความหล่อ ชอบคนที่มีอะไรมากกว่านั้น มีความคิด ความอ่าน ที่เฉียบคม นี่ล่ะใช่เลย

คนรักที่เกิดวันที่ 10

เป็นคนดีคนหนึ่ง คอยดูแลแทกแคร์เอาใจแฟนได้เป็นอย่างดี ไม่มีขาดตกบกพร่อง เป็นคนที่มีความเชื่อมั่น คิดอะไรทำอะไรด้วยตัวเองเสมอ มีความจริงจัง ทำอะไรต้องสำเร็จ แต่ก็มีบางครั้งนะที่แอบมองคนอื่น แต่ก็มีเพียงคนเดียวอยู่ภายในใจ แต่ก็มีบางครั้งที่ดูเหมือนคนที่เห็นแก่ตัวไม่สนใจใครทั้งนั้น

คนรักที่เกิดวันที่ 11

ใคร ๆ ก็ชอบคนที่เกิดวันนี้ เพราะเขามีความอ่อนโยน รักใคร ๆ ได้อย่างจริงใจทั้งเพื่อนและแฟน ไม่คิดร้ายกับใคร รักความสงบ แต่เมื่อมีปัญหากับคนรักกลับไม่ค่อยกล้าที่จะพูดคุยเปิดเผยความในใจ เพราะคาดหวังสูงในเรื่องแฟน อยากให้เธอทำความเข้าใจเอง ช่างคิด ขี้น้อยใจ และขึ้หึงไม่ใช่เล่น

คนรักที่เกิดวันที่ 12

มีเสน่ห์ต่อผู้พบเห็น บุคลิกดีเด่นเป็นที่รักของเพื่อนฝูง แต่เจ้าชู้ไม่เบาเลยนะ ควงคนโน้นที คนนี้ที เปลี่ยนรักเหมือนเปลี่ยนรถ เห็นหัวใจคนเป็นของเล่นหรือไงน่ะ รักใครทีละหลายคน แบ่งห้องหัวใจได้ไม่จำกัด แต่ก็มีใจมั่นคงกับคนในดวงใจเหมือนกันนะ ถ้าเขาคนนั้นคือตัวจริง

คนรักที่เกิดวันที่ 13

มองผิวเผินเขาเหมือนคนที่วางตัวสบาย ๆ มีอิสระ มีความคิดที่ไร้กรอบ แต่ความเป็นจริงนั้นเขาค่อนข้างพิถีพิถันมีวินัยในการใช้ชีวิตมากเลยทีเดียว มีความรักมากกว่า 3 ครั้งน่ะ ต้องเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ ชอบคนที่จริงจังกับชีวิตเหมือนกัน

คนรักที่เกิดวันที่ 14

ชอบบริหารเสน่ห์ ไม่ชอบอยู่นิ่ง ๆ คุยเก่ง มีคารมคมคาย แต่เครียดง่ายเหมือนกันนะ จะมีแฟนเยอะคบทีละหลายคน เพราะเป็นคนที่สบาย ๆ เข้ากับคนง่าย มีความสนุกสนานร่าเริง หว่านเสน่ห์เสมอ ๆ เมื่อมีโอกาส

คนรักที่เกิดวันที่ 15

มีความเป็นเด็กอยู่ในตัว ชอบเล่นอยู่ในกลุ่มที่มีอายุน้อยกว่า แต่ไม่ได้คิดจะมีแฟนเด็กนะ แต่ถ้าเด็กคนนั้นมีความคิด ความอ่านดูเป็นผู้ใหญ่เกินอายุก็ไม่แน่เหมือนกัน ส่วนใหญ่คนที่มีอายุน้อยกว่าก็ชอบมาปิ๊งเหมือนกัน แต่ก็จะไม่ชอบตอบง่าย ๆ หรอก สเปกของเขานะมีอยู่ ต้องมีความชอบในศิลปะมีจุดยืนอุดมการณ์ ช่างคิด

คนรักที่เกิดวันที่ 16

มีโลกส่วนตัวสูง แต่ก็อยากมีความรักน่ะ ทั้ง ๆ ที่เวลาอยู่ในช่วงชีวิตที่สดใส มีความรัก กลับรู้สึกทุกข์และดูเศร้า ๆ แต่ก็มีความอ่อนหวาน อ่อนไหว ค่อนข้างโรแมนติก คนที่มีอารมณ์ลึกซึ้ง ดังเช่นศิลปินจะอยู่คู่กับคนเกิดวันที่16ได้ยาวนาน

คนรักที่เกิดวันที่ 17

เป็นคนที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจจริงทุก ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน หรือการทำงาน ส่วนเรื่องแฟนนั้นถ้ารู้สึกชอบใครก็กล้าที่จะเข้าไปพูดคุย แต่เป็นคนติดเพื่อนเหมือนกันน่ะ บ่อยครั้งที่ต้องใช้จ่ายหมดไปกับเพื่อนฝูง ให้ความสำคัญกับเรื่องงานเรื่องการ นี่ถือเป็นข้อดีของคนที่เกิดในวันนี้เลยค่ะ

คนรักที่เกิดวันที่ 18

ฝักใฝ่ทางด้านการศึกษาหาความรู้ ถ้าเจอคนที่มีรูปร่างหน้าตาดี แต่ว่าไม่ค่อยคิดถึงเรื่องอนาคต คนที่เกิดวันที่18แบบคุณก็ไม่สนใจนะ ชอบคนที่มีความคิดแบบผู้ใหญ่ เป็นคนค่อนข้างมองชีวิตเป็นเรื่องที่จริงจัง ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ และก็อยากให้แฟนคิดแบบเดียวกันด้วย ไม่ใช้ชีวิตแบบไร้จุดหมายปลายทางไปวัน ๆ

คนรักที่เกิดวันที่ 19

เป็นคนที่มีความตั้งใจจริง แกมหยิ่งหน่อย ๆ มีความสามารถโดดเด่น และจะเลือกแฟนที่มีหน้าตารูปโฉมดี หรือไม่ก็ต้องมีความโดดเด่นเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่ส่วนตัวแล้วเป็นคนที่เอาใจใส่ใครไม่เป็น แต่อยากให้แฟนคอยดูแลตนเองแทน ทุ่มเทให้คนรักน้อยไปนิดน่ะ

คนรักที่เกิดวันที่ 20

ความอ่อนโยนและดูสบาย ๆ ไม่เรื่องมากทำให้ดูเป็นคนที่มีเสน่ห์ น่าสนใจ แต่กลับมีบุคลิกอีกมุมอีกด้านหนึ่งด้วย คือเป็นคนใจร้อน จะเรียกว่ามีสองคนอยู่ในร่างเดียวกันก็คงไม่ผิดนัก เปลี่ยนแฟนบ่อย ๆ เพราอะไรไม่รู้ไม่ถูกใจก็ไม่อดทน เอาแต่ใจเหมือนกันนะ เวลามีแฟนก็จะเกร็ง ๆ วางตัวไม่ค่อยเป็น เลยทำให้ชีวิตรักไม่ค่อยมีความสุขเท่าที่ควร

คนรักที่เกิดวันที่ 21

มีอารมณ์ร่าเริง สนุกสนาน ฉลาดเป็นกรด ชอบเฮฮากับเพื่อนฝูง ค่อนข้างจะเจ้าชู้ มีคนที่ดู ๆ กันอยู่หลายคน บางครั้งก็ทำให้เกิดอาการมึนตึ้บ ทำอะไรไม่ถูก ก็แฟนมันเยอะน่ะ มีแต่คนที่ถูกใจทั้งนั้นเลยเลือกไม่ถูก ถ้าเกิดรีบร้อนแต่งงาน รับรองว่าเกิดปัญหาแน่ ดังนั้นดูให้ดี ดูให้แน่ใจก่อน น่าจะดีกว่าน่ะ

คนรักที่เกิดวันที่ 22

มองไปข้างหน้า มีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนคิดทำอะไร ๆ อย่างมีสติ จะชอบคนที่มีอะไรในตัว โดดเด่นดูดีมีความสามารถ มองหารักแท้ มองหาคนที่จะมาร่วมแบ่งปัน ร่วมชีวิตกันอย่างยาวนาน ไม่อยากรักกันเล่น ๆ รักแบบทดลอง แต่ก็ยังไม่พร้อมเรื่องการสร้างครอบครัว แต่งงานมีลูก เป็นครอบครัวในฝันแบบคนทั่ว ๆ ไป

คนรักที่เกิดวันที่ 23

เป็นคนชอบเที่ยว ชอบไปกับเพื่อน ๆ สนุกสนานเฮฮากัน แต่ภายในใจก็คิดและเครียดกับชีวิตพอสมควร แต่เรื่องคู่ เรื่องแฟนไม่น่าเป็นห่วง เพราะเป็นคนคุยเก่ง เจ้าคารมไม่เรื่องมาก คุยกับใครก็เป็นที่ถูกอกถูกใจ ต้องเพิ่มความอดทนเข้าไปอีกหน่อย จะได้ไม่ต้องอกหัก บาดเจ็บจากความรัก

คนรักที่เกิดวันที่ 24

เป็นผู้ที่มีเพื่อนฝูงคนรองข้างต่างชื่นชม รักใคร่ เพราะความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อ แบ่งปัน แชร์ความรู้สึกกันได้ แต่ก็หลงตัวเองเล็กน้อย ชอบให้คนมาคอยเอาใจ พูดคำหวาน ๆ ฟังแล้วมันรื่นหูดี ชอบเป็นช้างเท้าหน้า บงการแฟน และโชคดีที่ได้คนรักที่ดี แต่ตนเองก็ยังไม่รู้สึกพอใจ ใฝ่ฝันหาคนที่สมบูรณ์แบบตลอดเวลา

คนรักที่เกิดวันที่ 25

เป็นคนที่เด่นด้านความรู้สึกนะ ทั้งเรื่องแฟนและชีวิตการงาน รักเพื่อนอย่างจริงใจ ลึกซึ้งในความสัมพันธ์ แต่มักจมในความเศร้า ความทุกข์ เหตุผลนะหรือ ก็เพราะเป็นคนที่จริงจังมากเกินไปไง ไม่ได้เกิดจากอาการอกหัก หรือซ้ำรักแต่ประการใด รู้ไว้เลยว่าโลกนี้มันไม่สวยงาม อย่างที่คิดหรอก อะไรที่มันแย่ก็ต้องปล่อยวาง อย่าซีเรียส เหรียญมันยังมีสองด้านเลยจริงไหม

คนรักที่เกิดวันที่ 26

มีแบบแผน มีระเบียบ ทำงานเป็นระบบ มองหาความรักที่ยาวนาน เป็นครอบครัวที่มีความสุข แต่ช่างเลือก แม้ดูเหมือนจะเป็นคนที่ชอบคนง่าย ต้องเรียนรู้กันไป ผิดหวังบ้าง ก่อนที่จะเจอความรักที่จริงแท้ มั่นคงในภายหลัง

คนรักที่เกิดวันที่ 27
มีความปราดเปรื่อง รอบรู้หลายด้าน โดดเด่นในสังคม ชอบคนเก่ง คนที่มีความสามารถจะพบรักหลายครั้ง เพราะความรู้สึกที่ไว อ่อนไหวง่าย แต่ไม่ชอบคบกันเล่น ๆ แบบกิ๊ก อยากได้คนที่พิเศษ คอยดูแลรักกัน จริงจัง มองเห็นอนาคต ไม่ใช่แค่ถูกใจกันไปวัน ๆ รักกันไปงั้น ๆ

คนรักที่เกิดวันที่ 28

มีความเป็นผู้นำสูง มีแฟนก็ชอบขีดเส้นทางให้แฟนเดินตาม ต้องเชื่อฟัง คอยทำตามทุกอย่าง ความรักราบเรียบ ไม่ร้อนแรง บางทีอาจมีกิ๊ก แต่ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น เพราะมั่นคงในความรักกับคนเพียงคนเดียว

คนรักที่เกิดวันที่ 29

เป็นคนอ่อนน้อม ถ่อมตน ชะตาความรักมักมีอารมณ์มาเกี่ยวข้องเสมอ ช่างรู้สึก เอาแต่ใจ ประมาณว่ารักมากก็หวังมาก ทุ่มเทให้ความรักอย่างหมดตัวหมดใจ จึงเกิดอาการบาดเจ็บได้บ่อย อาจแค่เจ็บ ๆ คัน ๆ จนถึงอาการสาหัส

คนรักที่เกิดวันที่ 30

มีจินตนาการสูง เสน่ห์เหลือร้าย ดูมีความมั่นใจ ฉลาดแต่บางครั้งก็สนุกสนาน ไร้สาระแบบเด็ก ๆ บ้าง เดี๋ยวดี เดี๋ยวเครียด ยากเกินเข้าใจ มองความรักเป็นเรื่องที่สวยงาม เป็นยาชูกำลัง แต่ก็ยังไม่พร้อมจะมีความรัก จริงจังกับใครไม่เป็น

คนรักที่เกิดวันที่ 31

คล้าย ๆ กับจะเป็นคนที่มีจุดหมายในชีวิต แต่จริงๆแล้ว ก็ขาดความมั่นใจมาก ๆ ไม่กล้าที่จะคิด และตัดสินใจ กล้า ๆ กลัว ๆ ยังไม่นิ่ง ไม่จริงจังกับอะไรนัก ความรักจึงดูไกลตัว ดูไม่จริงจังสักเท่าไหร่