วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555

ปริมาณแคลอรี่กับสิว



ปริมาณแคลอรี่กับสิว

นักวิทยาศาสตร์ได้มีการวิจัยเพื่อหาเหตุผลและเปิดเผยข้อมูลของสิวกับความเกี่ยว เนื่องทางอาหารการกิน ได้มีการศึกษาวิจัยมากมายที่อธิบายถึงอาหารการกินส่วนตัวของแต่ละคนที่อาจ มองข้ามและไม่รู้มาก่อนว่าจะมีผลต่อการเกิดสิว การบริโภคอาหารที่มีแคลอรี่มากเกินไป (ปริมาณแคลอรี่ที่เหมาะสมต่อร่างกาย ผู้ชาย 2,550 และผู้หญิง 1,940 ต่อวัน) การที่ร่างกายรับแคลอรี่ต่อวันมากเกินไป จะทำให้ระดับการเกิดสิวเพิ่มขึ้นด้วย เป็นข้อมูลที่ได้รับการยืนยันจากการศึกษาจากนักวิทยาศาสตร์

กระบวนการจะเกิดขึ้นดังนี้ : การรับปริมาณแคลอรี่ที่เพิ่มมากขึ้นเข้าไปในร่างกาย เกิดขึ้นตามธรรมชาติโดยกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อ กระบวนการเผาผลาญของร่างกาย เมื่อร่างกายอยู่ในขั้นตอนการทำงานสร้างเนื้อเยื่อ ระดับฮอร์โมนในร่างกายจะเพิ่มขึ้น นั่นคือฮอร์โมน เทสโตสเตอโรน (ที่มีผลต่อการเกิดสิว) ในร่างกายจะเพิ่มมากขึ้นกว่าระดับปกติ ดังนั้นจึงควรรักษาระดับแคลอรี่ที่รับเข้าไปในร่างกายไม่ให้มากเกินความต้อง การของร่างกาย พึงระลึกว่าระดับฮอร์โมนเทสโตสเตอโรนที่เพิ่มขึ้น จะเพิ่มระดับการผลิตซีบั่มมากขึ้น อันมีผลให้เกิดสิวได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก Acnethai.com
ขอบคุณภาพประกอบจาก Photos.com

กินช้าๆ สร้างหุ่นสวยทันใจ

อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิต แนะนำให้เคี้ยวอาหารคำละ 50 ครั้ง ล่าสุด มีงานวิจัยพบว่า กินอาหาร 1 คำ เคี้ยว 40 ครั้ง ช่วยลดน้ำหนักได้! โดย Harbin Medical University ประเทศจีน ศึกษาวิจัยพบว่า การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดช่วยลดระดับฮอร์โมนเกรลิน (ghrelin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญ ที่กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกหิว


นักวิจัยแบ่งอาสาสมัครออกเป็น 2 กลุ่ม จากนั้นให้กลุ่มแรกเคี้ยวอาหาร 15 ครั้งก่อนกลืน ส่วนกลุ่มที่สองเคี้ยวอาหาร 40 ครั้งก่อนกลืน หลังตรวจเลือดพบว่า อาสาสมัครกลุ่มหลังมีระดับฮอร์โมนเกรลินน้อยกว่า ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วกว่า จึงกินอาหารน้อยลง ทั้งยังพบอีกว่า อาสาสมัครที่มีรูปร่างอ้วน ส่วนใหญ่มีพฤติกรรมกลืนอาหารเร็ว เนื่องจากใช้เวลากินอาหารน้อยกว่าคนที่มีน้ำหนักปกติ

ฉะนั้น หากคิดจะลดน้ำหนัก ไม่เพียงต้องควบคุมปริมาณอาหาร แต่ควรเคี้ยวอาหารให้ละเอียดตามคำแนะนำ พร้อมกับกินอาหารให้ช้าลง ตามขั้นตอนต่อไปนี้

ตักอาหารใส่จานในปริมาณที่กินแล้วอิ่มพอดี

• พิจารณาอาหารในจาน กำหนดสติว่ากำลังจะกินอาหาร แล้วจึงตักใส่ปาก

• เคี้ยวอาหารช้าๆ โดยพยายามเคี้ยวให้ได้อย่างน้อยคำละ 40 ครั้งก่อนกลืน

• ตัก เคี้ยว และกลืนอาหาร อย่างมีสติทุกคำจนหมดจาน

• เมื่อกินอาหารหมดแล้วไม่ควรตักเพิ่ม

• หากรู้สึกอิ่มก่อนกินอาหารหมดจาน ควรหยุดกิน แล้วอย่าลืมลดปริมาณการตักอาหารในมื้อต่อไป เคี้ยวให้ละเอียดลดหุ่นสวยจะยิ่งได้ผลดี เมื่อกินอาหารชีวจิต โดยเฉพาะสูตร 2 ค่ะ

เคล็ดลับการทานง่าย ๆ ในการ ลดน้ำหนัก

สำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ จะต้องเป็นคนที่ชอบรับประทานอาหารอย่างแน่นอน (ไม่งั้นจะกลัวอ้วนทำไม ใช่ไหมคะ) และนิสัยที่ชอบรับประทานนี่เอง เป็นนิสัยที่ไม่ดีที่จะทำให้ต้องมานั่งกลุ้มอกกลุ้มใจกันเมื่อรับประทานเสร็จแล้วนั่นเอง

เพราะฉะนั้นการรับประทานอาหารที่สมดุล และสมเหตุผล ทำให้ลดน้ำหนักง่ายขึ้นในระยะยาว และเป็นผลดีต่อสุขภาพ ซึ่งมีเคล็ดลับง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
1. รับประทานปริมาณให้น้อยลง
ให้ทดลองใช้จานใบเล็ก ๆ ในการรับประทานอาหารแต่ละมื้อดูนะคะ เพราะจะทำให้อาหารดูมากขึ้น นอกจากนี้แล้วให้จำไว้ว่าการรับประทานในปริมาณน้อย ๆ วันละ 4-5 ครั้ง ดีกว่าทานในปริมาณมาก ๆ วันละ 3 ครั้ง

2. จัดอาหารของคุณตามปิรามิด
ให้ลำดับปริมาณอาหารจากมากไปหาน้อย คือ

1. มากที่สุด คาร์โบไฮเดรต เป็นอาหารที่สำคัญในการรับพลังงานในแต่ละวัน

2. มากผัก ผลไม้ ต้องรับประทานให้เพียงพอ และไม่หวานจัด และอาหารประเภทนี้จะมี วิตามิน เกลือแร่ และเส้นใยที่ใช้บำรุงร่างกาย

3. น้อย เนื้อ นม ไข่ เลือกรับประทานแต่เนื้อแดง และปลา แต่ไม่ควรมากเกิน 150 กรัม 3 ครั้ง/สัปดาห์ และ ปลา 200 กรัม 2 ครั้ง/สัปดาห์

4. น้อยที่สุด และ ไขมัน ต้องรับประทานในปริมาณน้อยที่สุด เพราะไขมันมีแคลอรี่เป็น 2 เท่าของคาร์โบไฮเครต และโปรตีน

3. หลีกเลี่ยงน้ำตาล โดยเฉพาะขนมต่าง ๆ
เพราะจะมีไขมัน และแคลอรี่ที่สูงมาก จึงควรทดแทนขนมต่าง ๆ ด้วยผลไม้สดที่ไม่หวานจัด และควรเก็บผลไม้ไว้ในที่ ๆ มองเห็น และหยิบสะดวก

4. ถ้าน้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็นครั้งคราว พยายามชดเชยด้วยการออกกำลังกาย
เพราะน้ำหนักที่มาเป็นครั้งคราว อาจก่อให้เกิดความเคยชินจนอาจมาตลอดเลยก็ได้ จึงควรพยายามชดเชยด้วยการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น
5. จำกัดการดื่มแอลกอฮอลล์
เพราะมีแคลอรี่สูงเกือบเท่าไขมันเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นเครื่องดื่มที่เหมาะกับการลดน้ำหนักก็คือ น้ำเปล่า นั้นเองค่ะ

6. หลีกเลี่ยงอาหารที่ทานแล้วหยุดยาก
เช่น ขนมกรอบ ๆ ถั่ว เนยแข็ง เป็นต้น เพราะยิ่งทาน จะยิ่งหยุดไม่ได้

7. หลีกเลี่ยงภาวะที่ทำให้เสียดายอาหารที่เหลือ
อย่างเช่นการซื้อเหมาโหล เพราะราคาประหยัดกว่า แต่คุณอาจต้องมาเสียดายกับอาหารส่วนที่เหลืออยู่ และอาจต้องรับประทานให้หมด ผลที่ตามมาก็คือ 'อ้วน' นั่นเอง

เพียงแค่การสร้างนิสัยการรับประทานง่าย ๆ เท่านี้ ภาวะที่ต้องทนทุกข์ทรมานทางใจ และทางกาย จากน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นก็จะไม่มีอีกต่อไปค่ะ

เรียบเรียงโดย Never-Age.com

ฝึกทักษะให้สมอง


หากคุณนึกไม่ออกว่าลืมแว่นตาไว้ที่ไหน หรือนึกชื่อเพื่อนร่วมงานคนใหม่ไม่ได้ แพทย์หญิงแซลดี เอส. ทัน ผู้อำนวยการศูนย์โรคความจำโรงพยาบาลเบทอิสราเอล ดีโคเนส อธิบายว่า การหลงลืมในลักษณะนี้เป็นเครื่องบ่งบอกว่าชีวิตของเรานั้นยุ่งเหยิงเกินไปจนขาดความใส่ใจ ความจำจึงไม่แม่นยำ อีกทั้งยังมีปัญหาในการย้อนนึก

แฮร์รี โลเรน ผู้เขียนหนังสือ จำแม่นในทุกอายุ: เคล็ดลับง่ายๆที่ช่วยให้สมองไม่แก่ แนะนำว่าควรฝึกสมองให้มีความพร้อมอยู่เสมอ เราพยายามออกกำลังให้ร่างกายแข็งแรง แต่ถ้าสมองทำงานบกพร่อง ร่างกายที่แข็งแรงก็คงไร้ประโยชน์ บางคนใช้วิธีจดบันทึกอย่างเป็นระเบียบ หรือบันทึกในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น แบล็กเบอรี โทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือคอมพิวเตอร์ขนาดพกพาอย่างพีดีเอ แต่ในยามที่ไม่มีอุปกรณ์เหล่านี้หรือต้องการฝึกสมอง คุณอาจต้องพึ่งเคล็ดลับช่วยจำจากผู้เชี่ยวชาญดังต่อไปนี้

ฝึกสมอง #1 เขาชื่ออะไรกันแน่

ให้ความสนใจ เมื่อได้รับการแนะนำให้รู้จักเพื่อนใหม่ จงตั้งใจฟังชื่อให้ดี แล้วสร้างภาพตัวสะกดชื่อของเขา หรือถามไปว่า ชื่อ วิรัตน์สะกดด้วย ช. ช้าง หรือ ตน์ ครับ จากนั้นพยายามผูกชื่อเข้ากับเรื่องราวเพื่อให้จำแม่นยิ่งขึ้น (ชื่อวิรัตน์เหมือนกับครูประจำชั้นสมัยมัธยมปลาย) เอ่ยชื่อเพื่อนบ่อยๆขณะสนทนาและก่อนล่ำลา

สร้างภาพจากชื่อ สำหรับชื่อที่จำยาก (เช่น อภิชยมณี) จงพยายามทำให้มีความหมาย เวลาพูดถึงชื่ออภิชยมณี ให้นึกถึงพระอภัยมณี และนึกภาพไปด้วย จากนั้นมองหาลักษณะเด่นของคนคนนั้น (คิ้วหนา จมูกโต) แล้วสร้างความสัมพันธ์ระหว่างชื่อกับใบหน้า หากอภิชยมณีมีจมูกโต อาจลองนึกภาพพระอภัยมณีนั่งเป่าปี่บนจมูกของเขา การสร้างเรื่องตลกจะช่วยให้จำแม่นขึ้น

สร้างภาพที่น่าจดจำ ลองนึกภาพนายชัยวัฒน์ อินทนนท์ตระกูลยืนอยู่บนยอดดอยอินทนนท์ ดร. กินี เกรแฮม สกอต ผู้เขียนหนังสือ เพิ่มพลังความจำภายใน 30 วัน แนะว่า หากต้องการจำชื่อนางปทุมรัตน์ บัวสอนดี ประธานบริษัทสถาปนิก ให้ลองนึกภาพเธอกำลังถอนสายบัวทำความเคารพอยู่หน้าอาคารหลังใหญ่

แอบโกงเล็กน้อย เคล็ดลับข้อนี้จะดูเป็นรูปธรรมมากขึ้น เมื่อคุณได้รับนามบัตรจากเพื่อนใหม่ ให้แอบจดข้อมูลบางอย่างไว้ด้านหลัง (สวมแว่นกรอบทอง บ้านอยู่ที่รามอินทรา) เพื่อช่วยเตือนความจำ

ฝึกสมอง #2 ฉันลืมแว่นตาไว้มุมไหนของโลก

พูดเตือนตัวเอง ดร. สกอตแนะนำให้ใส่ใจกับเหตุการณ์ขณะวางแว่นตาลงบนโต๊ะและพูดเตือนตัวเอง อย่างเช่น ฉันใส่กุญแจในกระเป๋าเสื้อคลุม การพูดย้ำทำให้เกิดความจำที่ชัดเจน

ฝึกให้เป็นนิสัย หาตะกร้าใบเล็กวาง บนมุมโต๊ะ ฝึกตัวเองให้วางกุญแจ แว่นตา โทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือสิ่งของที่ใช้บ่อย (หรือลืมบ่อย) ในตะกร้าใบนี้ทุกครั้ง

ฝึกสมอง #3 วันนี้ฉันต้องทำอะไรบ้าง

เล่นกับความคุ้นเคย แครอล วอร์เดอร์แมน ผู้เขียนหนังสือ สมองมหัศจรรย์: 101 วิธีฝึกสมองให้เฉียบแหลมยิ่งขึ้น แนะว่า หากต้องการเตือนตนเองให้ทำกิจวัตรเดิมๆที่คุ้นเคย (เช่น เขียนบัตรอวยพร นำเสื้อไปส่งร้านซักรีด) ควรใช้วิธีเตือนที่แปลกไปจากเหตุการณ์ปกติ หากนำใบแจ้งหนี้มาวางไว้บนโต๊ะเช่นทุกครั้ง คุณก็มักจะลืมไว้ตรงนั้นและพลาดชำระหนี้ในที่สุด แต่ถ้านำกุญแจรถยนต์หรือผลไม้มาวางทับไว้ เมื่อสังเกตเห็นข้าวของอยู่ผิดตำแหน่ง คุณจะนึกได้เองว่าต้องนำใบแจ้งหนี้ไปชำระเงิน

ร้องเป็นเพลง หากต้องจดจำรายการหลายอย่าง (เช่น รายการซื้อของ หมายเลขโทรศัพท์ สิ่งที่ต้องทำในวันนั้น) วอร์เดอร์แมนแนะให้นำมาร้องเป็นเพลงที่คุ้นเคย เช่น เพลงสุขสันต์วันเกิด หรือเพลงของเด็กอนุบาล

หาเครื่องช่วยจำ ใช้วิธีสร้างประโยคที่จำง่าย หรือใช้ตัวย่อ เช่น สีทั้งเจ็ดของรุ้งกินน้ำคือ แม่คนนี้ขาวเหลืองสวยดี (ม. ค. น. ข. ล. ส. ด. เท่ากับม่วง, คราม, น้ำเงิน, เขียว, เหลือง, แสด, แดง)

ใช้ร่างกายให้เป็นประโยชน์ หากต้องการจดจำรายการซื้อของ หรือสิ่งที่ต้องทำโดยไม่ใช้กระดาษกับปากกา ดร. สกอตแนะให้ใช้อวัยวะในร่างกายเป็นเครื่องช่วยจำ เริ่มจากเท้าขึ้นมาจนถึงศีรษะ หากรายการซื้อของประกอบด้วยกาว, อาหารแมว, บรอกโคลี, เนื้อไก่, องุ่น และแปรงสีฟัน ให้ลองสร้างภาพขึ้นในใจว่าเท้าของคุณเหยียบติดกาว มีแมวเกาะบนหัวเข่าร้องหาอาหาร บร็อกโคลีงอกออกมาจากกระเป๋ากางเกง เนื้อไก่ติดอยู่กับสะดือ พวงองุ่นห้อยอยู่บนหน้าอก และปากคาบแปรงสีฟัน

วิธีแบบโรมัน ดร.สกอตแนะให้ใช้ วิธีห้องโรมันซึ่งเป็นการสร้างความเกี่ยวข้องระหว่างรายการซื้อของหรือสิ่งที่ต้องทำกับสิ่งของในห้องที่คุ้นเคย ที่ทำงาน หรือเส้นทางไปทำงาน การสร้างภาพความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดจะช่วยให้จดจำแม่นขึ้น เช่น ลูกแอปเปิลห้อยมาจากโคมไฟระเบียง ธัญพืชอบกรอบกระจายอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น ฟองแชมพูลอยอยู่เต็มห้องครัว และมีเนยแข็งอยู่บนเตียง

ฝึกสมอง #4 รหัสผ่านของเว็บไซต์นี้คืออะไร

สร้างภาพจากตัวเลข จินตนาการภาพตามรูปร่างของตัวเลข 0 คือลูกบอล หรือแหวน, 1 ปากกา, 2 หงส์, 3 กุญแจรัดข้อมือ, 4 เรือใบ, 5 หญิงตั้งครรภ์, 6 กล้องยาสูบ, 7 บูมเมอร์แรง, 8 ตุ๊กตาหิมะ และ 9 ไม้เทนนิส หากรหัสบัตรเงินสดของคุณคือตัวเลข 4298 ให้ลองนึกภาพว่าคุณอยู่บนเรือใบ (4) มีหงส์ (2) ตรงเข้ามาทำร้าย คุณจึงตีมันด้วยไม้เทนนิส (9) แล้วเสกให้เป็นตุ๊กตาหิมะ (8) รับรองได้ว่าภาพแบบนี้ลืมยาก

คำพ้องเสียง หากคำที่พ้องเสียง กับตัวเลขตั้งแต่ 1 ถึง 9 (เป็ด หมายถึง 7, จิ้งจก หมายถึง 6) จากนั้นให้สร้างเรื่อง-ราวจากคำพ้องเสียง เช่น พี่ (4) ของฉันกินเป็ด (7) เพื่อฉลอง (2) ที่ได้ลูกแฝด (8)

ฝึกสมอง #5 คำพูดติดอยู่ที่ปลายลิ้น

ฝึกท่องพยัญชนะ ก ข ค... หากคุณนึกชื่อภาพยนตร์ไม่ออก ให้ท่องพยัญชนะ (ออกเสียงหรือท่องในใจ) ตามลำดับ เมื่อถึงอักษร ส ชื่อของภาพยนตร์ สุริโยทัย จะถูกกระตุ้นขึ้นมาในความคิดของคุณโดยอัตโนมัติ เคล็ดลับข้อนี้ใช้ได้ดีในห้องสอบเช่นกัน

ฝึกสมอง #6 ฉันจำเรื่องราวต่างๆไม่ได้เลย

จงอ่าน พูด เขียน (หรือพิมพ์) และฟัง หากคุณต้องการจดจำเรื่องราวหรือปาฐกถาต่างๆ จงอ่านหรือพิมพ์เนื้อเรื่องในคอมพิวเตอร์ ขั้นต่อไป ให้อ่านออกเสียงดังๆและบันทึกไว้ แล้วเปิดฟังซ้ำวันละหลายรอบ ขณะคุณท่องจำ อย่าลืมปิดโทรทัศน์ ถอดหูฟังเครื่องเล่นเอ็มพี3 และปิดคอมพิวเตอร์เพื่อสร้างสมาธิ

ใช้สี ใช้ปากกาสีขีดเส้นใต้ หรือวงข้อความสำคัญต่างๆที่อยากเน้นเป็นพิเศษ (เนื้อหาที่ขีดเส้นใต้สีแดงมักทำให้คุณจำแม่นกว่าตัวอักษรทั่วไป)

สร้างแผนที่ สร้างภาพสี่แยกในใจ โดย นำข้อความ คำพูด หรือตัวเลขที่จะช่วยเตือนความจำใส่ไว้ตามมุมถนน

Credit : http://www.readersdigestthailand.co.th/article/2383/

ทำนายดวงคนรักของคุณจากวันเกิด

คนรักของคุณเกิดวันอะไรค่ะ...วันนี้เรามีคำทำนายดวงความรักจากตัวเลขวันเกิด(ของคนรัก)มาฝากกันค่ัะ จะแม่นขนาดไหนไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ


คนรักที่เกิดวันที่ 1

ภายนอกดูผิด คิดว่าเจ้าชู้ แต่เป็นคนที่มีความรักความจริงจังไม่ลวงหลอกใคร ชอบเป็นผู้นำมากกว่าผู้ตาม อยากให้คนที่รักเห็นคุณค่า และให้ความสำคัญแก่ตน ถ้าไม่สนใจขอลาแน่ ๆ เพราะเป็นคนที่หยิ่งทนงไม่น้อย

คนรักที่เกิดวันที่ 2

มีอารมณ์ที่หลากหลาย อ่อนไหว รักง่าย โกรธง่าย อาจจะอ่านยากสักหน่อย หวาดระแวง ไม่ค่อยไว้ใจใคร หมกมุ่น โหยหาความรัก แต่มักผิดหวังอยู่บ่อย ๆ ขนาดตัวเองเป็นคนที่มีความรักและมักเอาใจใส่ต่อผู้อื่นเสมอ

คนรักที่เกิดวันที่ 3

เป็นคนที่รักใครรักจริง แต่ชอบเป็นผู้นำ ชอบบงการโดยเฉพาะแฟน ใจร้อนเป็นไฟ คบแฟนทีละหลาย ๆ คน แต่ก็มีอยู่ในใจหนึ่งเดียว มีความคิดสร้างสรรค์ ไอเดียแปลกใหม่ เพื่อนฝูงห้อมล้อมชอบสังสรรค์ มีแฟนเยอะ ชอบความตื่นเต้นแปลกใหม่ หัวใจกระชุ่มกระชวย

คนรักที่เกิดวันที่ 4

เป็นผู้ที่มีความคิดเห็นแปลกแยกจากสังคม อ่อนไหวมาก ๆ ไม่ชอบถูกใครมาตีกรอบ ตกหลุมรักคนง่าย หลงคนง่าย อยู่คนเดียวไม่ได้นาน ยอดเจ้าชู้ ชอบมองคนที่มีความเพียบพร้อม หน้าตาดี มีความคิดแจ๋วเลย ยิ่งเป็นคนรู้สึกเยอะลึกซึ้งจะชอบเป็นพิเศษ คู่ส่วนใหญ่จะมีหน้าตาดี และไม่ค่อยจะอดทนกับคนที่ชอบหึงหวง ไม่สนับสนุนความคิดตน อยากได้คนที่ดูแลเอาใจใส่

คนรักที่เกิดวันที่ 5

มีความเป็นมิตรสูง มีเพื่อนฝูงมากมาย มักอยู่กับกลุ่มเพื่อน บางครั้งก็แอบมองแอบชอบเพื่อนในกลุ่ม จนได้เป็นแฟนกัน มีข้อดีข้อเด่นคือเป็นนักวิเคราะห์นักคิดและนักพูดที่มีพรสวรรค์ อยากมีความรักที่ไม่ต้องพูดมาก คนที่ดูแลคอยเอาใจใส่จะพิชิตใจคนเกิดวันที่ 5 ได้

คนรักที่เกิดวันที่ 6

เขาเป็นคนที่มีอารมณ์ศิลปะ ค่อนข้างอ่อนไหว มีความเป็นตัวเองสูง มีรสนิยมดี รักคนง่าย แต่ถ้าจะคบกับใครจริงๆจังๆนี่ยากหน่อย ช่างเลือกมาก ๆ ต้องการคนที่คอยเอาใจใส่ และตามใจปล่อยให้ทำอะไรตามใจได้บ้าง ถ้าให้อิสระกับเขา จะคบกันได้ยืนยาวแน่นอน

คนรักที่เกิดวันที่ 7

สติปัญญาดี มีความรู้หลายหลาก มีเสน่ห์ใครเห็นก็รักก็หลง แต่แปลกนะที่ต้องอกหัก ซ้ำรักอยู่บ่อย ๆ ชอบอยู่เงียบ ๆ ไม่ค่อยเปิดตัว ชอบอยู่กับความเหงา ความเดียวดาย นั่งมองฟ้ามองผืนหญ้าตามประสาคนอารมณ์ศิลปิน ใครที่คิดจะมาเป็นคู่ ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเขา และห้ามคิดไม่ซื่อคิดนอกใจเด็ดขาด

คนรักที่เกิดวันที่ 8

มุมานะทำงานทำการ ขยันขันแข็ง จนบางทีอาจดูห่างเหินกับคนรัก เหมือนไม่ค่อยใส่ใจกัน รักใครไม่เป็น ติดเพื่อนฝูง ชอบเที่ยวกันเป็นกลุ่ม จนแฟนต้องขอเลิก เพราะขาดการเอาใจใส่ดูแลอย่างที่ควรจะเป็น ชอบคนง่าย รักใครก็จริงจัง ชอบคนที่ผ่อนคลายไม่ค่อยเครียด มีอิสระสูง ตามใจตัวเองบ้าง

คนรักที่เกิดวันที่ 9

ชอบคนที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ แต่ต้องยอมตามใจฉันนะ ฉันขอเป็นคนคิด เธอคอยเดินตามฉันก็แล้วกัน คนที่เกิดวันที่ 9 เป็นคนที่มีความเป็นผู้นำอยู่ในสายเลือด ชอบทำงานหนักจนแทบไม่ได้หยุดหย่อน เครียดง่าย แต่เป็นคนที่นิสัยดีน่ะ ไม่ได้มองคนที่ความสวย ความหล่อ ชอบคนที่มีอะไรมากกว่านั้น มีความคิด ความอ่าน ที่เฉียบคม นี่ล่ะใช่เลย

คนรักที่เกิดวันที่ 10

เป็นคนดีคนหนึ่ง คอยดูแลแทกแคร์เอาใจแฟนได้เป็นอย่างดี ไม่มีขาดตกบกพร่อง เป็นคนที่มีความเชื่อมั่น คิดอะไรทำอะไรด้วยตัวเองเสมอ มีความจริงจัง ทำอะไรต้องสำเร็จ แต่ก็มีบางครั้งนะที่แอบมองคนอื่น แต่ก็มีเพียงคนเดียวอยู่ภายในใจ แต่ก็มีบางครั้งที่ดูเหมือนคนที่เห็นแก่ตัวไม่สนใจใครทั้งนั้น

คนรักที่เกิดวันที่ 11

ใคร ๆ ก็ชอบคนที่เกิดวันนี้ เพราะเขามีความอ่อนโยน รักใคร ๆ ได้อย่างจริงใจทั้งเพื่อนและแฟน ไม่คิดร้ายกับใคร รักความสงบ แต่เมื่อมีปัญหากับคนรักกลับไม่ค่อยกล้าที่จะพูดคุยเปิดเผยความในใจ เพราะคาดหวังสูงในเรื่องแฟน อยากให้เธอทำความเข้าใจเอง ช่างคิด ขี้น้อยใจ และขึ้หึงไม่ใช่เล่น

คนรักที่เกิดวันที่ 12

มีเสน่ห์ต่อผู้พบเห็น บุคลิกดีเด่นเป็นที่รักของเพื่อนฝูง แต่เจ้าชู้ไม่เบาเลยนะ ควงคนโน้นที คนนี้ที เปลี่ยนรักเหมือนเปลี่ยนรถ เห็นหัวใจคนเป็นของเล่นหรือไงน่ะ รักใครทีละหลายคน แบ่งห้องหัวใจได้ไม่จำกัด แต่ก็มีใจมั่นคงกับคนในดวงใจเหมือนกันนะ ถ้าเขาคนนั้นคือตัวจริง

คนรักที่เกิดวันที่ 13

มองผิวเผินเขาเหมือนคนที่วางตัวสบาย ๆ มีอิสระ มีความคิดที่ไร้กรอบ แต่ความเป็นจริงนั้นเขาค่อนข้างพิถีพิถันมีวินัยในการใช้ชีวิตมากเลยทีเดียว มีความรักมากกว่า 3 ครั้งน่ะ ต้องเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ ชอบคนที่จริงจังกับชีวิตเหมือนกัน

คนรักที่เกิดวันที่ 14

ชอบบริหารเสน่ห์ ไม่ชอบอยู่นิ่ง ๆ คุยเก่ง มีคารมคมคาย แต่เครียดง่ายเหมือนกันนะ จะมีแฟนเยอะคบทีละหลายคน เพราะเป็นคนที่สบาย ๆ เข้ากับคนง่าย มีความสนุกสนานร่าเริง หว่านเสน่ห์เสมอ ๆ เมื่อมีโอกาส

คนรักที่เกิดวันที่ 15

มีความเป็นเด็กอยู่ในตัว ชอบเล่นอยู่ในกลุ่มที่มีอายุน้อยกว่า แต่ไม่ได้คิดจะมีแฟนเด็กนะ แต่ถ้าเด็กคนนั้นมีความคิด ความอ่านดูเป็นผู้ใหญ่เกินอายุก็ไม่แน่เหมือนกัน ส่วนใหญ่คนที่มีอายุน้อยกว่าก็ชอบมาปิ๊งเหมือนกัน แต่ก็จะไม่ชอบตอบง่าย ๆ หรอก สเปกของเขานะมีอยู่ ต้องมีความชอบในศิลปะมีจุดยืนอุดมการณ์ ช่างคิด

คนรักที่เกิดวันที่ 16

มีโลกส่วนตัวสูง แต่ก็อยากมีความรักน่ะ ทั้ง ๆ ที่เวลาอยู่ในช่วงชีวิตที่สดใส มีความรัก กลับรู้สึกทุกข์และดูเศร้า ๆ แต่ก็มีความอ่อนหวาน อ่อนไหว ค่อนข้างโรแมนติก คนที่มีอารมณ์ลึกซึ้ง ดังเช่นศิลปินจะอยู่คู่กับคนเกิดวันที่16ได้ยาวนาน

คนรักที่เกิดวันที่ 17

เป็นคนที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจจริงทุก ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน หรือการทำงาน ส่วนเรื่องแฟนนั้นถ้ารู้สึกชอบใครก็กล้าที่จะเข้าไปพูดคุย แต่เป็นคนติดเพื่อนเหมือนกันน่ะ บ่อยครั้งที่ต้องใช้จ่ายหมดไปกับเพื่อนฝูง ให้ความสำคัญกับเรื่องงานเรื่องการ นี่ถือเป็นข้อดีของคนที่เกิดในวันนี้เลยค่ะ

คนรักที่เกิดวันที่ 18

ฝักใฝ่ทางด้านการศึกษาหาความรู้ ถ้าเจอคนที่มีรูปร่างหน้าตาดี แต่ว่าไม่ค่อยคิดถึงเรื่องอนาคต คนที่เกิดวันที่18แบบคุณก็ไม่สนใจนะ ชอบคนที่มีความคิดแบบผู้ใหญ่ เป็นคนค่อนข้างมองชีวิตเป็นเรื่องที่จริงจัง ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ และก็อยากให้แฟนคิดแบบเดียวกันด้วย ไม่ใช้ชีวิตแบบไร้จุดหมายปลายทางไปวัน ๆ

คนรักที่เกิดวันที่ 19

เป็นคนที่มีความตั้งใจจริง แกมหยิ่งหน่อย ๆ มีความสามารถโดดเด่น และจะเลือกแฟนที่มีหน้าตารูปโฉมดี หรือไม่ก็ต้องมีความโดดเด่นเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่ส่วนตัวแล้วเป็นคนที่เอาใจใส่ใครไม่เป็น แต่อยากให้แฟนคอยดูแลตนเองแทน ทุ่มเทให้คนรักน้อยไปนิดน่ะ

คนรักที่เกิดวันที่ 20

ความอ่อนโยนและดูสบาย ๆ ไม่เรื่องมากทำให้ดูเป็นคนที่มีเสน่ห์ น่าสนใจ แต่กลับมีบุคลิกอีกมุมอีกด้านหนึ่งด้วย คือเป็นคนใจร้อน จะเรียกว่ามีสองคนอยู่ในร่างเดียวกันก็คงไม่ผิดนัก เปลี่ยนแฟนบ่อย ๆ เพราอะไรไม่รู้ไม่ถูกใจก็ไม่อดทน เอาแต่ใจเหมือนกันนะ เวลามีแฟนก็จะเกร็ง ๆ วางตัวไม่ค่อยเป็น เลยทำให้ชีวิตรักไม่ค่อยมีความสุขเท่าที่ควร

คนรักที่เกิดวันที่ 21

มีอารมณ์ร่าเริง สนุกสนาน ฉลาดเป็นกรด ชอบเฮฮากับเพื่อนฝูง ค่อนข้างจะเจ้าชู้ มีคนที่ดู ๆ กันอยู่หลายคน บางครั้งก็ทำให้เกิดอาการมึนตึ้บ ทำอะไรไม่ถูก ก็แฟนมันเยอะน่ะ มีแต่คนที่ถูกใจทั้งนั้นเลยเลือกไม่ถูก ถ้าเกิดรีบร้อนแต่งงาน รับรองว่าเกิดปัญหาแน่ ดังนั้นดูให้ดี ดูให้แน่ใจก่อน น่าจะดีกว่าน่ะ

คนรักที่เกิดวันที่ 22

มองไปข้างหน้า มีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนคิดทำอะไร ๆ อย่างมีสติ จะชอบคนที่มีอะไรในตัว โดดเด่นดูดีมีความสามารถ มองหารักแท้ มองหาคนที่จะมาร่วมแบ่งปัน ร่วมชีวิตกันอย่างยาวนาน ไม่อยากรักกันเล่น ๆ รักแบบทดลอง แต่ก็ยังไม่พร้อมเรื่องการสร้างครอบครัว แต่งงานมีลูก เป็นครอบครัวในฝันแบบคนทั่ว ๆ ไป

คนรักที่เกิดวันที่ 23

เป็นคนชอบเที่ยว ชอบไปกับเพื่อน ๆ สนุกสนานเฮฮากัน แต่ภายในใจก็คิดและเครียดกับชีวิตพอสมควร แต่เรื่องคู่ เรื่องแฟนไม่น่าเป็นห่วง เพราะเป็นคนคุยเก่ง เจ้าคารมไม่เรื่องมาก คุยกับใครก็เป็นที่ถูกอกถูกใจ ต้องเพิ่มความอดทนเข้าไปอีกหน่อย จะได้ไม่ต้องอกหัก บาดเจ็บจากความรัก

คนรักที่เกิดวันที่ 24

เป็นผู้ที่มีเพื่อนฝูงคนรองข้างต่างชื่นชม รักใคร่ เพราะความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อ แบ่งปัน แชร์ความรู้สึกกันได้ แต่ก็หลงตัวเองเล็กน้อย ชอบให้คนมาคอยเอาใจ พูดคำหวาน ๆ ฟังแล้วมันรื่นหูดี ชอบเป็นช้างเท้าหน้า บงการแฟน และโชคดีที่ได้คนรักที่ดี แต่ตนเองก็ยังไม่รู้สึกพอใจ ใฝ่ฝันหาคนที่สมบูรณ์แบบตลอดเวลา

คนรักที่เกิดวันที่ 25

เป็นคนที่เด่นด้านความรู้สึกนะ ทั้งเรื่องแฟนและชีวิตการงาน รักเพื่อนอย่างจริงใจ ลึกซึ้งในความสัมพันธ์ แต่มักจมในความเศร้า ความทุกข์ เหตุผลนะหรือ ก็เพราะเป็นคนที่จริงจังมากเกินไปไง ไม่ได้เกิดจากอาการอกหัก หรือซ้ำรักแต่ประการใด รู้ไว้เลยว่าโลกนี้มันไม่สวยงาม อย่างที่คิดหรอก อะไรที่มันแย่ก็ต้องปล่อยวาง อย่าซีเรียส เหรียญมันยังมีสองด้านเลยจริงไหม

คนรักที่เกิดวันที่ 26

มีแบบแผน มีระเบียบ ทำงานเป็นระบบ มองหาความรักที่ยาวนาน เป็นครอบครัวที่มีความสุข แต่ช่างเลือก แม้ดูเหมือนจะเป็นคนที่ชอบคนง่าย ต้องเรียนรู้กันไป ผิดหวังบ้าง ก่อนที่จะเจอความรักที่จริงแท้ มั่นคงในภายหลัง

คนรักที่เกิดวันที่ 27
มีความปราดเปรื่อง รอบรู้หลายด้าน โดดเด่นในสังคม ชอบคนเก่ง คนที่มีความสามารถจะพบรักหลายครั้ง เพราะความรู้สึกที่ไว อ่อนไหวง่าย แต่ไม่ชอบคบกันเล่น ๆ แบบกิ๊ก อยากได้คนที่พิเศษ คอยดูแลรักกัน จริงจัง มองเห็นอนาคต ไม่ใช่แค่ถูกใจกันไปวัน ๆ รักกันไปงั้น ๆ

คนรักที่เกิดวันที่ 28

มีความเป็นผู้นำสูง มีแฟนก็ชอบขีดเส้นทางให้แฟนเดินตาม ต้องเชื่อฟัง คอยทำตามทุกอย่าง ความรักราบเรียบ ไม่ร้อนแรง บางทีอาจมีกิ๊ก แต่ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น เพราะมั่นคงในความรักกับคนเพียงคนเดียว

คนรักที่เกิดวันที่ 29

เป็นคนอ่อนน้อม ถ่อมตน ชะตาความรักมักมีอารมณ์มาเกี่ยวข้องเสมอ ช่างรู้สึก เอาแต่ใจ ประมาณว่ารักมากก็หวังมาก ทุ่มเทให้ความรักอย่างหมดตัวหมดใจ จึงเกิดอาการบาดเจ็บได้บ่อย อาจแค่เจ็บ ๆ คัน ๆ จนถึงอาการสาหัส

คนรักที่เกิดวันที่ 30

มีจินตนาการสูง เสน่ห์เหลือร้าย ดูมีความมั่นใจ ฉลาดแต่บางครั้งก็สนุกสนาน ไร้สาระแบบเด็ก ๆ บ้าง เดี๋ยวดี เดี๋ยวเครียด ยากเกินเข้าใจ มองความรักเป็นเรื่องที่สวยงาม เป็นยาชูกำลัง แต่ก็ยังไม่พร้อมจะมีความรัก จริงจังกับใครไม่เป็น

คนรักที่เกิดวันที่ 31

คล้าย ๆ กับจะเป็นคนที่มีจุดหมายในชีวิต แต่จริงๆแล้ว ก็ขาดความมั่นใจมาก ๆ ไม่กล้าที่จะคิด และตัดสินใจ กล้า ๆ กลัว ๆ ยังไม่นิ่ง ไม่จริงจังกับอะไรนัก ความรักจึงดูไกลตัว ดูไม่จริงจังสักเท่าไหร่

ดื่มน้ำอัดลม ทำวัยรุ่นก้าวร้าว

การดื่มน้ำอัดลมมากๆ อาจมีผลมากกว่าทำให้คุณต้องเข้าห้องน้ำบ่อย

แต่ยังเกี่ยวข้องกับความก้าวร้าวในวัยรุ่นด้วย โดยงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเวอร์มอนต์ เปิดเผยในสารสาร Injury Prevention ว่า วัยรุ่นที่ดื่มน้ำอัดลมมากกว่า 5 กระป๋องต่อสัปดาห์ จะมีรายงานถึงพฤติกรรมก้าวร้าวมากกว่าเพื่อนในวัยเดียวกัน โดยนักวิจัยชี้ว่า กาเฟอีนและน้ำตาลในอัดลมอาจส่งผลถึงพฤติกรรมโดยตรง หรืออาจเป็นเพราะอาการอย่างน้ำตาลในเลือดต่ำให้ก้าวร้าวรุนแรงและต้องการน้ำอัดลม หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะคนก้าวร้าวจะชอบน้ำอัดลมมากว่าเท่านั้นเอง สรุปก็คือ น้ำอัดลมอาจไม่ได้ทำให้เกิดความก้าวร้าว แต่ความเชื่อมโยงระหว่างคนกับน้ำก็ยังแยกกันไม่ออกอยู่ดี

วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

กินอย่างไร ให้สุขภาพดี

คงเคยสังเกตเห็นกันมาบ้าง ว่าผู้ชายมักจะกินจุ และกินเยอะ แต่ทำไมถึงไม่อ้วน ขณะที่ผู้หญิงเรา กินนิด ๆ หน่อย ๆ ไม่ทันไร น้ำหนักขึ้นเอา ๆ เรามาไขข้อข้องใจ พร้อมกับเคล็ดลับการกินแบบผู้ชาย ที่เราสามารถนำมาปรับใช้ได้


1.เน้นโปรตีน เพื่อเพิ่มพลังงาน เคล็ดลับสำคัญประการแรก คือ การเปลี่ยนวิธีการรับพลังงาน ผู้หญิงส่วนมากมักจะเลือกทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตอย่าง เค้ก หรือขนมปังต่าง ๆ มากกว่าที่จะทานอาหารที่ให้โปรตีน ทั้งนี้ผู้หญิงไม่ได้ต้องการอาหารที่ทานแล้วอิ่มท้องมากนัก แต่สำหรับผู้ชายเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น อยากให้คุณผู้หญิงเปลี่ยนมาเน้น โปรตีน จะพวกเนื้อหมูไม่ติดมัน หรืออกไก่ดู โปรตีนนั้นให้พลังงานได้ดีพอ ๆ กับอาหารประเภทแป้งเชียวหละ

2.เลิกกินจุบกินจิบ ผู้ชายไม่ค่อยชอบของหวาน จึงไม่ค่อยเห็นพวกเขากินของว่างหรือขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ ในระหว่างวัน ผิดกับผู้หญิงอย่างเรา ๆ ที่เห็นขนมเป็นไม่ได้ ต้องคว้าเข้าปากสักหน่อย ลองเลิกพฤติกรรมเหล่านี้เสีย หากทำตามใจปาก บ่อย ๆ น้ำหนักจะขึ้นโดยไม่รู้ตัว

3.เลือกประเภทอาหารสักนิด โดยเฉพาะอาหารซีฟู้ด (แต่อย่าทานมากเกินไป เพราะอาจทำให้คอเลสเตอรอลสูงได้) อาหารทะเลเป็นแหล่งธาตุเหล็ก และสังกะสี ที่สำคัญโอเมก้า 3 ในปลาทะเล ยังช่วยบำรุงหัวใจและสมองอีกด้วย กุ้ง หอย ปู ปลาทะเล ทานให้ได้อย่างน้อย 2 มื้อ ต่อสัปดาห์ ดีต่อสุขภาพนักแล

การเลือกทานผักผลไม้บางประเภท เช่น แครอท กับหน่อไม้ฝรั่ง ผัก 2 ชนิดนี้ มีไฟเบอร์ในปริมาณที่เท่ากัน แต่หน่อไม้ฝรั่งมีประมาณแคลอรี่และน้ำตาลน้อยกว่า ไม่ได้หมายความว่าให้เลิกกินแครอทไปเลย แต่การทานผักและผลไม้ที่หลากหลาย จะทำให้ได้รับสารอาหารที่หลากหลายมากขึ้นด้วย

เคล็ดลับง่าย ๆ ที่รู้แล้ว อย่าลืมเอาไปปฏิบัติตามกันนะคะ

เตือนฉีดกลูต้าไธโอนให้ผิวขาวเสี่ยงมะเร็ง


กระทรวงสาธารณสุข เตือนวัยรุ่นนิยมรับประทาน-ฉีด "กลูต้าไธโอน"ให้ผิวขาวเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังได้ง่าย

นพ.จิโรจ สินธวานนท์ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ปัจจุบันพบวัยรุ่นไทยทั้งชายและหญิงนิยมฉีดผิวด้วยกลูต้าไธโอนกันแพร่หลายมากขึ้นโดยเฉพาะการทำผิวให้ขาว เหมือนดาราเกาหลี แม้ว่าจะมีการเตือนถึงอันตรายจากผลที่เกิดตามมาแต่ก็ยังมีวัยรุ่นนิยมฉีดและรับประทานกลูต้าไธโอนจำนวนมาก

ทั้งนี้ประเด็นที่น่าวิตกคือปริมาณการฉีดเข้าร่างกายที่เกินขนาด 2-3 เท่าตัว ซึ่งจะทำให้เกิดผลเสียกับสุขภาพ คือจะทำให้เม็ดสีผิวลดลง ซึ่งเม็ดสีผิวของคนเราสร้างมาจากเซลล์สร้างเม็ดสี (เมลาโนไซท์) ในผิวหนัง มีประโยชน์ เหมือนแผ่นกรองแสง ทำหน้าที่จับอนุมูลอิสระ หากใช้ไปมากๆและใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้เม็ดสีผิวลดลง ภูมิต้านทานของผิวจะลดลง เกิดการระคายเคืองแพ้แสงแดดได้ง่ายขึ้นเสี่ยงต่อการ เป็นมะเร็งผิวหน้าได้

นอกจากนี้ยังอาจเกิดผลกระทบต่อจอตาโดยตรง ทำให้จอประสาทตาอักเสบได้ง่าย ถ้าอักเสบบ่อยๆอาจถึงขั้นตาบอด ที่สำคัญสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แพทยสภา ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ ยังไม่รับรองความปลอดภัยของการฉีดกลูต้าไธโอน เพื่อทำให้ผิวขาว เนื่องจากต้องคำนึงถึงผลเสียในระยะยาวที่ยังไม่มีการประเมินได้ชัดเจน

ส่วนกลูต้าไธโอนชนิดใช้รับประทานนั้นขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้ขึ้นทะเบียนรับรองโดยอนุญาตให้ใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารซึ่งมีผลต่อสุขภาพน้อยกว่า แต่หากกินนานๆก็อาจรบกวนการทำงานของไตได้เช่นกัน

นพ.จิโรจกล่าวว่า สีผิวของคนเราแตกต่างกัน คนที่มีสีผิวเข้มจะมีแคปซูลของเม็ดสีเมลานินมาก คนที่มีผิวขาวจะมีแคปซูลของเมลานินน้อย การใช้สารเพื่อทำให้ผิวขาวจะมีผลเพียงชั่วระยะหนึ่งเท่านั้นเมื่อสารหมดฤทธิ์ผิวก็จะกลับมามีสีเหมือนเดิมอีก

ดังนั้นจึงขอฝากความห่วงใยไปยังวัยรุ่นไทย ขอให้พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ ให้มีความมั่นใจในตัวเอง ไม่หลงตามกระแสดังกล่าวให้เกิดผลเสียกับสุขภาพ เลือกใช้จ่ายในด้านการศึกษาให้เกิดประโยชน์สูงสุดจะดีกว่า

วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2555

80 วิธีการเรียกรอยยิ้มจากผู้อื่น

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

คนแปลกหน้า สำหรับบางคนอาจจะหมายถึงคนที่เราแค่ไม่รู้จัก แค่คนที่ไม่เคยคุยด้วย แต่สำหรับบางคนแล้ว อาจจะหมายถึงคนที่เราไม่อยากจะเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์ คนบางคนอาจจะกลัวคนแปลกหน้า เลยปฏิเสธโอกาสที่จะได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ ซึ่งเป็นไปได้ว่า เพื่อนใหม่ของคุณนั้น อาจจะกลายมาเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของคุณในอนาคตก็ได้ ดังนั้น จงอย่าปิดกั้นตัวเองจากคนแปลกหน้าเหล่านี้ และพร้อมที่จะรับพวดเขาเข้ามาในชีวิตคุณเสมอ วันนี้ กระปุกดอทคอม จึงมี 80 วิธีที่จะเรียกรอยยิ้มจากคนที่ไม่รู้จัก และ วิธีการทำความคุ้นเคยกับคนแปลกหน้า มาฝากกันค่ะ

1. ยิ้มบ่อย ๆ
2. เปิดประตูให้กับคนที่เดินมาตามหลัง
3. จ่ายเงินให้คนที่เข้าแถวด้านหลัง
4. เขียนการ์ดคำขอบคุณด้วยลายมือ และส่งไปให้กับคนที่เขาเคยช่วยเหลือคุณ
5. ซักเสื้อผ้าเก่า ๆ และบริจาคให้คนที่เขาต้องการจริง ๆ
6. กล่าวคำชมพนักงานเสิร์ฟ พนักงานแคชเชียร์ หรือใครก็ตามที่บริการคุณให้ผู้จัดการของพวกเขาได้รับรู้
7. พยายามชมคนแปลกหน้าเรื่องรูปร่างหน้าตาของเขา
8. เขียนข้อความบนโพสท์อิท แล้วทิ้งข้อความนั้นในหนังสือที่อยู่ในห้องสมุด หรือสถานที่อื่น ๆ
9. ช่วยผู้สูงอายุถือของ
10. ส่งดอกไม้ไปให้ใครสักคนที่ไม่เป็นที่รู้จัก



11 ไปเป็นอาสาสมัครที่โรงพยาบาลเด็กหรือบ้านพักคนชรา
12 บริจาคเลือด
13. ซื้อของขวัญให้กับเพื่อนบ้านใหม่เพื่อแสดงการต้อนรับ
14. รู้จักแนะนำตัวเองกับคนแปลกหน้า
15. ให้กำลังใจผู้อื่นผ่านสังคมออนไลน์
16. เขียนจดหมายแสดงความขอบคุณ จ่าหน้าถึงเจ้าของกิจการ ผู้จัดการ หรือใครก็ตามที่คอยสนับสนุนคุณ
17. จงเคารพคนอื่นในระดับเดียวกันกับที่คุณเคารพญาติผู้ใหญ่ของคุณ
18. จงอดทนคนอื่นในระดับเดียวกันกับที่คุณอดทนน้องสาวคนเล็กของคุณได้
19. แบ่งปันอาหารหรือขนมของคุณให้กับคนที่เขาไม่มี
20. เข้าไปพุดคุยกับคนที่โดดเดี่ยว



21. บอกเจ้านาย หรือ อาจารย์ว่าเขาทำงานได้ดีมาก และคุณก็รู้สึกสำนึกในบุญคุณของเขาหรือเธอที่ช่วยสั่งสอนคุณ
22. ตกแต่งสถานที่หรือประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ ที่ทำให้คนอื่นรู้สึกดี อย่างเช่น ตกแต่งบ้านของคุณในช่วงวันหยุด หรือสร้างสรรค์งานศิลปะ
23. หากคุณได้ยินว่าวันนี้เป็นวันเกิดของใครสักคน จงเดินไปอวยพรวันเกิดให้เขา
24. ลองถามหาคำแนะนำจากใครสักคนหนึ่ง
25. ลองเอาคุ้กกี้มาที่ออฟฟิศและแจกทุกคนดูสิ
26. แจกทิปให้กับพนักงานเสิร์ฟมากขึ้นอีกนิดเมื่อคุณรู้สึกว่าพวกเขาสมควรได้
27. จงเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่คุณเชื่อ เพราะผู้คนเหล่านั้นจะมองเห็นความตั้งใจจริงของคุณ
28. ทิ้งข้อความแสดงความขอบคุณให้กับแม่บ้านในออฟฟิศดูสิ
29. ช่วยพนักงานแคชเชียร์หยิบของใส่ถุงตอนที่คุณกำลังจ่ายเงิน
30. ลุกขึ้นแล้วเอาเก้าอี้ของคุณให้คนอื่นเมื่อเก้าอี้แถวนั้นไม่มีเหลือ



31. หลีกทางให้คนที่มีของน้อยกว่าคุณได้จ่ายเงินก่อน ตอนที่คุณกำลังช็อปปิ้ง
32. โบกมือให้กับเด็กน้อยที่อยู่ในรถคันต่อจากคุณ
33. เผยแพร่ข่าวดี
34. พูดถึงคนอื่นในแง่ดีหลาย ๆ ครั้งกับบุคคลที่ 3
35. จดจำชื่อและที่อยู่ของคนอื่นอย่างแม่นยำ
36. ตอนที่คุณได้สบตากับใครสักคน อย่าลืมยิ้มให้เขาด้วย
37. เติมของที่คุณใช้ร่วมกับผู้อื่น อาทิ หยิบกระดาษมาเติมาใส่ในเครื่องถ่ายเอกสารเท่ากับจำนวนกระดาษที่คุณถ่ายเอกสารไป
38. ให้คนอื่นมาอยู่ใต้ร่มคันเดียวกันกับคุณในวันที่ฝนตก
39. ตั้งใจฟังเมื่อใครกำลังเล่าเรื่องราวของเขาโดยที่ไม่ไปขัดจังหวะ
40. เต้นรำกับคนที่ไม่มีใครขอให้เต้นรำด้วย



41. ให้กำลังใจใครสักคนเมื่อเขาเล่าความฝันของเขาให้ฟัง โดยที่ไม่ต้องไปสนใจว่าฝันนั้นจะเล็กหรือว่าใหญ่
42. ถามสูตรเด็ดเคล็ดลับกับคนที่ชอบทำอาหาร
43. ให้คนอื่นมากินเค้กหรือพิซซ่าชิ้นสุดท้าย
44. ช่วยอุดหนุนน้อง ๆ ที่ขายของเป็นรายได้เสริม
45. คอยทักคนอื่นเสมอ เมื่อเขาหรือเธอลดน้ำหนัก
46. ทำอะไรเป็นพิเศษเพิ่มขึ้นมาอีกนิด เพื่อทำให้ชีวิตของคนอื่นง่ายขึ้น
47. มีมารยาทที่ดี
48. รับฟังเมื่อคนอื่นระบายความในใจและช่วยเขาหาวิธีการแก้ไข
49.ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
50 คอยดูคนอื่นโดยที่ไม่ไปตัดสินเขา



51. พูดว่า ครับ/ค่ะ และ ขอบคุณ ติดเป็นนิสัย
52. รู้จักให้อภัยและไม่โกรธ เช่น หากมีใครสักคนมาขับรถตัดหน้าคุณ คุณก็เพียงแค่ปล่อยให้เขาไป
53. ทุก ๆ คนจะสังเกตเห็นได้หากคุณเชื่อมั่นในตนเองอย่างจริงจัง
54 อย่าเครียดตลอดเวลา
55 จงพยายามหลีกเลี่ยงความโลภ ความโกรธ และ ความไม่รู้
56.พูดแต่ความจริง
57. สอนให้คนอื่นรู้จักสร้างความแตกต่าง โดยทำให้คนอื่นดูเป็นตัวอย่าง
58. ช่วยให้คนอื่นได้เป็นอิสระ
59 ให้พื้นที่กับผู้อื่นเมื่อเขาต้องการ
60. ปล่อยให้คนอื่นได้ร้องไห้บนไหล่ของคุณ



61. สร้างแรงกระตุ้นเมื่อใครสักคนทำสิ่งที่ผิดพลาด
62. ขอบคุณคนอื่นเมื่อเขาทำงานออกมาดี
63. รู้จักเล่าเรื่องตลกขำขัน
64. ฝึกฝนในสิ่งที่คุณทำ ทุก ๆ คนชอบความเป็นมืออาชีพ
65.แพ็คของใช้จำเป็นและส่งไปให้ทหารที่กำลังปฏิบัติงาน
66.เปลี่ยนวิธีการให้ของขวัญ โดยแทนที่คุณจะรับของขวัญจากคนอื่น ก็บอกให้เขาบริจาคเงินหรือของขวัญที่จะให้คุณไปให้คนที่เขาต้องการ
67. เมื่อคุณเจอใครก็ตามที่ประสบปัญหายางรถยนต์แบน หรือว่าต้องการความช่วยเหลือ เพียงแค่หยุดรถของคุณแล้วลงไปถามเขาว่า คุณพอจะช่วยอะไรได้บ้าง
68.ใส่ความรู้สึกของคุณลงไปในสิ่งที่คุณทำ ทุก ๆ คน จะสังเกตเห็นความเป็นเอกลักษณ์
69.ใช้เวลาของคุณสอนทักษะที่คุณเองรู้ดี



70.ช่วยคนอื่นให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า อย่างเช่น ในที่ทำงานของคุณย่อมมี่เพื่อนร่วมงาน หรือคนรู้จักที่อยากมีสุขภาพดี แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ลองชวนเขาหรือเธอไปเดิน วิ่ง หรือเข้ายิมด้วยกัน
71.ส่งอีเมลแสดงความขอบคุณไปให้ฝ่ายไอทีที่เขาเคยช่วยเหลือคุณ
72.บริจาคอาหารให้การกุศล
73.เป็นปากเป็นเสียงให้กับคนอื่น มีหลาย ๆ ครั้งที่คนที่ไม่มีอำนาจต่อรอง คนไร้บ้าน หรือคนที่เป็นส่วนเกินของสังคมต้องการใครสักคนที่จะมาคอยพุดแทนพวกเขา
74.ถ้าคุณเห็นคู่รักสักคู่กำลังพยายามถ่ายรูปตัวเอง ลองเข้าไปถามว่าให้คุณช่วยถ่ายรูปให้ดีไหมดูสิ
75.ออกเศษเหรียญให้กับคนที่เข้าแถวก่อนคุณ เมื่อคุณเห็นว่าเขาต้องการเงินแค่ 5-10 บาท เพื่อที่เขาจะไม่ต้องแตกแบงค์ร้อย
76.ถ้าคุณรู้ว่าใครสักคนกำลังไม่สบาย ก็ลองชงชาร้อน ๆ ให้เขาดื่มดู
77.ยืนหยัดให้กับความเชื่อของคุณโดยที่ไม่เป็นการโอ้อวดจนเกินไป
78.ทำตัวเองให้เป็นคนที่ว่างและเข้าหาได้ง่าย
79.ทำงานและทำตามสัญญาให้เกินหน้าที่เสมอ
80.มองโลกในแง่ดีและสนใจแต่สิ่งที่ถูกต้อง