วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

“นม“ ยาวิเศษ รักษาโรคได้สารพัด


ในแต่ละปี ร่างกายของเราทุกคนจะเสื่อมลงทุกๆ วันตามธรรมชาติ ผลที่ตามมาคือ ค่าใช้จ่ายในการบำรุงผิวด้วยเครื่องสำอางกระปุกละหลายพัน อาหารเสริมที่มีราคาแพงกว่ามื้ออาหารทั้งสัปดาห์รวมกัน หรือกระทั่งการรักษาทางการแพทย์ด้วยเงินที่สะสมมาเกือบค่อนชีวิต

น่าประหลาดใจที่เครื่องดื่มธรรมด๊า॥ ธรรมดา ราคาถูก และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าเครื่องดื่มใดๆ ในโลก อย่าง "นม" กลับถูกละเลยไปอย่างน่าเสียดาย

รู้ไหมว่า นมแก้วเล็กๆ นั้น ให้คุณประโยชน์สูงทั้งในการบำรุง และซ่อมแซมรักษาส่วนที่สึกหรอได้สารพัดโรคตั้งแต่หัวจรดเท้า

เริ่มต้นจาก ฟัน ในนมมีโปรตีนสำคัญที่เรียกว่าเคซีน ทำหน้าที่เสมือนฟิล์มบางๆ ช่วยเคลือบผิวฟัน ป้องกันการสูญเสียแคลเซียม และฟอสเฟตจากเคลือบฟันเมื่อฟันสัมผัสกับกรดในปาก

กระดูก การดื่มนมในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มมวลกระดูกที่เราสูญเสียไปในแต่ละวัน และลดอัตราการเป็นโรคกระดูกพรุน และกระดูกเสื่อม

ความดันโลหิต แคลเซียมในนมเป็นยาตามธรรมชาติที่ช่วยลดความดันโลหิตทั้งในเด็กและผู้ใหญ่

หัวใจ การบริโภคแคลเซียมช่วยลดระดับของคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีในเลือด และเพิ่มระดับคอลเลสเตอรอลที่ดี นอกจากนี้แคลเซียมยังช่วยดักจับไขมันอันตรายในลำใส้ไม่ให้ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายอีกด้วย นั่นหมายถึงการป้องกันอันตรายจากระดับไขมันในเลือดสูง และลดอัตราเสี่ยงจากการเป็นโรคหัวใจ

มะเร็ง การดื่มนมช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งเต้านม แคลเซียม และไขมันจากธรรมชาติที่เรียกว่าไลโนเลอิก เป็นส่วนประกอบสำคัญในการป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ และการวิจัยพบว่าผู้หญิงที่ดื่มนมตั้งแต่เด็กมีอัตราการเป็นมะเร็งเต้านมต่ำมาก

เบาหวาน เบาหวานเป็นโรคที่พบบ่อยในเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ การดื่มนม(ที่ไม่ปรุงแต่งรส) ช่วยให้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างดี

ภาวะการขาดน้ำ เมื่อร่างกายขาดน้ำจะทำให้อ่อนเพลียและหงุดหงิด จากการวิจัย พบว่า นมช็อคโกแลตช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังจากการออกกำลังกายอย่างหนัก

ผิวพรรณ กรดแลกติกในนมจะช่วยผลัดเซลล์ผิว และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวพรรณ อีกทั้งโปรตีนในนมสดพาสเจอร์ไรส์จะกระตุ้นเซลล์ผิวให้ผลิตคอลลาเจนเพิ่มขึ้น จึงทำให้ผิวนุ่มนวล และยืดหยุ่น
และที่สำคัญ...

นมช่วยบอกลาความอ้วนได้นะ เชื่อไหมว่า คนที่ดื่มนมมีแนวโน้มที่จะผอมลกว่าคนที่ไม่ดื่มนม ไม่น่าเชื่อใช่ไหมล่ะ ก็เพราะว่านมช่วยควบคุมแคลลอรี่ โดยเฉพาะการควบคุมไขมันส่วนเกินบริเวณรอบๆ ลำตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณหน้าท้อง และมีส่วนช่วยอย่างมากในระหว่างควบคุมน้ำหนัก

ประโยชน์คุ้มค่าขนาดนี้ พร้อมจะซื้อยาวิเศษราคาประหยัดขวดนี้ ติดตู้เย็นที่บ้านไว้รึยัง?
ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.cpmeiji.com

แฟน 7 ประเภท ที่ควรหลีกให้ไกล

1. แฟนประเภทชอบรื้อฟื้น ชอบพูดแต่เรื่องเก่า ๆ สมัยที่ผ่านมานาน และชอบพูดถึงแฟนเก่าว่าดีอย่างโน่นอย่างนี้ พร้อมจับทั้งแฟนใหม่กับแฟนเก่ามาเปรียบเทียบกัน ยิ่งพูดก็ยิ่งทำให้แฟนใหม่หมดกำลังใจไปเรื่อย ๆ
2. แฟนชอบโกหกจนเป็นนิสัย การโกหก เป็นยาพิษที่บ่อนทำลายความรักได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด
3. แฟนเจ้าชู้ไม่เลือกหน้า เผลอหน่อยไม่ได้ต้องเอาตัวเข้าไปเบียดกับคนอื่น และอ้างเหตุผลเดิม ๆ ว่า เด็กเขายั่ว อย่างนี้เราก็อย่าลดตัวไปเป็นมารคอหอยเขาเลยแล้วกัน
4. แฟนที่ไม่สนว่า..จำเป็นต้องเอาใจคนรักอะไร..กันนักหนา หากรักกันจริงก็ควรดูแลเอาใจใส่ ไม่ใช่คิดว่าไม่เห็นจำเป็นต้องเหลียวแล ความรักคือการแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้แก่กัน
5. แฟนไม่เคยมีเวลาให้ รวมถึงการผิดนัด บอกปัด อ้างงานเยอะ แม้แต่วันหยุดก็ไม่รู้หายไปไหน อย่างนี้จะเป็นแฟนกันไปทำไม
6. แฟนไม่เคยทำตามสัญญา อย่าสัญญาเพียงลมปากอย่างเดียว แต่ต้องทำให้เป็นจริงด้วย
7। แฟนที่ชอบตอกย้ำซ้ำเติมปมด้อยให้น้อยเนื้อต่ำใจได้ตลอดเวลา


ขอขอบคุณข้อมูลจาก : sakid.com

แซลมอลยำสมุนไพร


ประโยชน์จากสมุนไพรที่เข้ากันอย่างลงตัวกับเนื้อแซลมอนย่าง ผ่านเครื่องน้ำยำแสนอร่อย

ส่วนผสม 1-2 ที่
* แซลมอลเลาะหนังออก 150 กรัม
* ข่าซอย 30 กรัม* ขิงซอย 30 กรัม
* ใบมะกรูดซอย 6 ใบ
* กระเทียมสดสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
* ผักชีฝรั่งซอย 5 ใบ
* ตะไคร้อ่อนซอย 2 ต้น
* ผักชีฝรั่งซอย 5 ใบ
* ตะไคร้อ่อนซอย 2 ต้น
* พริกขี้หนูซอย 6 เม็ด
* น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำเชื่อม 2-3 ช้อนโต๊ะ
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำเชื่อม 2-3 ช้อนโต๊ะ
* พริกขี้หนูซอย 6 เม็ด
* น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1 หั่นปลาแซลมอนเป็นชิ้นเต๋าขนาดพอคำ จากนั้น นำไปย่างด้วยไฟจนสุกดีแล้วพักไว้
2ใส่เครื่องปรุงที่เหลือลงเคล้าเข้าด้วยกันในถ้วยผสม ปรุงรสให้ค่อนข้างเข้มข้น จากนั้น นำเนื้อปลาที่ย่างเตรียมไว้ลงเคล้าให้เข้ากันชิมรส จัดลงจานพร้อมเสิร์ฟ
เวลาในการปรุง 15 นาที

กินไข่ ไม่ต้องหวั่นคอเลสเตอรอล


ผลการศึกษายืนยัน กินไข่ทุกวัน ไม่ได้ทำให้เป็นคอเลสเตอรอล
"กินไข่ ทำให้แข็งแรง เพราะเป็นแหล่งโปรตีนสำคัญ" กับ "กินไข่ ทำให้คอเสเตอรอลสูง" สองคำกล่าวที่ทำให้หลายคนไม่แน่ใจว่าการกินไข่ทุกวันจะดีหรือร้ายต่อร่างกายกันแน่ วันนี้เราจะมาเฉลยกัน

เมนูไข่เจียวร้อนๆ แทบจะเรียกไดว่าฟาสต์ฟู้ตคนไทยที่อร่อยสุดยอด หรือ ออมเลตแบบอเมริกันเบรกฟาสท์ ทำให้ผู้ที่รักสุขภาพมากมายเริ่มไม่ไว้วางใจ เพราะกลัวคอเลสเตอรอลที่มากับไข่แดงจะถามหา เลยเลือกกินแต่ไข่ขาว ซึ่งน่าเสียดายมากเหมือนการโยนคุณค่าของอารหารที่ดีทิ้งไป เพราะในไข่แดงประกอบไปด้วย วิตามินบี วิตามินเอ โฟเลต โคลีน เกลือแร่ แคลเซียมและเหล็ก

ไข่แดงมีโคเลสเตอรอลสูงนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ร่างกายเราก็จำเป็นต้องมีคอเลสเตอรอลที่เหมาะสมในกระบวนการเผาผลาญอาหาร หล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย หากเรากินอาหารที่มีโคเลสเตอรอลต่ำตลอดเวลา ร่างกายก็ต้องผลิตออกมาเพื่อสร้างความสมดุล เว้นแต่หากคุณมีคอเลสเตอรอลสูงอยู่แล้ว ถึงจะควรหลีกเลี่ยงไข่แดง

นอกจากนี้การกินไข่ ยังทำให้ได้ไขมันดีเพิ่มขึ้น มหาวิทยาลัย North Carolina สหรัฐอเมริกา สนับสนุนให้กินไข่ทุกวันเพราะเป็นแหล่งสารอาหารที่ดีมากโดยเฉพาะโคลีนที่มีมากในไข่แดง ซึ่งช่วยให้ระบบเซลล์สื่อประสาททำงานได้ดี ช่วยเรื่องความจำ เด็ก ๆ ควรกินสม่ำเสมอเพราะไม่ต้องห่วงเรื่องโคเลสเตอรอล
ส่วนการกินไข่ไม่ได้ทำให้อ้วน จากการติดตามศึกษาของกลุ่มคนที่รับประทานอาหารเช้าเป็นไข่เทียบกับกลุ่มที่กินซีเรียลและขนมปัง เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่กินไข่เป็นอาหารเช้าจะมีน้ำหนักตัวเฉลี่ยต่ำกว่า เพราะโปรตีนจากไข่ร่างกายจะค่อยๆย่อยเป็นพลังงานอย่างช้าๆ ต่างกับการกินคาร์โบไฮเดรตหรือไขมันจะย่อยเร็วก่วา จึงทำให้หิวเร็วและกินซ้ำมากกว่า

ไข่มีคอเลสเตอรอลสูง 200 มิลลิกรัมซึ่งสมาคมโรคหัวใจของอเมริกา (American Heart Association) ได้ให้ข้อกำหนดว่าเราควรกินอาหารที่มีโคเลสเตอรอลไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน โดยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้ทำการศึกษาว่าการกินไข่มากกว่าวันละฟอง ไม่ทำให้ความเสี่ยงของโรคหัวใจเพิ่มขึ้น แต่การปฏิเสธไม่กินไข่เลยหรือเลือกกินเฉพาะไข่ขาวไม่ใช่เรื่องที่ควรทำเพราะร่างกายหากได้โคเลสเตอรอลไม่เพียงพอร่างกายเราก็จะพยายามผลิตออกมาเอง ซึ่งอาจจะมากกว่าการกินเข้าไป

อย่างไรก็ตาม การกินไข่แบบพอดี คือวันละฟองหรือสัปดาห์หนึ่ง 3-4 ฟอง จะไม่ก่อปัญหาแต่ที่เป็นปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากการได้ไขมันส่วนเกินจากเครื่องเคียงเสียมากกว่า เช่น ไข่เจียวที่อมน้ำมัน ซึ่งนำมันจะเป็นตัวสร้างปัญหามากกว่าไข่แน่นอน และที่ปลอดภัยที่สุด การกินไข่ต้มรับรองว่าคุณได้สารอาหารที่ครบคุณค่าและปลอดภัยจากไขมันที่มาจากการปรุง สำหรับผู้ใหญ่ที่มีปัญหาสุขภาพก็ควรระมัดระวัง แต่สำหรับเด็ก ๆ ไข่คืออาหารที่คุ้มค่าคุ้มราคาเมื่อเทียบกับประโยชน์ที่ได้รับ

วันจันทร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2554

ป้องกันอาการปวดศีรษะจากความโกรธ


ป้องกันอาการปวดศีรษะจากความโกรธ (Lisa)

ความโกรธในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องปกติมาก และไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด ถ้าความโกรธนั้นมลายหายไปกับลมหายใจ แต่ถ้าความโกรธก่อให้เกิดอารมณ์ขึ้งเครียด สะสมอยู่ในความคิดอย่างไม่เลิกรา ก็จะก่อให้เกิดปัจจัยเสี่ยงกับอาการปวดศีรษะได้

ทั้งนี้ จากการศึกษาของนักวิชาการชาวอเมริกันกับผู้ใหญ่จำนวนกว่า 4,200 คน พบว่า ความโกรธเกรี้ยวกระตุ้นให้ร่างกาย หลั่งฮอร์โมนแห่งความเครียดออกมามากเกิน หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตพุ่งสูง และร่างกายก็ตะมีปฏิกิริยาตอบสนอง เช่น ปวดศีรษะ

ดังนั้น ดร।โรเบิร์ต นิโคลสัน แพทย์แผนกครอบครัวและสังคม จากมหาวิทยาลัยเซนต์หลุยส์ จึงมีข้อแนะนำในการป้องกันอาการปวดศีรษะ ดังนี้

ระงับโกรธทันใด
ให้คุณหายใจเข้าออกลึก ๆ 3 ครั้ง จะช่วยสลายความตึงเครียดออกไป

ระงับความโกรธขึ้งขุ่นแค้น
ให้เปลี่ยนสถานที่ทันที หากเป็นไปไม่ได้ ให้ใช้ความคิดโดยการสร้างจินตนาการว่า คุณกำลังวิ่งจนเหนื่อยหอบ

พูดไม่ออกบอกไม่ได้
สมมติว่า คุณกำลังโกรธบอสของคุณอยู่ และคุณไม่อาจพูดออกมาจากความคิดได้ แต่คุณสามารถเล่าให้คนอื่นฟังได้ เช่น แฟน หรือเพื่อนสนิท คนในครอบครัว มันจะช่วยสลายความรู้สึกในเชิงลบออกไปได้

อย่าคิดมาก
ให้ถามตัวเองว่า ทำไมจึงโกรธ ใครทำให้โกรธ หรือมีสาเหตุมาจากสถานการณ์หรือเปล่า ทั้งนี้ การคิดใคร่ครวญจะช่วยให้สมองโปร่งใส

คิดแต่เรื่องเดิม ๆ
อย่ามัวแต่คิดวกวนอยู่กับเรื่องเก่า ๆ ซึ่งคุณไม่อาจควบคุมมันได้ ที่ทำได้ก็คือ คุณควรเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงคนอื่น และควรหลีกเลี่ยงความคิดที่เป็นสีขาว หรือสีดำ เพราะบางอย่างอาจมีดีเลวผสมปนเปกันจนเป็นสีเทาก็ได้ ให้คุณคิดถึงคนและสิ่งที่ทำให้คุณดีใจ และมีความสุขก็จะช่วยได้เ

อาชนะความคิดแค้น
คุณควรเรียนรู้การให้อภัย แม้ว่ามันจะยากเย็นนักหนาก็ตาม แต่ก็เป็นวิธีที่ดีที่สุด เพื่อคุณจะได้ชนะความโกรธที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

อารมณ์ขันสลายรัก


อารมณ์ขันสลายรัก (Lisa)
ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาชาวแคนาดา รอด มาร์ติน ค้นพบว่า ความรักของหนุ่มสาวที่มีอารมณ์ขันนั้น ไม่ยั่งยืน เป็นไปได้หรือที่คนชอบพูดเล่น ตลกโปกฮาไม่สามารถมัดใจคนรักไว้ได้นาน
เขากล่าวว่า ความรักของผู้มีอารมณ์ขันส่วนมากมีอายุได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ โดยได้ทดลองทำแบบสอบถามนักศึกษาหนุ่มสาวในมหาวิทยาลัยได้ผลว่า ผู้ที่ชอบพูดตลก สนุกสนาน ดูมีเสน่ห์กับเพศตรงข้าม แต่ก็มักเป็นคนที่มีความรักไม่ยั่งยืน เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะผู้มีอารมณ์ขัน มักมีผู้คนรุมล้อมมากจึงไม่ใส่ใจ ที่จะผูกมัดใครไว้กับคน
หรืออาจเป็นเพราะว่าพวกเขาขาดความรู้สึกว่า เมื่อไหร่ที่พวกเขาควรจริงจังกับคู่รัก และชอบที่จะพูดเล่นให้เป็นเรื่องขำขันอยู่เสมอ ดังนั้น ผู้ที่มีอารมณ์ขันควรแก้ไขข้อบกพร่องของตนเอง คือต้องใส่ใจกับความรู้สึกของผู้อื่นว่าการพูดเล่นสนุกของพวกเขา อาจทำให้ผู้อื่นสะเทือนใจและเจ็บปวดได้
นอกจากนี้ พวกเขายังต้องเรียนรู้ความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักด้วยว่าเรื่องไหน ควรเป็นเรื่องที่ต้องพูดกันอย่างจริงจัง ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554

สวนผึ้ง ราชบุรี เมืองมนต์เสน่ห์แห่งขุนเขา




"สาวกะเหรี่ยงเคียงถิ่นตะนาวศรี ลำภาชีแก่งส้มแมวแนวหินผา ธารน้ำร้อนบ่อคลึงตรึงติดตา น้ำผึ้งป่าหวานซึ้งติดตรึงใจ...
คำขวัญของ สวนผึ้ง ราชบุรี อำเภอเล็ก ๆ ที่แฝงไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งขุนเขา และความงดงามของธรรมชาติ จนทำให้ สวนผึ้ง ราชบุรี กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย อาจเพราะความน่ามองของวิวทิวทัศน์ ความน่ารักน่าชังของ "ฝูงแกะ" ความน่าพักของ "รีสอร์ต" จึงทำให้อำเภอแห่งนี้ ติดอันดับต้น ๆ ของแหล่งท่องเที่ยวที่ใคร ๆ ก็อยากมาเยือนสักครั้ง วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับ สวนผึ้ง ราชบุรี กันอีกสักครั้ง
อำเภอสวนผึ้ง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของ จังหวัดราชบุรี ขนาบด้วยเทือกเขาตะนาวศรี ถือเป็นอำเภอสุดท้ายสุดแดนแผ่นดินไทยทางด้านตะวันตก เพราะทิศตะวันตกของ สวนผึ้ง ราชบุรี ติดต่อกับอำเภอมะริด จังหวัดทวาย เขตตะนาวศรี ของสหภาพพม่า พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบสูง เป็นภูเขาสลับกับพื้นที่ราบ ป่าไม้ยังคงอุดมสมบูรณ์ ทำให้มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี
สวนผึ้ง เดิมเป็นตำบลหนึ่งใน อำเภอจอมบึง เรียกว่า "ตำบลสวนผึ้ง" เป็นตำบลที่มีพื้นที่กว้างขวาง แต่ทุรกันดาร และแวดล้อมไปด้วยภูเขา ป่าไม้ ทำให้การการคมนาคมไม่ค่อยสะดวกสะดวกเท่าที่ควร ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง แต่เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2526 กระทรวงมหาดไทยได้ยกฐานะขึ้นเป็น "อำเภอสวนผึ้ง"
สำหรับที่มาของชื่อ "สวนผึ้ง" นั้น เนื่องจากพื้นที่โดยทั่วไปประกอบด้วยป่าไม้ และมีต้นไม้ชนิดหนึ่งที่ชาวบ้านเรียกว่า "ต้นผึ้ง" ซึ่งเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ มีสีขาวนวล ไม่มีเปลือกกะเทาะหรือลอกให้เห็น และที่สำคัญคือจะมีผึ้งและมิ้มจำนวนนับมากชอบมาอาศัยทำรัง และหนึ่งต้นก็มีมากกว่า 200 รัง ทำให้ชาวบ้านกะเหรี่ยงมักมาตีรังผึ้ง เพื่อเก็บ "น้ำผึ้ง" ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นน้ำหวานของป่ามายังชีพ โดยเรียกรังผึ้งนี้ว่า "ไหมซ่าเลียง" ขณะที่ชาวไทยเรียกว่า "ต้นชวนผึ้ง" หรือ "ยวนผึ้ง" จึงเป็นที่มาของชื่อ อำเภอสวนผึ้ง ทั้งนี้ ปัจจุบันยังมีน้ำผึ้งแท้จากป่าวางขายกันอยู่ แต่ลดน้อยลงไปมาก
สวนผึ้ง ราชบุรี
เสน่ห์ที่ทำให้ใคร ๆ ก็อยากไปเยือน สวนผึ้ง ราชบุรี นั่นก็คือ แกะ สีขาวขนปุย และ รีสอร์ต สวย ๆ ที่ประดับประดาตกแต่งไปด้วยไอเดียแจ่ม ๆ หลากแบบหลายสไตล์ ให้นักท่องเที่ยวเลือกสรรได้ตามความชอบใจ ซึ่งตั้งเรียงรายราวดอกเห็ด แต่ก็แทรกตัวกลมกลืนกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว ในส่วนของราคาก็มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลายพันบาท แต่ถ้าใครอยากไปสัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้าน ที่ สวนผึ้ง ราชบุรี ก็มีที่พักแบบโฮมสเตย์ เน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ มีบริการที่พัก อาหาร และนำเที่ยว ในราคาที่ไม่แพงไว้คอยบริการด้วย

สวนผึ้ง ราชบุรี
แต่นอกจากไปพักผ่อนกายพักผ่อนใจที่รีสอร์ตสวย ๆ แล้ว สวนผึ้ง ราชบุรี ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแจ่ว ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โป่งยุบ ปรากฎการณ์แผ่นดินยุบตัวลง และถูกน้ำกัดเซาะดินทำให้เกิดเป็นหน้าผาสูง ชันเป็นหลุมเป็นบ่อ ลักษณะคล้ายกับแพะเมืองผีที่จังหวัดแพร่
ธารน้ำร้อนบ่อคลึง เป็นธารน้ำร้อนที่ไหลออกจากซอกหินเชิงเขาตะนาวศรี มีความร้อนประมาณ 50-57 องศาเซลเซียส ไหลลงสู่สระใหญ่ เเวดล้อมด้วยธรรมชาติ ทิวทัศน์สวยงาม มีบริการให้น้กท่องเที่ยวเข้าพักผ่อนและอาบน้ำร้อน, น้ำตกเก้าโจน หรือ น้ำตกเก้าชั้น เป็นน้ำตกขนาดใหญ่สูง 9 ชั้น ตั้งอยู่ในหุบเขาที่สมบูรณ์ แวดล้อมรอบด้วยธรรมชาติ ระยะทางเดินจากชั้นล่างถึงชั้นบนประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
สวนผึ้ง ราชบุรี
เขากระโจม เป็นพื้นที่ที่สูงที่สุดในจังหวัดราชบุรี ประมาณ 1,045 เมตร จากระดับน้ำทะเล การเดินทางสู่ยอดเขาต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น สองข้างทางยังเป็นป่าเขาสภาพสมบูรณ์ พบกล้วยไม้ป่าหลากหลายอยู่ทั่วไป ทัศนียภาพโดยรวมคล้ายทางภาคเหนือ บนจุดสูงสุดเป็นเส้นแบ่งเขตแดนไทย-พม่า มีลานกว้างสำหรับกางเต็นท์พักแรม สามารถชมทัศนียภาพได้รอบบริเวณ ระหว่างทางมีน้ำตกผาแดง จุดพักชมวิว และทางเดินศึกษาธรรมชาติที่สวยงาม
อุทยานธรรมชาติวิทยา ศุนย์กลางให้ความรู้ทางด้านพันธุ์ไม้ป่า สัตว์ป่าจำพวก นก แร่ต่าง ๆ ในเขตป่าตะวันตก วิถีชีวิตคนพื้นเมือง, น้ำตกบ้านบ่อหวี เป็นน้ำตกขนาด 7 ชั้น มีความเป็นธรรมชาติอยู่มาก น้ำใสสะอาด เหนือขึ้นไปบนน้ำตกจะเป็นชายแดนไทย-พม่า มีฐานทหารรักษาการอยู่ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเดินป่าศึกษาธรรมชาติ